รามอินทรา เศรษฐกิจบุญนิยม : วิถีสันติอโศก

ชุมชนสันติอโศกเป็นตัวอย่างของการดำเนินชีวิตสวนกระแสทุนนิยม ด้วยแนวคิด ‘เศรษฐกิจบุญนิยม’ ที่เน้นการพึ่งตนอย่างมีศีลธรรม การใช้แรงงานแทนเงิน การผลิตเพื่อบริโภคในชุมชน และค้าขายโดยไม่เอาเปรียบ โดยยึดหลักธรรมะเป็นแก่นกลางของชีวิต
วิถีสวนกระแสกลางเมือง : ชุมชนสันติอโศก
กลางย่านรามอินทรา ที่เต็มไปด้วยทางด่วน รถยนต์ และวิถีคนเมือง ยังมีชุมชนแห่งหนึ่งที่เดินสวนกระแสกับโลกสมัยใหม่ทุกย่างก้าว ดำรงตนอย่างเรียบง่าย สงบร่มเย็น และมีชีวิตที่หมุนรอบ ‘ธรรมะ’ ไม่ใช่ ‘ทุน’ นั่นคือ ‘ชุมชนสันติอโศก’ หมู่บ้านทางเลือกของผู้แสวงหาความหมายแท้ของชีวิต ด้วยหัวใจแห่งการเสียสละและพึ่งตนเอง
กำเนิดจากธรรมะ : จุดเริ่มต้นของสันติอโศก
‘สันติอโศก’ ถือกำเนิดบนรากของความพอเพียง เรียบง่าย และ ‘การพึ่งตนอย่างมีศีลธรรม’ ชุมชนอโศกในแต่ละแห่งไม่ใช่เพียงสำนักสงฆ์หรือแหล่งบำเพ็ญธรรม แต่คือ แบบจำลองของเศรษฐกิจทางเลือก ที่ดำรงอยู่ได้โดยไม่เบียดเบียนสิ่งแวดล้อม ไม่หวังผลกำไรสูงสุด และไม่ลืมความหมายของการเป็น ‘มนุษย์ที่สมบูรณ์’

พลังศรัทธาผู้นำ
เรืออากาศตรีแซมดิน เลิศบุศย์ หรือ ที่ในชุมชนเรียกกันติดปากว่า ‘พี่แซม’ นายกสมาคมผู้ปฏิบัติธรรม ผู้ร่วมก่อตั้งสันติอโศก ในยุคแรก ย้อนความให้ฟังว่า สันติอโศกก่อกำเนิดขึ้นในช่วงปลายพุทธทศวรรษที่ 20 โดยการนำของ สมณะโพธิรักษ์ นักคิดและนักบวชที่เปี่ยมพลังแห่งการตั้งคำถามต่อระบบบริโภคนิยมแบบทุน เขามิได้เพียงแสดงธรรม แต่ลงมือสร้างรูปธรรมของสังคมใหม่ ชุมชนที่ยืนอยู่ได้ด้วยคุณธรรม มากกว่าการไหลไปตามตลาด
จากกลุ่มผู้ใฝ่ธรรมไม่กี่คน สันติอโศกเติบโตเป็นชุมชนใหญ่ที่มีทั้งวัด โรงเรียน ร้านค้า ฟาร์มเกษตรอินทรีย์ และเครือข่ายชุมชนในต่างจังหวัด ทั้งหมดนี้ดำรงอยู่ด้วยระบบ ‘เศรษฐกิจบุญนิยม’ ที่ไม่ได้ตั้งอยู่บนกำไรสูงสุด แต่ตั้งอยู่บน ‘บุญสูงสุด’

เศรษฐกิจบุญนิยม : ไม่ใช่ตัวเลขแต่คือบุญ
ดังนั้น ‘เศรษฐกิจ’ จึงไม่ใช่เรื่องตัวเลข แต่คือ การสร้างปัจจัยสี่จากการลงแรงของตนเอง เช่น การปลูกผักปลอดสารพิษ ในระบบเกษตรอินทรีย์ ไม่ใช้สารเคมี ไม่เบียดเบียนสัตว์ เป็นแหล่งอาหารหลักให้ชุมชน การแปรรูปอาหารมังสวิรัติ เช่น เต้าเจี้ยว ข้าวกล้องอบกรอบ ขนมปังโฮลวีต น้ำพริกสมุนไพร สินค้าเหล่านี้ไม่เพียงเลี้ยงตนเอง แต่ยังสร้างรายได้จากการจำหน่ายในเครือข่ายมิตรธรรม การทำงานโดยไม่รับเงินเดือน เป็นวิถีปฏิบัติที่ทุกคนในชุมชนยึดถือ เพราะ ‘แรงงานคือบุญ’ และ ‘ปัจจัยคือส่วนเกิน’

