คนไทยวิจัยอะไรกัน ในเทรนด์การเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล และเทรนด์ความยั่งยืน
มากถึง
545,304 ชิ้น จาก 236 หน่วยงาน คือจำนวนงานวิจัยที่คนไทยสามารถเข้าถึงได้เฉพาะในระบบคลังข้อมูลงานวิจัยไทย
(Thai National Research Repository: TNRR) นับตั้งแต่ปี
พ.ศ.2555 จนถึงปัจจุบัน หรือ ในช่วง 1 ทศวรรษ สิ่งที่เห็นได้คือการทำวิจัยมีความสำคัญมากขึ้นต่อเนื่องในปัจจุบัน
ในฐานะเครื่องมือแสวงหาความรู้ พิสูจน์คำตอบที่ต้องการ และเป็นฐานความรู้ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น
เพื่อนำไปต่อยอดให้เกิดการพัฒนาต่อไป
เมื่อได้สำรวจคลังข้อมูลงานวิจัยไทย
และโครงการพัฒนาระบบเครือข่ายห้องสมุดในประเทศไทย (Thailand Library
Integrated System: ThaiLIS) ในฐานข้อมูลตั้งแต่ปี พ.ศ.2555-2564 ยังพบว่ามีงานวิจัยและวิทยานิพนธ์ไทยมากถึง
11,572 ชิ้น โดยมุ่งเน้นหัวข้อเกี่ยวกับ 3 เทรนด์ใหญ่ ประกอบด้วย เทรนด์สังคมสูงวัย
จำนวน 3,028 ชิ้น เทรนด์การเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล จำนวน 4,065 ชิ้น และ เทรนด์ความยั่งยืน
จำนวน 4,479 ชิ้น
ยิ่งเมื่อเห็นเทรนด์ทั้งหมดของงานวิจัยมากขึ้น
ทำให้เราสงสัยว่าคนไทยสนใจวิจัยเรื่องอะไรบ้างในแต่ละเทรนด์ โดยเฉพาะ เทรนด์การเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล
และเทรนด์ความยั่งยืน (นำเสนอต่อเนื่องจากบทความ “คนไทยวิจัยอะไรกัน
ในเทรนด์สังคมสูงวัย)
อยากรู้ คนไทยวิจัยอะไรกันในเทรนด์การเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล
เมื่อสำรวจหัวข้องานวิจัยและวิทยานิพนธ์ไทยในเทรนด์การเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล
ได้พบหัวข้อที่มีการวิจัยมากที่สุด 5 อันดับแรก ดังนี้
คือ
1, นโยบายและโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล
จำนวน 1,794 ชิ้น
2. รัฐบาลดิจิทัล
จำนวน 879 ชิ้น
3. การเปลี่ยนผ่านดิจิทัลในภาคธุรกิจ
จำนวน 796 ชิ้น
4. นวัตกรรมดิจิทัล
จำนวน 335 ชิ้น
5. การเปลี่ยนผ่านดิจิทัลในองค์กร
จำนวน 261 ชิ้น
โดย
3 อันดับแรกของหัวข้อที่คนไทยวิจัยมากที่สุด มีตัวอย่างที่น่าสนใจ
เช่น หัวข้อ นโยบายและโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล มีงานวิจัยเรื่อง การประเมินความมั่นคงทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ สายอากาศแถบความถี่กว้างร่วมกับแผ่นสะท้อนช่องว่างแถบความถี่แม่เหล็กไฟฟ้าสำหรับการรับสัญญาณโทรทัศน์ระบบดิจิตอลภาคพื้นดิน, หัวข้อ นโยบายและโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล มีงานวิจัยเรื่อง การจดทะเบียนนิติบุคคลทางอินเทอร์เน็ต
: ความเป็นไปได้จากมุมมองของข้าราชการ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ หรือการยุติธรรมทางไกล ก้าวใหม่เพื่อสังคมธรรมาภิบาล :
กรณีศึกษาการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology) มาใช้ในกระบวนวิธีพิจารณาคดีปกครอง และหัวข้อ นโยบายและโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล มีงานวิจัยเรื่อง งานวิจัยที่ศึกษาธุรกิจดิจิทัลและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับดิจิทัล
หรือแผนกาารตลาดธุรกิจอาหารพร้อมบริการเดลิเวอรี่ เป็นต้น
