Digital Footprint คืออะไร ?

21 สิงหาคม 2025
|
4 อ่านข่าวนี้
|
1


ทุกวันนี้โซเชียลมีเดียถือเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันและเป็นพื้นที่แบ่งปันความรู้สึกหรือเหตุการณ์ในแต่ละวันของทุกคน แต่รู้หรือไม่ว่าทุกสิ่งที่เราโพสต์หรือแชร์ลงไปบนโซเชียลมีเดียจะคงอยู่ตลอดไป และสามารถกลับมาปรากฏอีกครั้งแบบที่เราไม่รู้ตัว สิ่งนั้นเองที่เรียกว่า Digital Footprint

Digital Footprint หรือแปลเป็นไทยว่า “ร่องรอยดิจิทัล” เป็นความหมายที่ค่อนข้างตรงตัวว่า มันคือสิ่งที่เราทำลงไปบนโลกดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นการเข้าเว็บไซต์ การสมัครรับข้อมูลข่าว ประวัติการค้นหาสินค้า การทำธุรกรรมออนไลน์ ไปจนถึงการแสดงความคิดเห็นบนโลกออนไลน์


Digital Footprint คือ รอยเท้าบนโลกดิจิทัล รวมทั้งพฤติกรรมการใช้งานโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Facebook, Twitter, Instagram และ YouTube การพิมพ์ข้อความคอมเมนต์ การโพสต์ข้อความ วิดีโอ เขียนบล็อก การเข้าสู่เว็บไซต์ การกดไลก์เพจ หรือแชร์ข้อความ พฤติกรรมการใช้งานต่าง ๆ เหล่านี้จะถูกบันทึกไว้ ให้ติดตามร่องรอยถึงตัวเราได้ ซึ่งทำให้ทั้งผู้ประสงค์ร้ายสามารถเข้าถึงเข้ามูลได้ ขณะเดียวกัน ผู้ที่ต้องการสืบค้นประวัติของคุณก็สามารถสืบค้นได้เช่นกัน

Digital Footprint มีด้วยกัน 2 ประเภท

1. Passive Digital Footprint

เป็นข้อมูลทางดิจิทัลที่เราทิ้งไว้โดยไม่เจตนา โดยไม่ตั้งใจ ไม่รู้ตัวว่าได้ทิ้งร่องรอยไว้บนอินเทอร์เน็ตเช่น IP Address รวมทั้งการค้นหาข้อมูลในเว็บไซต์ต่าง ๆ เป็น Search History หรือแม้กระทั่งพาสเวิร์ดคอมพิวเตอร์ พาสเวิร์ดเข้าเว็บไซต์ที่ถูกบันทึกไว้อัตโนมัติ

2. Active Digital Footprint

เป็นข้อมูลทางดิจิทัลที่เปิดเผยโดยเจตนา เช่น การโพสต์ลงบนโซเชียลมีเดียส่วนตัวแพลตฟอร์มต่าง ๆ

เช่น Facebook, Twitter, Instagram และ YouTube หรือการส่งอีเมล การเขียนบล็อก การคอมเมนต์

เป็นข้อความหรือรูปภาพ ซึ่งสามารถสืบค้นและส่งผลต่อชีวิตเราได้

วิธีการป้องกันและจัดการกับ Digital Footprint

อย่างไรก็ตามสำหรับสายอาชีพอินฟลูเอนเซอร์ การมี Digital Footprint อาจจะเป็นผลดีมากกว่าผลเสีย

แต่สำหรับผู้คนทั่วไปและธุรกิจองค์กรจะต้องมีความระมัดระวังในการจัดการกับ Digital Footprint ให้ดี เพราะทุกอย่างเกี่ยวกับความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวมาก ๆ โดยมีวิธีการป้องกันและจัดการกับ Digital Footprint ดังนี้

  • ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว (Privacy Settings) บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและบริการออนไลน์ต่าง ๆ ให้เหมาะสม
  • ใช้รหัสผ่านที่แข็งแรง (Strong Passwords) และไม่ใช้รหัสผ่านเดียวกันในหลาย ๆ บริการ
  • เปิดใช้การยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอน (Two-Factor Authentication)
  • ลบหรือปิดบัญชีที่ไม่ได้ใช้งาน
  • ใช้เครื่องมือในการจัดการคุกกี้ เช่น ส่วนขยายของเบราว์เซอร์ (Browser Extensions) เพื่อควบคุมการติดตามของเว็บไซต์ต่าง ๆ
  • ตรวจสอบข้อมูลที่โพสต์ออนไลน์ และคิดให้รอบคอบก่อนที่จะโพสต์ข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมูลที่สำคัญ

