รามอินทรา-วัชรพล "ตลาดลาดปลาเค้า" เมื่อเสน่ห์ดั้งเดิมต้องสู้กับคอมมูนิตี้มอลล์
ตลาดกับมนุษย์ - ความผูกพันที่ยาวนาน
ตลาดเป็นสิ่งที่ผูกพันกับมนุษย์มายาวนาน นับย้อนไปได้ถึงในยุคกรีกโบราณ ซึ่งมี Agora เป็นพื้นที่ที่ผู้คนในเมืองจะได้มาพบปะ แลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างกัน ในดินแดนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็ไม่แตกต่างกันนัก เมื่อผู้คนมีหลากหลาย ต่างคนต่างเพาะปลูกพืชคนละอย่าง จับสัตว์ได้คนละชนิด การค้าขายแลกเปลี่ยนก็เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
บทความ “ตลาดสด” จากจุดกำเนิดครัวไทยสู่หัวใจของการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอาหารของประเทศ โดย ชีวิน คเชนทร์เดชา ผู้อำนวยการหลักสูตรนานาชาติ Professional Culinary Arts วิทยาลัยดุสิตธานี เล่าถึงการสันนิษฐานที่มาของคำว่า “ตลาดสด” ไว้ว่าเป็นคำเรียกประเภทของตลาดมาตั้งแต่สมัยก่อน อ้างอิงจากคำให้การขุนหลวงวัดประดู่ เอกสารจากหอหลวง ยุคปลายกรุงศรีอยุธยา คาดกันว่าเขียนขึ้นในสมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 ข้อความว่า “รวมตลาดร้านชำยี่สิบเอดตำบล ตลาดฃองสดฃายเช้าเยนสี่สิบตำบล รวมเข้ากันทั้งสิ้นเปนตลาด ๖๑ ตำบล แต่ในจังหวัดกำแพงพระนครนั้นมีตลาดหกสิบเอดตลาด” โดยคำว่า ของสด หมายความถึง วัตถุดิบสำหรับปรุงอาหาร หรืออาหารปรุงพร้อมรับประทาน ซึ่งมักจะขายในช่วงเช้าและช่วงเย็นของทุกวัน
ตลาดสดไม่ใช่เพียงแค่พื้นที่ซื้อขายสินค้า แต่ยังเป็น หัวใจของชุมชน สะท้อนถึงวิถีชีวิตของผู้คนในย่านนั้นๆ และยังเป็นสถานที่ที่ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมด้านอาหาร การค้าปลีก และความสัมพันธ์ทางสังคม ไม่ว่าจะเป็นตลาดสดในอดีตเมื่อหลายพันปีก่อน ตลาดสดเมื่อหลายร้อยปีที่ผ่านมา หรือตลาดสดในช่วงเวลาปัจจุบัน
ตลาดลาดปลาเค้า: ภาพสะท้อนของตลาดสดในชุมชนเมือง
เมื่อเราเดินเข้ามาในพื้นที่ตลาดลาดปลาเค้า ซึ่งเป็นตลาดชุมชนเก่าแก่ ตั้งอยู่ในทำเลสำคัญของกรุงเทพฯ โครงสร้างของตลาดเป็นอาคารหลังคาชั้นเดียว ซึ่งมีการจัดสรรพื้นที่เป็นโซนต่างๆ เรียงรายอยู่ตลอดทางทั้งซ้ายขวา
- ทางซ้ายจะเป็นโซนอาหารสำเร็จรูป ที่ร้านขายก๋วยเตี๋ยว อาหารตามสั่ง ขนมหวาน และเครื่องดื่ม ที่มีโต๊ะให้ลูกค้านั่งรับประทานอาหารอยู่บ้างประปราย
- ทางขวาจะเป็นโซนเนื้อสัตว์และอาหารทะเล ที่มีร้านขายหมู เนื้อไก่ ปลา และอาหารทะเลสด และโซนผักผลไม้ – จำหน่ายผักพื้นบ้านและผลไม้ตามฤดูกาล
