ลำปาง

บันทึกนักสืบสายน้ำ

15 สิงหาคม 2025
|
580 อ่านข่าวนี้
|
0



จากเสียงน้ำสู่เสียงคน

                แม่น้ำวังคือเส้นเลือดสำคัญของเมืองลำปาง ในบทเพลงหรือคำบรรยายความเป็นลำปาง ก็มักมีภาพของแม่น้ำวังไหลควบคู่มาเสมอ แต่ทุกวันนี้เมื่อน้ำวังถูกมองเป็น “ปัญหา” มากกว่า “ชีวิต” ภาพของคนรุ่นใหม่กับแม่น้ำกลับดูไม่เข้ากันเหมือนขาดสายสัมพันธ์บางอย่างที่เคยมีเมื่อหลายสิบปีก่อน โปรเจกต์ “ลอง Young (the Young Experimenters Vol.2)” จึงชวนกลุ่มเยาวชนลำปาง 9 คน มารับบท “นักสืบสายน้ำ” ในฐานะนักวิทยาศาสตร์พลเมือง เพื่อลงพื้นที่ในเส้นทางสำรวจแม่น้ำวังซึ่งเคยเป็นแนวกําแพงเมืองเก่า ผ่าน 3 เส้นทางสำคัญ ได้แก่

               (1) วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม 

    (2) สวนสาธารณะเขลางค์นคร - ตรอกนาสร้อย - โรงเรียนเคนเน็ตแม็คเคนซี

    (3) หออะม็อก - ห้าแยกหอนาฬิกา - ชุมชนช่างแต้ม


  “ฟลุ๊ค” ภูวมินทร์ อินดี - ศิลปินอิสระ               


                “ฟลุ๊ค” ภูวมินทร์ อินดี ศิลปินอิสระ ที่รับหน้าที่เป็นวิทยากรหลักของภารกิจนักสืบสายน้ำ วางกระบวนการนำเยาวชนลำปางที่สนใจในประเด็นวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม ไปสำรวจแม่น้ำวังโดยเริ่มจากแนวคูเมืองที่บริเวณชุมชนช่างแต้ม ไม่ไกลจากวัดพระแก้วดอนเต้าฯ ซึ่งเป็นแนวโค้งของคูเมือง เพื่อสังเกตสภาพแม่น้ำวังช่วงก่อนไหลเข้าเมืองลำปาง ซึ่งบริเวณนี้จะเห็นได้ว่าน้ำวังยังใสและไหลดี จนเมื่อถึงบริเวณประตูม้า จะเริ่มเห็นความนิ่งของน้ำ มีกลิ่นและพืชผักปกคลุมพื้นที่ ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ใช้น้ำในการอุปโภค เช่น รดน้ำต้นไม้

                ฟลุ๊คเล่าว่า เด็กรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ยังไม่รู้ขอบเขตเมืองเก่าลำปางอย่างชัดเจนเหมือนเมืองอื่น เช่น เชียงใหม่ ทั้งที่คูเมืองเคยเป็นปราการสำคัญ และแม่น้ำวังก็เคยมีบทบาทในการหล่อเลี้ยงเมือง ก่อนที่การขยายตัวของบ้านเรือนและชุมชนจะเปลี่ยนแม่น้ำให้กลายเป็นที่ปล่อยน้ำเสียจนคนไม่สามารถใช้ประโยชน์จากน้ำได้อีกต่อไป






ภารกิจตรวจสุขภาพน้ำ


                ในการลงพื้นที่สำรวจแนวกำแพงเมืองเก่าและแม่น้ำวัง เด็ก ๆ ได้เรียนรู้กระบวนการเก็บข้อมูลโดยการสัมภาษณ์คนในชุมชน ได้แก่ แม่พิมพ์-พิมพาภรณ์ เจริญจาตุภัทร์ ประธานชุมชนช่างแต้ม ผู้เห็นการเปลี่ยนแปลงของแม่น้ำวังมาตลอดชีวิต แม่พิมพ์เล่าถึงช่วงเวลาที่คูเมืองเคยมีน้ำใสจนจับตัวอ่อนแมลงปอหรือตกปลาได้ เด็กในยุคก่อนยังสามารถเล่นน้ำได้อย่างปลอดภัย แม่น้ำเคยอุดมสมบูรณ์มากจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตปกติ แต่ทุกวันนี้ แม่น้ำบางช่วงกลายเป็นน้ำเน่า มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ และเป็นที่เข้าใจกันดีว่าไม่สามารถลงเล่นได้อีกต่อไป จากวิถีชีวิตร่วมกับแม่น้ำก็กลายเป็นแค่ทางระบายเท่านั้น