ร้านบุญนิยม : ตลาดธรรมะตรงข้ามทุนนิยม
สินค้าส่วนใหญ่จะจำหน่ายผ่านร้าน ‘บุญนิยม’ ซึ่งตั้งอยู่ทั้งในและนอกชุมชน รวมทั้ง วันหยุดเสาร์ - อาทิตย์ จะมีร้านค้าชุมชน นำสินค้าปลอดสารพิษมาจำหน่าย ราคาถูกกว่าท้องตลาดเพราะไม่บวกกำไรเกินควร และมีแนวทาง ‘ค้าขายแบบไม่มีการโกง’ เป็นแกนหลัก กิจกรรมเพื่อฝึกใจและเสริมชุมชน ซึ่งเดินทางขนานกับ ‘ทุนนิยม’ อย่างสิ้นเชิง
ตลอดทั้งปี ชุมชนสันติอโศกจัดกิจกรรมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเสริมสร้างทั้งจิตวิญญาณและปฏิบัติการของสมาชิก เช่น ตลาดอาริยะ: ตลาดที่สินค้าทุกชิ้นไม่มีการตั้งราคา ผู้ซื้อบริจาคตามศรัทธา ถือเป็นการฝึก ‘ใจให้สละ’ ทั้งผู้ให้และผู้รับ

ฝึกใจผ่านกิจกรรมค่ายเยาวชน
นอกจากนี้ยังมีการจัดค่ายอบรมเยาวชน เพื่อ ‘อบรมใจ ใฝ่ธรรม’ ฝึกวินัยตนผ่านกิจกรรมกลางแจ้ง การลงแรง และการบวชเนกขัมมะชั่วคราว รวมทั้ง มีการฟังธรรมและประชุมจิตสาธารณะ สมณะและฆราวาสที่มารวมตัวกันทุกสัปดาห์เพื่อศึกษาธรรมะ และสื่อสารความเคลื่อนไหวของชุมชน
พี่แซมเล่าว่า ในแต่ละวันของชาวอโศกมีกิจวัตรที่ฝังรากลึกในจารีต เช่น ตื่นแต่เช้าตรู่ สวดมนต์ เดินจงกรม ก่อนเริ่มงาน, กินอาหารมื้อเดียวในช่วงสาย เพื่อฝึกความพอเพียงและลดภาระในการดำรงชีวิต, แต่งกายเรียบง่าย ใช้ชีวิตประหยัด ไม่ยึดติดแฟชั่นหรือเครื่องอุปโภคฟุ่มเฟือย, ไม่พูดคำหยาบ ไม่พูดเกินความจริง เน้นสื่อสารแบบสร้างสรรค์
วิถีชาวอโศก : อิสรภาพจากความอยาก
แม้สิ่งเหล่านี้อาจดูเคร่งครัดสำหรับคนภายนอก แต่สำหรับชาวอโศก นี่คือ ‘อิสรภาพจากความอยาก’ ที่เป็นรากแท้ของความสงบ
‘สันติอโศก’ จึงไม่ได้ปลูกแค่ผักอินทรีย์ แต่ปลูกจิตสำนึกใหม่ในคน โดยมี ‘ต้นไม้’ เป็นทั้งเครื่องหล่อเลี้ยงชีวิตและเป็นครู ชุมชนนี้ล้อมรอบด้วยสวนผลไม้ พืชผักพื้นบ้าน และแปลงเกษตรที่ปลูกด้วยมือ ปลูกด้วยใจ และเก็บเกี่ยวด้วยความสุข

ชุมชนนิเวศ : ผสานธรรมะกับสิ่งแวดล้อม
พื้นที่เรียนรู้ของเยาวชนในโรงเรียนสัมมาสิกขา เป็นการศึกษาแบบบูรณาการ ที่ไม่แยกธรรมะออกจากวิชาเรียน ไม่แยกการลงมือทำออกจากการเรียนรู้ เป็นระบบการศึกษาที่ปลูกฝังความรับผิดชอบต่อโลก และศีลธรรมในจิตใจ
หลายชุมชนของสันติอโศก เช่น ศีรษะอโศก และ ราชธานีอโศก ได้พัฒนาพื้นที่ให้กลายเป็น ‘ชุมชนนิเวศ’ ซึ่งผสานการทำเกษตรกับการฟื้นฟูป่า การใช้พลังงานหมุนเวียน และการจัดการขยะอย่างเป็นระบบ เพื่อให้วิถีแห่งธรรมะไม่ทำร้ายโลก และกลายเป็นแบบอย่างให้กับเกษตรกรรุ่นใหม่ที่อยากเปลี่ยนวิธีคิด