- ตรงกลางตลาดจะเป็นโซนของแห้งและวัตถุดิบทำอาหาร ที่มีร้านขายข้าวสาร เครื่องปรุงรส น้ำพริก ผักดอง กะทิ ฯลฯ
- ส่วนด้านท้ายตลาดจะเป็นโซนอุปกรณ์ทำครัว ที่จำหน่ายเครื่องครัว ถ้วยชาม อุปกรณ์ทำอาหาร และของใช้พลาสติกในครัวเรือน
เมื่ออ้างอิงการแบ่งกลุ่มตลาดจากหนังสือ 'ตลาดในกรุงเทพมหานคร' การขยายตัวและพัฒนาการ สามารถเทียบได้ว่า ตลาดแห่งนี้ เป็นตลาดระดับกลุ่มชุมชน เพราะตั้งอยู่ใกล้กับถนนสายหลัก ประกอบไปด้วยอาคารตลาดลด ตึกแถว อาคารพาณิชย์ และหาบเร่แผงลอย สินค้าบริการในตลาดมีความหลากหลาย อาคารรอบๆ มีร้านค้าหลากหลายรูปแบบ ทั้งร้านจำหน่ายเครื่องเขียน เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ร้านขายยา ร้านอาหาร ฯลฯ ซึ่งนับว่าครอบคลุมความต้องการพื้นฐานสำหรับการใช้ชีวิตในพื้นที่ชุมชนบริเวณใกล้เคียง
ความเปลี่ยนแปลงของตลาดลาดปลาเค้า
แม้ตลาดลาดปลาเค้าจะเป็นตลาดที่มีความเก่าแก่ ตลาดเริ่มเผชิญกับภาวะซบเซา แต่หนึ่งในตัวอย่างของร้านค้าที่อยู่คู่ตลาดมานานคือ ร้านเจ๊หวานข้าวเปล่า ซึ่งเปิดขายข้าวสวยหุงสำเร็จตั้งแต่ช่วงปี 2530s ซึ่งน่าจะเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ห้างเซ็นทรัลรามอินทราเพิ่งมาเปิดใหม่ในย่านนี้ โดยในอดีตร้านเจ๊หวานข้าวเปล่าสามารถขายข้าวสวยหุงสำเร็จได้เป็นจำนวนมาก แต่ในปัจจุบันต้องเพิ่มสินค้าใหม่ เช่น น้ำพริก ปลาทอด เพื่อให้ธุรกิจอยู่รอด
“ตอนนั้นขายดีมาก ขายไม่ทัน ช่วงน้ำท่วมปี 2554 น้ำท่วมถึงหน้าแข้ง ยังขายหมดเกลี้ยง แต่ช่วงสิบปีให้หลังนี่ตลาดเงียบเหงาลงมาก ตอนแรกเราขายแค่ข้าวนึ่งก็อยู่ได้สบาย แต่ทุกวันนี้ต้องขายน้ำพริก ปลาทอด เพิ่มเข้าไปด้วย แต่จะให้เปลี่ยนไปทำอย่างอื่นก็ไม่รู้จะทำอะไร ถึงเเม้เราจะมีลูกค้าขาประจำกลับมาซื้ออยู่บ้าง แต่ก็ล้มหายตายจากไปเยอะ จะทำอย่างไรได้ ก็ต้องยอมรับว่ามีตลาดใหม่ๆ คู่แข่งใหม่ๆ เกิดขึ้นทุกวัน” ป้าหวาน แม่ค้าในตลาดลาดปลาเค้าบอกเล่ามุมมองของตัวเองเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงไปของย่านอันเป็นที่มาของความซบเซาของตลาดแห่งนี้ ซึ่งการลดลงของลูกค้าในตลาดอาจมีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงทางสังคม พฤติกรรมของผู้บริโภค และการแข่งขันจากรูปแบบค้าปลีกสมัยใหม่
คอมมูนิตี้มอลล์: ผู้ท้าชิงรายใหม่ในย่านรามอินทรา-วัชรพล