หนึ่งในภารกิจสำคัญของนักสืบสายน้ำ คือการทดลองตรวจสุขภาพแม่น้ำอย่างง่าย โดยใช้เครื่องมือจากโครงการ C-Site ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มของ Thai PBS ที่ส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเป็นนักข่าวพลเมือง รายงานข้อมูลสิ่งแวดล้อมจากพื้นที่ของตนเอง โดยเริ่มจากการสังเกตลักษณะทางกายภาพของน้ำ ได้แก่ ความขุ่น สี กลิ่น ความเร็วผิวน้ำ ความกว้าง และคุณภาพ พร้อมกับสำรวจสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ที่อาศัยอยู่ในน้ำ โดยใช้กระชอนตักสัตว์น้ำขึ้นมาดูตัวชี้วัดสภาพแวดล้อม


        สิ่งที่ค้นพบระหว่างการสำรวจของภารกิจนักสืบสายน้ำในวันที่ 1 พฤษภาคม 2568:

  • พืชน้ำ: ผักตบชวา แหน
  • สัตว์น้ำและแมลงน้ำ: กุ้งฝอย ปลาซิว ปลานิล แมลงน้ำ แมงป่องน้ำ จิงโจ้น้ำ หอยนา หอยกาบ หอยเชอรี่
  • ขยะในน้ำ: กระป๋องน้ำอัดลม ขวดน้ำพลาสติก ถุงพลาสติก ฝาน้ำอัดลม ก้นบุหรี่


        
        เมื่อได้ข้อมูลจากการสำรวจก็นำมาวิเคราะห์เพื่อทำความเข้าใจสภาพของน้ำ พืชน้ำที่พบทั้งผักตบชวาและแหนเป็นพืชเติบโตเร็วและปกคลุมผิวน้ำ ทำให้แสงไม่สามารถส่องถึงน้ำด้านล่าง ทำให้ระดับออกซิเจนต่ำและส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำ พืชเหล่านี้เติบโตได้เร็วในน้ำที่มีปริมาณธาตุอาหารสูง ซึ่งมักเกิดจากน้ำเสียจากชุมชนหรือการเกษตรที่ไหลลงแม่น้ำ การพบสัตว์น้ำขนาดเล็กและแมลงน้ำเป็นตัวชี้วัดทางชีวภาพของคุณภาพน้ำ ระบบนิเวศยังพอมีความหลากหลายของสัตว์น้ำ แต่ขยะที่พบก็แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมของมนุษย์โดยตรงที่มีส่วนช่วยทำลายระบบนิเวศ และยังบ่งชี้ถึงปัญหาการจัดการขยะในชุมชนและริมแม่น้ำด้วย






เล่าให้แม่น้ำเป็นเรื่องของเรา


                ภารกิจของนักสืบสายน้ำ ไม่ได้จบที่การตรวจสอบคุณภาพน้ำ แต่รวมถึงการสื่อสารปัญหาแม่น้ำให้เป็นเรื่องสาธารณะที่ทุกคนเข้าถึงและเข้าใจได้ ดังนั้น สิ่งสำคัญที่เด็กกลุ่มนี้ได้เรียนรู้อีกอย่างหนึ่งคือการเล่าเรื่องสื่อสารประเด็นแม่น้ำวัง เพื่อตอบโจทย์ว่า “จะเล่าเรื่องแม่น้ำอย่างไรให้ใกล้ชิดชีวิตคน?” ด้วยการเสนอแนวทางการเล่าเรื่องในมุมใหม่ที่ไม่จำเป็นต้องอยู่ในรูปแบบการรายงานแบบเดิม ๆ เท่านั้น เช่น การเล่าด้วยบันทึก ภาพ การสัมภาษณ์ แผนภาพ เป็นต้น