ขยะคือบุญ : วงจรเศรษฐกิจหมุนเวียนแบบธรรมะ
‘ในแต่ละวันจะมีญาติธรรมนำขยะจากบ้าน รวมถึง เสื้อผ้า ของใช้ในบ้าน ร้านค้า ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า ตู้ โต๊ะ เก้าอี้ ฯลฯ ส่วนใหญ่จะแยกมาเรียบร้อย นำมาบริจาค บรรดาจิตอาสาได้ช่วยกันซ่อมแซม และคัดแยกนำไปจำหน่ายต่อในร้านบุญนิยม นำรายได้มาบำรุงและใช้จ่ายภายในชุมชน
แม้สันติอโศกจะไม่ใช่ชุมชนขนาดใหญ่ในเชิงจำนวน แต่ความยั่งยืนของระบบเศรษฐกิจ ความสงบในชีวิต และความงดงามของจารีตที่ดำรงอยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งรัฐหรือทุนผูกขาด คือคำตอบหนึ่งที่โลกกำลังแสวงหา ในยุคที่ผู้คนเผชิญความเครียด เศรษฐกิจเปราะบาง และโลกเสื่อมถอยด้วยการบริโภคเกินตัว ‘สันติอโศก’ คือบทพิสูจน์ว่า วิถีแห่งการพึ่งตนและพึ่งธรรมะ ไม่ได้เป็นเพียงอุดมคติ แต่สามารถเป็นจริง และอยู่รอดได้อย่างมั่นคง
ในขณะที่โลกหมุนไปกับตัวเลขรายได้และยอดขาย สันติอโศกเลือกหมุนชีวิตด้วยหลักธรรมและความเมตตา ธุรกิจในชุมชน เช่น ร้านมังสวิรัติ ‘ปฐมอโศก’ หรือผลิตภัณฑ์สุขภาพ ‘ภูผาฟ้าน้ำ’ ดำเนินงานโดยยึดหลัก ‘ไม่โกง ไม่หลอก ไม่เอาเปรียบ’ ขายของในราคายุติธรรม คืนกำไรสู่สังคม และไม่ส่งเสริมความฟุ่มเฟือยหรือหลงใหลในวัตถุ

ความสุขไม่ต้องซื้อ : หลักธรรมแทนตัวเลข
สมาชิกในชุมชนไม่ยึดถือเงินเป็นเป้าหมาย แต่ใช้แรงงานเป็นบุญ การแบ่งปันเป็นความสุข และผลกำไรเป็นปัจจัยต่อยอดงานธรรม ชีวิตในสันติอโศกจึงปราศจากหนี้สิน แต่อุดมด้วยน้ำใจ
อย่างไรก็ตาม แม้จะดำรงอยู่ในโลกทุนนิยม แต่สันติอโศกไม่ปฏิเสธโลก หากแต่สร้างโลกใหม่คู่ขนานขึ้นด้วยมือของตนเอง ชาวชุมชนทุกคนเป็นผู้ร่วมสร้างบ้าน แหล่งอาหาร โรงเรียน และตลาดขึ้นจาก ‘แรงศรัทธา’ ไม่ใช่ ‘แรงเงิน’ และพวกเขามีความสุขกับสิ่งที่ตนเป็น มากกว่าสิ่งที่ตนมี
ในวันที่โลกกำลังสับสนระหว่างความเจริญทางวัตถุกับความล่มสลายทางจิตใจ ชุมชนสันติอโศกคือบทพิสูจน์ว่า สังคมที่สงบ งดงาม และยั่งยืน ยังเป็นไปได้ หากมนุษย์ยอมลดอัตตา และหวนคืนสู่ความจริงแท้
‘ในร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ บ้านหลังเล็กในสันติอโศกจึงมิใช่เพียงที่พักกาย หากคือที่พักใจ สำหรับผู้ใฝ่ทางธรรมและผู้ใฝ่ความจริงของชีวิต’
อ้างอิง
ชุมชนบุญนิยม, อโศกที่เห็นและเป็นอยู่ 2544, ธรรมนูญบุญนิยม พ.ศ.2550, สัมภาษณ์
#ชุมชนสันติอโศก #เศรษฐกิจบุญนิยม #วิถีชีวิตสวนกระแส #ธรรมะ #เกษตรอินทรีย์ #พึ่งตนเอง #ความพอเพียง #ไม่แสวงหากำไร #ความสุขที่ยั่งยืน #การพึ่งพาธรรมชาติ #SantiAsokeCommunity #MeritEconomy #AlternativeLifestyle #Dhamma #OrganicAgriculture #SelfReliance #SufficiencyEconomy #NonProfit #SustainableHappiness #LivingWithDhamma #KnowledgeMap #okmd #KnowledgePortal #กระตุกต่อมคิด