Notifications

You are here

ห่วงโซ่คุณค่า

เทคโนโลยีชีวภาพในการผลิตสินค้าด้านสุขภาพและความงาม...

16 สิงหาคม 2024 56 อ่านข่าวนี้ 3 เดือนก่อน 0
แผนแม่บท : แผนแม่บท การวิจัยและพัฒนานวัตกรรม  
หมวดหมู่ : #23.1การวิจัยและพัฒนานวัตกรรม ด้านเศรษฐกิจ 


ถ้าพูดถึงเทคโนโลยีชีวภาพ หลายคนอาจนึกถึงประโยชน์ในการแก้ปัญหาหรือลดช่องว่างในภาคเกษตรกรรม 

นิยามของ ‘เทคโนโลยีชีวภาพสมัยใหม่’ ในความหมายของสถาบันปิโตรเลียมไทย คือ เทคโนโลยีที่ใช้ในการปรับเปลี่ยนหรือดัดแปลงสารพันธุกรรม (DNA) ในสิ่งมีชีวิต ทั้งพืช สัตว์และจุลินทรีย์ ให้มีลักษณะใหม่ตามต้องการ (ซึ่งไม่สามารถเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติ หรืออาจเกิดขึ้นได้แต่ใช้ระยะเวลานานและไม่จำเพาะ) เพื่อที่จะนำไปใช้ประโยชน์ในหลากหลายสาขา 

เมื่อโลกและยุคสมัยเปลี่ยนไป คนหันมาสนใจเรื่องสุขภาพและความงามมากขึ้น เทคโนโลยีชีวภาพก็ถูกนำมาเป็นส่วนหนึ่งในการผลิตสินค้าในทั้งสองอุตสาหกรรม โดยเน้นสกัดจากสารธรรมชาติ 

สำหรับด้าน ‘สุขภาพ’ เทคโนโลยีชีวภาพนับเป็นหัวใจสำคัญของความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสุขภาพ ทั้งยังเปิดโอกาสให้มีการพัฒนายาและวิธีการรักษาใหม่ๆ ที่สามารถแก้ปัญหาทางการแพทย์ที่มีมานาน และปรับปรุงผลลัพธ์การรักษาในทิศทางที่ดีขึ้น ที่เห็นได้ชัด คือ การนำเทคโนโลยีชีวภาพมาผลิต วัคซีน mRNA Pfizer และ Moderna ที่ช่วยรักษาโรคโควิด 19 ได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงการใช้เทคโนโลยี Monoclonal Antibody โปรตีนที่เป็นชีววัตถุ ช่วยรักษาโรคมะเร็ง โรคภูมิคุ้มกันผิดปกติ และโรคทางระบบประสาทได้ และ Pichia Pastoris ยีสต์ที่มีวงจรชีวิตสั้น ถูกนำมาปรับแต่งพันธุกรรมเพื่อนำมาใช้ใยการศึกษาเรื่องการชะลอวัย ทั้งยังเป็นส่วนผสมสำคัญและเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนายาและต่อยอดวิธีการชะลอกระบวนการเสื่อมถอยตามวัยในมนุษย์

ฝั่ง ‘ความงาม’ เทคโนโลยีชีวภาพถูกนำมาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอางเรียกว่า Biotech Beauty ใช้ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูงและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างแม่นยำ

บทความวิจัยเรื่อง ‘Biotechnology Applied to Cosmetics and Aesthetic Medicines’ ในปี 2020 ระบุว่า บริษัทเครื่องสำอางใช้เทคโนโลยีชีวภาพพัฒนาส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ เช่น กรดโคจิก สำหรับการลดริ้วรอยและจุดด่างดำบนผิว กรดไฮยาลูโรนิกที่ช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้น เรสเวอราทรอล ช่วยลดริ้วรอยและปรับสภาพผิว และสเต็มเซลล์จากพืช ในการยืดอายุ ปรับสมดุลเซลล์ผิว และซ่อมแซมผิวที่เสียหาย อีกทั้งบทความวิจัยเล่มเดียวกัน ยังบอกไว้อีกว่า เทคโนโลยีชีวภาพช่วยให้ส่วนผสมมีประสิทธิภาพสูงและปลอดภัยกว่าการใช้สารเคมีสังเคราะห์ ซึ่งเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน 

ปัจจุบัน ในแวดวงเครื่องสำอางและความงาม ก็เริ่มมีการใช้ไบโอพอลิเมอร์มาเป็นส่วนผสมสำคัญในการผลิตเครื่องสำอาง และพัฒนาสารสกัดใหม่ๆ เช่น อิมัลซิไฟเออร์ ซึ่งเป็นตัวเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว และยังเป็นส่วนผสมที่ย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ จึงกล่าวได้ว่า ไบโอพอลิเมอร์ เป็นสารชีวธรรมชาติที่มีความปลอดภัยและไม่เป็นพิษต่อผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม รวมถึงสามารถใช้ประโยชน์ใหม่ๆ จากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพสูงในการดูแลผิว ผม และช่องปาก

เทคโนโลยีชีวภาพจึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญที่เปิดความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในแวดวงการอุตสาหกรรมสุขภาพและความงาม มากกว่านั้น อาจสร้างผลลัพธ์การรักษาที่ดีขึ้น ซึ่งต่างออกไปจากประวัติศาสตร์การรักษาแบบเดิมที่เคยมีมา







URL อ้างอิง:

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เราใช้คุกกี้ (Cookie) เพื่อใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพเว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ นโยบายคุกกี้
ยอมรับ