ปัจจุบันในย่านรามอินทรา-วัชรพล มี ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ 3 แห่ง ได้แก่ เซ็นทรัล รามอินทรา แฟชั่นไอส์แลนด์ และ The Promenade นอกจากนี้ ยังมีคอมมูนิตี้มอลล์มากมาย เช่น Ease Park รามอินทรา กม.4.5 The Alley Ramintra The Jas Ramintra เพลินนารี่ มอลล์ วัชรพล The Crystal
แม้ว่าคอมมูนิตี้มอลล์หลายแห่งได้รับเงินลงทุนมหาศาล แต่บางแห่งกลับไม่สามารถอยู่รอดได้ และต้องปิดตัวลง อย่างไรก็ตาม บางแห่งสามารถปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของผู้บริโภค โดยเน้นกลยุทธ์ที่แตกต่างกัน เช่น การเพิ่มพื้นที่สีเขียว พัฒนาเป็นศูนย์รวมสุขภาพ หรือสร้างจุดขายที่แตกต่างจากห้างค้าปลีกทั่วไป
ผลกระทบของคอมมูนิตี้มอลล์ต่อตลาดสดในพื้นที่
ผู้บริโภคเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรม จากการเดินตลาดสดมาเป็นการจับจ่ายในคอมมูนิตี้มอลล์ ตลาดสดเริ่มสูญเสียลูกค้ากลุ่มเดิมที่หันไปซื้อของในสถานที่ที่มีความสะอาดและทันสมัยมากขึ้น ผู้ค้าต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น ทำให้บางรายต้องปรับตัวโดยเพิ่มสินค้าใหม่ หรือเปลี่ยนไปขายในแพลตฟอร์มออนไลน์
ตลาดสดในอนาคต: ปรับตัวหรือหายไป?
เพื่อให้ตลาดสดอยู่รอดในยุคของคอมมูนิตี้มอลล์ อาจต้องพิจารณากลยุทธ์ต่อไปนี้ เช่น ปรับปรุงโครงสร้างตลาด ให้มีความสะอาดและเป็นระเบียบมากขึ้น สร้างจุดขายด้านวัฒนธรรมอาหาร เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและผู้บริโภครุ่นใหม่ ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เช่น การให้บริการสั่งซื้อของผ่านแอปพลิเคชัน หรือการโปรโมตตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย ภาครัฐและเอกชนสามารถเข้ามามีบทบาทในการพัฒนาตลาดสด เพื่อให้ตลาดเหล่านี้ยังคงเป็นแหล่งค้าขายสำคัญของชุมชน
บทสรุป
ตลาดลาดปลาเค้าเป็นตัวอย่างของตลาดสดที่ได้รับผลกระทบจากการเติบโตของคอมมูนิตี้มอลล์ ความซบเซาของตลาดสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค ซึ่งเลือกความสะดวกสบายมากกว่าบรรยากาศแบบดั้งเดิม คำถามที่ยังคงอยู่คือ: ตลาดสดสามารถอยู่ร่วมกับคอมมูนิตี้มอลล์ได้หรือไม่? หากตลาดสดสามารถปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยได้ ตลาดเหล่านี้อาจรักษาฐานลูกค้าเดิม และดึงดูดลูกค้าใหม่ได้ บทบาทของภาครัฐและภาคเอกชนจะมีความสำคัญต่อการดำรงอยู่ของตลาดสดในอนาคต ตลาดลาดปลาเค้า และตลาดสดอื่นๆ ในย่านนี้ ยังต้องเผชิญกับความท้าทายอย่างต่อเนื่อง และหากไม่มีการปรับตัว ตลาดสดแบบดั้งเดิมอาจเหลือเพียงอดีตที่เลือนรางไปกับกาลเวลา
