Notifications

You are here

ห่วงโซ่คุณค่า

นวัตกรรมเมืองที่เป็นมิตรกับผู้สูงอายุ (Age-Friendl...

02 กันยายน 2024 92 อ่านข่าวนี้ 2 เดือนก่อน 0
แผนแม่บท : แผนแม่บท การวิจัยและพัฒนานวัตกรรม  
หมวดหมู่ : #23.2การวิจัยและพัฒนานวัตกรรม ด้านสังคม 


ในปี 2023 สัดส่วนของประชากรผู้สูงอายุในยุโรปเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเมืองและเทศบาลในยุโรปหลายแห่งได้เข้าร่วมเครือข่ายเมืองที่เป็นมิตรกับผู้สูงอายุขององค์การอนามัยโลก (WHO) เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวปฏิบัติที่

โดยแนวคิดการพัฒนาเมืองที่เป็นมิตรกับผู้สูงอายุเป็นที่ได้รับการสนับสนุนจาก WHO มีองค์ประกอบสำคัญ 8 ด้าน ได้แก่ 

  • การขนส่งสาธารณะ
  • ที่อยู่อาศัย
  • การมีส่วนร่วมทางสังคม
  • การเคารพและการมีส่วนร่วมทางสังคม
  • การมีส่วนร่วมของพลเมืองและการจ้างงาน
  • การสื่อสารและข้อมูล 
  • การสนับสนุนชุมชนและบริการสุขภาพ 
  • พื้นที่สาธารณะและอาคาร

ตัวอย่างที่น่าสนใจในการพัฒนาเมืองที่เป็นมิตรกับผู้สูงอายุ

ญี่ปุ่น

เป็นหนึ่งในประเทศที่มีประชากรผู้สูงอายุสูงที่สุดในโลก และได้พัฒนาโปรแกรม Silver Human Resource Centers (SHRC) เพื่อส่งเสริมการจ้างงานสำหรับผู้สูงอายุ โปรแกรมนี้มีการจัดตั้งศูนย์ทรัพยากรมนุษย์สำหรับผู้สูงอายุในแต่ละเมือง โดยมีการจัดหางานที่เหมาะสมกับความสามารถและความสนใจของผู้สูงอายุ เช่น งานทำสวน งานทำความสะอาด และงานดูแลเด็ก ศูนย์เหล่านี้ยังให้การฝึกอบรมและการสนับสนุนด้านการหางานเพื่อช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถกลับเข้าสู่ตลาดแรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการวิจัยพบว่าการทำงานผ่าน SHRC สามารถช่วยปรับปรุงสุขภาพและลดความเสี่ยงของภาวะก่อนชราในผู้สูงอายุได้ 


สเปน

เมือง Benidorm ได้รับการยอมรับจาก WHO ว่าเป็นเมืองที่เป็นมิตรกับผู้สูงอายุ เมืองนี้ได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและบริการต่างๆ เช่น การปรับปรุงทางเดินเท้าให้ปลอดภัยและสะดวกสบาย การจัดตั้งศูนย์บริการสุขภาพที่เข้าถึงง่าย และการส่งเสริมกิจกรรมทางสังคมสำหรับผู้สูงอายุ เช่น โปรแกรมที่มุ่งเน้นการสนับสนุนผู้สูงอายุในการหางานทำ

บราซิล

มีเมือง 16 แห่งที่ได้รับการรับรองจาก WHO ว่าเป็นเมืองที่เป็นมิตรกับผู้สูงอายุ โดยเฉพาะในรัฐเซาเปาโล ที่มีสองเมืองได้รับการรับรอง เมืองเหล่านี้ได้พัฒนาโครงการต่างๆ เช่น การปรับปรุงที่อยู่อาศัยให้เหมาะสมกับผู้สูงอายุ บริการขนส่งสาธารณะที่สะดวกสบาย ซึ่งแม้ว่าการนำไปใช้ในภูมิภาคนี้จะยังค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ แต่บราซิลได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาเมืองที่สนับสนุนการมีชีวิตที่มีคุณภาพสำหรับผู้สูงอายุ

เนเธอร์แลนด์

เมือง The Hague และ Leiden ได้ใช้วิธีการออกแบบวิดีโอแบบมีส่วนร่วม (Participatory Video Design) เพื่อรวบรวมประสบการณ์และความต้องการของผู้สูงอายุเกี่ยวกับความเป็นมิตรของเมือง โดยผู้สูงอายุได้มีส่วนร่วมในการสร้างภาพยนตร์สั้นในประเด็นที่พวกเขาเห็นว่าสำคัญ เช่น การสื่อสาร การข้อมูล พื้นที่กลางแจ้ง ความสัมพันธ์ทางสังคม และการสนับสนุนชุมชน

อิตาลี

โครงการ LONGEVICITY ในเมืองมิลาน เป็นหนึ่งในโครงการที่มุ่งเน้นการพัฒนาเมืองให้เป็นมิตรกับผู้สูงอายุ มุ่งเน้นการปรับปรุงความสามารถในการเดินในเขตเมือง โดยใช้แบบจำลองเพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมการเดินและการข้ามถนนของผู้สูงอายุ โครงการนี้ใช้แนวคิดการออกแบบที่เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลาง (human-centered design) เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุในเขตเมือง

การพัฒนาเมืองที่เป็นมิตรกับผู้สูงอายุเป็นการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงทางประชากรที่สำคัญ โดยมีการนำไปใช้ในหลายประเทศทั่วโลก ส่วนประเทศไทยได้เข้าสู่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบแล้วในปี 2021 โดยมีประชากรที่มีอายุเกิน 60 ปี มากกว่า 20% ของประชากรทั้งหมด

เพราะฉะนั้นแนวคิดเมืองที่เป็นมิตรกับผู้สูงอายุเป็นการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงทางประชากรที่สำคัญและเร่งด่วน เพราะการพัฒนาเมืองที่เป็นมิตรกับผู้สูงอายุไม่เพียงแต่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ แต่ยังส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางสังคมและการพัฒนาที่ยั่งยืนของชุมชนโดยรวม


อ้างอิง :


URL อ้างอิง:

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เราใช้คุกกี้ (Cookie) เพื่อใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพเว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ นโยบายคุกกี้
ยอมรับ