ข้อดี Digital Footprint

  • คุณสามารถใช้ข้อมูลจาก Digital Footprint เพื่อสร้างโฆษณาและแคมเปญการตลาดที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายนั้น ๆ ในการเพิ่มความน่าสนใจ ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการขายและการมีส่วนร่วมของลูกค้าได้มากกว่าเดิม แต่จะต้องเป็นไปตามข้อกฎหมายของ PDPA
  • ร่องรอยทางดิจิทัลของลูกค้าต่าง ๆ ที่ให้ข้อมูลการใช้งานและความคิดเห็นจากลูกค้าสามารถช่วยให้ธุรกิจปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้ตรงกับความต้องการและความคาดหวังของลูกค้ามากขึ้น
  • ข้อมูลจาก Digital Footprint ของลูกค้าและผู้ใช้งาน สามารถนำมาพัฒนาและปรับแต่งระบบ การใช้งาน การให้บริการ และอื่น ๆ เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ที่ดีที่ต่อลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย และยังสามารถนำ Digital Footprint มาใช้ในการวิเคราะห์และประเมินผล เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจทางธุรกิจ
  • Digital Footprint บนช่องทางต่าง ๆ ที่ก้าวถึงธุรกิจสามารถติดตามผลของแคมเปญการตลาด และกลยุทธ์ต่าง ๆ ได้แบบเรียลไทม์ และปรับปรุงกลยุทธ์ให้เหมาะสมตามข้อมูลที่ได้รับ ช่วยให้ธุรกิจสามารถระบุแนวโน้มและความต้องการของลูกค้าใหม่ ๆ และใช้ประโยชน์จากโอกาสในการขยายตลาด
  • การใช้ Digital Footprint อย่างมีประสิทธิภาพสามารถช่วยธุรกิจในการปรับปรุงการทำงาน และการบริการให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน และเพิ่มโอกาสในการเติบโตในตลาด

ข้อเสีย Digital Footprint

  • สำหรับคนทั่วไปหากมี Digital Footprint เยอะ ๆ และได้รับความนิยมอาจจะทำให้มีความเป็นส่วนตัวน้อยลงมากยิ่งขึ้น
  • การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่เป็น Digital Footprint โดยไม่ได้รับความยินยอมอย่างเหมาะสมอาจละเมิดความเป็นส่วนตัวของลูกค้า ทำให้ลูกค้าไม่พอใจและสูญเสียความเชื่อมั่นในธุรกิจ
  • Digital Footprint ที่ได้รับความนิยมมาก ๆ และถูกแชร์ออกไป หากเป็นเนื้อหาที่มีความเสี่ยงอาจจะโดนกระแสตีกลับที่แรกและน่ากลัวจนทำให้ตัวธุรกิจหรือตัวบุคคลเสียหายได้
  • หากลูกค้ารู้สึกว่าถูกติดตามหรือข้อมูลส่วนตัวของพวกเขาถูกใช้โดยไม่ได้รับความยินยอม อาจทำให้ลูกค้าไม่พอใจและเลือกที่จะย้ายไปใช้บริการของคู่แข่ง


การมี Digital Footprint อาจจะเป็นผลดีมากกว่าผลเสีย แต่สำหรับผู้คนทั่วไปและธุรกิจองค์กรจะต้องมีความระมัดระวังในการจัดการกับ Digital Footprint ให้ดี ควรตระหนักถึงผลกระทบทั้งในเชิงบวกและลบ พร้อมวางแนวทางป้องกันและจัดการข้อมูลดิจิทัลอย่างรอบคอบ การใช้ Digital Footprint อย่างมีสติและความรับผิดชอบ จะช่วยให้องค์กรสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลได้อย่างปลอดภัย สร้างความไว้วางใจ และเสริมสร้างความยั่งยืนในการดำเนินงานในยุคดิจิทัล


อ้างอิง

  • https://www.ttbbank.com
  • https://www.thaiprint.org/
  • https://www.secnia.go.th/
  • https://asiasearch.co.th/
0 ความคิดเห็น

Ask OKMD AI