Less is More: กินอย่างไรให้ "มินิมอล" เรียบง่าย แต่ดีต่อใจและดีต่อโลก

เคยไหมที่รู้สึกว่าการกินในแต่ละวันช่างวุ่นวาย? ต้องคิดเมนูเยอะแยะ ซื้อของเต็มตู้เย็น สุดท้ายก็กินไม่ทันจนต้องทิ้ง...

ถ้าใช่ ลองหันมา "กินแบบมินิมอล" เทรนด์ที่นำปรัชญา "น้อยแต่มาก" มาใช้กับมื้ออาหาร ที่จะทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นเยอะ!

กินแบบมินิมอล ไม่ใช่การกินน้อยจนหิว!

ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่า หัวใจหลักของการกินแบบมินิมอลไม่ใช่การจำกัดปริมาณ แต่คือ การเลือกกินอย่างชาญฉลาด 

เน้นความเรียบง่าย แต่ได้คุณค่าทางโภชนาการสูงสุด โดยตัดทอนสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไป ทั้งวัตถุดิบและขั้นตอนการปรุงที่ซับซ้อน

เริ่มต้นกินแบบมินิมอล ทำได้อย่างไร?

1. วางแผนก่อนซื้อ: ลองวางแผนเมนูง่ายๆ สำหรับ 3-4 วันข้างหน้า แล้วลิสต์วัตถุดิบที่ต้องใช้จริงๆ วิธีนี้ช่วยให้คุณซื้อของเท่าที่จำเป็น ไม่เหลือทิ้งเป็นขยะอาหาร และยังประหยัดเงินในกระเป๋า
2. วัตถุดิบน้อยชิ้น แต่เน้นคุณภาพ: แทนที่จะใช้เครื่องปรุง 10 อย่าง ลองเลือกใช้แค่ 3-4 อย่างที่จำเป็นและมีคุณภาพดี เช่น เกลือ พริกไท น้ำมันมะกอก และสมุนไพรสดๆ ก็ทำให้อาหารอร่อยและดีต่อสุขภาพได้
3. ปรุงง่าย ไม่ซับซ้อน: เน้นวิธีการปรุงที่ไม่ยุ่งยาก เช่น การนึ่ง ย่าง อบ หรือผัดเร็วๆ ซึ่งช่วยรักษาคุณค่าทางอาหารไว้ได้ดีกว่า และยังประหยัดเวลาในครัวอีกด้วย
4. ฟังเสียงร่างกาย: ความเป็นมินิมอลของแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนอาจต้องการอาหารมื้อใหญ่ บางคนต้องการมื้อเล็กๆ สิ่งสำคัญคือการกินให้พอดีกับที่ร่างกายต้องการ และเลือกกินอาหารให้ครบ 5 หมู่

การกินแบบมินิมอลคือการกลับสู่ความเรียบง่ายที่ให้ประโยชน์มากกว่าที่คิด ทั้งช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย ลดขยะจากอาหารและบรรจุภัณฑ์ และที่สำคัญคือทำให้เราได้ใส่ใจกับอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างแท้จริง

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม: https://knowledgeportal.okmd.or.th/article/62133dc84e33c

#OKMDCREATOR #OKMD #KnowledgePortal #กระตุกต่อมคิด #KnowledgeSharing #Creativity

แนวคิดในการออกแบบ: ภาพต้องสื่อถึงความ "เรียบง่าย สะอาดตา และดีต่อสุขภาพ" ตามหลักมินิมอล

ไม่ใช่ภาพอาหารที่ดูน้อยจนน่าสงสาร แต่เป็นภาพที่จัดวางอย่างสวยงามน่ากิน ใช้แสงธรรมชาติเพื่อให้ความรู้สึกอบอุ่น สบายตา และสดชื่น