Notifications

You are here

ห่วงโซ่คุณค่า

ความโดดเดี่ยวที่ต้องเผชิญหน้า ในโลกที่มีประชากรสูง...

02 กันยายน 2024 28 อ่านข่าวนี้ 2 เดือนก่อน 0
แผนแม่บท : แผนแม่บท การวิจัยและพัฒนานวัตกรรม  
หมวดหมู่ : #23.2การวิจัยและพัฒนานวัตกรรม ด้านสังคม 


ในยุคที่ประชากรทั่วโลกกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางประชากรศาสตร์อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นของประชากรสูงอายุ ความโดดเดี่ยวกลายเป็นปัญหาที่สำคัญและส่งผลกระทบอย่างมากต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุ แต่ยังถูกละเลย

มีรายงานจาก WHO ระบุว่าประเทศบางประเทศมีผู้สูงอายุที่รู้สึกโดดเดี่ยวถึง 1 ใน 3 และการแยกตัวทางสังคมมีผลกระทบต่ออายุขัยและคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ประกอบกับรายงานของ NCBI ระบุว่าภายในปี 2050 ประชากรโลกกว่า 20% จะมีอายุมากกว่า 60 ปี ซึ่งการเปลี่ยนแปลงทางประชากรนี้เกิดจากอายุขัยที่เพิ่มขึ้นและอัตราการเกิดที่ลดลง และผู้สูงอายุที่มีการติดต่อทางสังคมที่น้อยลง มีความเสี่ยงสูงต่อ การเกิดโรคทางกายและจิตใจ เช่น การเพิ่มขึ้นของโปรตีน C-reactive ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้การอักเสบในร่างกาย 

ปรากฏการณ์เหล่านี้จะนำไปสู่ความท้าทายต่างๆ เช่น การขาดแคลนผู้ดูแล การรักษาสุขภาพ ความเป็นอิสระของผู้สูงอายุ และการจัดการการเกษียณอายุที่ยาวนานขึ้น

ปัจจัยที่ส่งผลต่อความโดดเดี่ยวในผู้สูงอายุ

  • การเปลี่ยนแปลงทางสังคม การเกษียณอายุและการสูญเสียบทบาททางสังคมทำให้ผู้สูงอายุหลายคนรู้สึกว่าตนเองไม่มีความสำคัญและขาดการมีส่วนร่วมในชุมชน ซึ่งนำไปสู่ความรู้สึกโดดเดี่ยว
  • การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างครอบครัว เป็นครอบครัวเดี่ยว ทำให้ผู้สูงอายุต้องอยู่ตามลำพัง
  • ปัญหาสุขภาพ ปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นบ่อยในผู้สูงอายุ เช่น การลดลงของการเคลื่อนไหว หรือโรคเรื้อรัง สามารถจำกัดการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคมและเพิ่มความรู้สึกโดดเดี่ยว
  • การสูญเสียคู่ชีวิตหรือเพื่อนสนิท การสูญเสียคนใกล้ชิดเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกโดดเดี่ยวและเศร้าโศก



วิธีการจัดการกับความโดดเดี่ยวในผู้สูงอายุ

  • การฝึกทักษะทางสังคม (Social Skills Training) 
    การฝึกทักษะทางสังคมช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถพัฒนาทักษะในการสื่อสารและการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นได้ดีขึ้น ซึ่งสามารถลดความรู้สึกโดดเดี่ยวและเพิ่มความมั่นใจในการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม
  • กลุ่มสนับสนุนและชุมชน (Community and Support Groups) 
    การเข้าร่วมกลุ่มสนับสนุนหรือชุมชนสามารถช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกว่าไม่ได้อยู่คนเดียว และสามารถแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความรู้สึกกับผู้อื่นที่มีประสบการณ์คล้ายกันได้ การสนับสนุนทางสังคมมีบทบาทสำคัญในการลดความโดดเดี่ยวและภาวะซึมเศร้าในผู้สูงอายุ
  • การเป็นเพื่อน (Befriending) 
    การจัดโปรแกรมที่มีอาสาสมัครหรือคนในชุมชนมาทำหน้าที่เป็นเพื่อนกับผู้สูงอายุ สามารถช่วยลดความรู้สึกโดดเดี่ยวได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่คนเดียว
  • การบำบัดด้วยพฤติกรรมทางปัญญา (Cognitive Behavioral Therapy - CBT) 
    CBT เป็นวิธีการบำบัดทางจิตวิทยารูปแบบหนึ่ง ที่สามารถใช้รักษาปัญหาสุขภาพจิตได้หลายอย่าง รวมถึงช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถเปลี่ยนแปลงความคิดและพฤติกรรมที่ส่งผลให้เกิดความรู้สึกโดดเดี่ยว การบำบัดนี้สามารถช่วยลดภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวลได้
  • การสร้างชุมชนที่เป็นมิตรกับผู้สูงอายุ (Age-friendly Communities) 
    การพัฒนาชุมชนที่เป็นมิตรกับผู้สูงอายุช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถเข้าถึงบริการและกิจกรรมทางสังคมได้ง่ายขึ้น ซึ่งสามารถลดความโดดเดี่ยวและเพิ่มการมีส่วนร่วมในชุมชนได้
  • การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Interventions) 
    เทคโนโลยีดิจิทัล เช่น การใช้สมาร์ตโฟน แท็บเล็ต หรืออุปกรณ์สื่อสารอื่น ๆ สามารถช่วยให้ผู้สูงอายุเชื่อมต่อกับครอบครัวและเพื่อนฝูงได้ง่ายขึ้น รวมถึงการใช้ซอฟต์แวร์ปัญญาประดิษฐ์เป็นเหมือนผู้ช่วยในการทำงานต่าง ๆ เช่น Siri Google Assistant Alexa นอกจากนี้ การใช้บริการสุขภาพจิตทางไกล ยังสามารถช่วยลดความโดดเดี่ยวและการแยกตัวของผู้สูงอายุได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อ้างอิง : 

URL อ้างอิง:

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เราใช้คุกกี้ (Cookie) เพื่อใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพเว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ นโยบายคุกกี้
ยอมรับ