งานที่ถูกนำมายกตัวอย่างในการเรียนรู้ เช่น การสำรวจเสียงในชีวิตประจำวันของชุมชนหัวลำโพงโดย Hear & Found การเก็บตัวอย่างใบไม้จากพื้นที่มลพิษในหลายจังหวัดของประเทศไทย โปรเจกต์ของนักศึกษาศิลปะไต้หวันที่เก็บตัวอย่างน้ำจาก 100 แห่งมาทำเป็นไอศกรีมเพื่อใช้วัตถุในการสื่อความ หรือการใช้กระบวนการ เช่น ผลงาน “sound-less” ของ Nguyen Trinh Thi ที่ถ่ายทอดวิกฤตของแม่น้ำโขงผ่านกังหันน้ำเซ็นเซอร์และเครื่องรับสัญญาณรูปร่างคล้ายระนาดที่แปลงกระแสน้ำเป็นเสียงดนตรีในหอคำหลวง จังหวัดเชียงราย เชื่อมโยงธรรมชาติกับศิลปะในบริบทการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากฝีมือมนุษย์

แม่น้ำวัง = ห้องเรียนกลางแจ้ง


                การเรียนรู้ครั้งนี้ทำให้คนรุ่นใหม่เห็นภาพของเมืองเก่าลำปางที่ซ่อนอยู่ภายใต้ถนน เส้นทางน้ำ ระบบชลประทาน และคำบอกเล่าจากคนในพื้นที่ หลายคนเพิ่งเคยดูแผนที่เมืองเก่าลำปางอย่างตั้งใจ เพิ่งเคยสังเกตแนวกําแพงเมือง หรือเพิ่งเข้าใจว่าคูเมืองมีความสำคัญอย่างไรในอดีต

                ภารกิจนักสืบสายน้ำ เป็นโมเดลกิจกรรมที่สามารถนำไปปรับเข้ากับชั่วโมงเรียนของเด็กในโรงเรียนได้  เด็กในฐานะนักเรียนสามารถสำรวจและทำความรู้จักแม่น้ำวังให้ลึกซึ้งได้มากกว่าแค่มองผ่าน สามารถเรียนรู้ทั้งประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ การเล่าเรื่อง ศิลปะ โดยใช้แม่น้ำวังเป็นแหล่งเรียนรู้ที่มีประโยชน์

                ทั้งหมดนี้คือความพยายามที่จะทำให้ “แม่น้ำวัง” กลับมาเป็นเรื่องของทุกคนอีกครั้ง และสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่ได้เห็นว่าพวกเขาเองก็มีส่วนร่วมกับปัญหาและการหาทางออกได้ผ่านการเรียนรู้ การลงมือสำรวจ ฟัง ถาม และเล่าเรื่องในแบบของตัวเอง เมื่อแม่น้ำกลายเป็นสิ่งที่ทุกคนมีความสัมพันธ์และเข้าถึงได้ ถึงจะเป็นการคืนชีวิตให้แม่น้ำวังจริง ๆ 






_____

อ้างอิง


Nutkamol Jaisan. (16 กุมภาพันธ์ 2567). Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 Ep.4 เสียงเพรียกจากลำน้ำโขง. FINE ART Magazine.

https://fineart-magazine.com/thailand-biennale-chiang-rai-2023-ep-4-a-call-of-me-kong/

ภูวมินทร์ อินดี. (7 พฤษภาคม 2568). สัมภาษณ์.

ศูนย์ข้อมูล C-Site. (ไม่ระบุปี). แบบสำรวจแม่น้ำในพื้นที่.

https://ncid.csitereport.com/mysurvey

Thailandindustry.com. (ไม่ระบุปี). กำจัด “ผักตบชวา” สู่การใช้ประโยชน์.

http://thailandindustry.com/onlinemag/view2.php?id=1235&section=30&issues=79



0 ความคิดเห็น

Ask OKMD AI