ส่วนหัวข้อที่พบค่อนข้างน้อย หรืออาจเรียกได้ว่าเป็นช่องว่างของงานวิจัยไทยคือ หัวข้อ การเปลี่ยนผ่านดิจิทัลในองค์กร และหัวข้อ นวัตกรรมดิจิทัล และในการศึกษานวัตกรรมดิจิทัลนี้เอง งานวิจัยในไทยมีการศึกษาเรื่อง ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งเป็นเทรนด์ที่มาแรงของโลกเพียง 11 เรื่องเท่านั้น ในขณะที่ข้อมูลจาก Google Scholar ชี้ให้เห็นว่า มีงานวิจัยเรื่องนี้ ถูกตีพิมพ์ในระหว่าง ปี พ.ศ. 2555-2564 อย่างน้อย 80,960 ชิ้น โดยราว 70% (56,700 ชิ้น) เพิ่งถูกเผยแพร่ในระหว่างปี พ.ศ.2562-2564
ทั้งยังพบว่าในฐานข้อมูล
ไม่มีงานวิจัยเรื่อง ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big data) โดยตรงเลย
และมีงานวิจัยที่กล่าวถึงเรื่องนี้ เพียงแค่ 2 ชิ้นเท่านั้น ในขณะที่ในระดับโลกมีงานวิจัยที่ศึกษาเรื่องข้อมูลขนาดใหญ่
ที่ถูกตีพิมพ์ในระหว่าง ปี พ.ศ. 2555-2564 อย่างน้อย 58,203
ชิ้น โดยประมาณ 68% (39,480 ชิ้น) เพิ่งถูกเผยแพร่ในระหว่างปี พ.ศ.2562-2564
สำหรับหัวข้ออื่นๆ
ของงานวิจัยไทยในเทรนด์เดียวกันที่น่าสนใจ ก็มีอาทิเช่น หัวข้อ การกําหนดความรับผิดทางอาญาจากการละเมิดความเป็นส่วนตัวโดยใช้
อากาศยานไร้คนขับ (พ.ศ.2562) เป็นวิทยานิพนธ์ที่ชี้ให้เห็นปัญหาใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นจากโดรนได้อย่างน่าสนใจ
เช่น การใช้โดรนขับรุกล้ำพื้นที่ส่วนบุคคล และการใช้โดรนเพื่อถ้ำมองและแอบถ่าย สต็อกกลิ้ง
หรือการสอดแนม เป็นต้น, แนวทางการป้องกันอาชญากรรมที่เกี่ยวกับสกุลเงินเข้ารหัสในประเทศไทย:
กรณีศึกษาบิทคอยน์ (พ.ศ.2562) งานวิจัยที่ศึกษาการใช้บิทคอยน์ในอาชกรรมรูปแบบต่างๆ
อาทิ การซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการที่ผิดกฎหมาย การฟอกเงินและการสนับสนุนเงินทุนให้กลุ่มผู้ก่อการร้าย หรือแผนธุรกิจเพื่อสังคม แพลตฟอร์มจําหน่ายข้าวสารจากชาวนาไทยสู่ผู้บริโภค
(พ.ศ.2561) งานวิจัยที่ศึกษาปัญหาภาคเกษตร เช่น ปัญหาต้นทุน วิกฤตพ่อค้าคนกลาง
ฯลฯ และทดลองนําเสนอเทคโนโลยีในฐานะทางออกในการทําเกษตรอย่างยั่งยืน เป็นต้น
ตามไปดู คนไทยวิจัยอะไรกันในเทรนด์ความยั่งยืน
จากการสำรวจหัวข้องานวิจัยและวิทยานิพนธ์ไทยในเทรนด์ความยั่งยืน
ทำให้ได้หัวข้อที่มีการวิจัยมากที่สุด 5 อันดับแรก ดังนี้ คือ
1.การรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและมลพิษ
จำนวน 2,196 ชิ้น
2. การลดความเหลื่อมล้ำ
จำนวน 846 ชิ้น
3. นวัตกรรมที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
จำนวน 726 ชิ้น
4. การเปลี่ยนผ่านสู่ตลาดที่ยั่งยืน
จำนวน 457 ชิ้น
5.แนวคิดใหม่ทางเศรษฐกิจ
จำนวน 229 ชิ้น
สำหรับ
3 อันดับแรกของหัวข้อที่คนไทยวิจัยมากที่สุดในเทรนด์ความยั่งยืน มีตัวอย่างที่น่าสนใจ
เช่น หัวข้อ การรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและมลพิษ มีงานวิจัยเรื่อง กลไกการขับเคลื่อนการปรับตัวของชุมชนต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
: กรณีศึกษาเปรียบเทียบเครือข่ายลุ่มน้ำปะเหลียน จังหวัดตรัง และเครือข่ายลุ่มน้ำประแส
จังหวัดระยอง หรือการจัดการทรัพยากรเพื่อสันติภาพและความยั่งยืน : โครงการพัฒนาระบบข้อมูลพื้นฐานและสารสนเทศเพื่อการพัฒนา, หัวข้อ การลดความเหลื่อมล้ำ มีงานวิจัยเรื่อง
การมีส่วนร่วมของครอบครัวชาวประมง ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมทะเลสาบสงขลา
หรือการศึกษามูลค่าของป่าและปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเสริมสร้างการอนุรักษ์ป่าชุมชนอย่างยั่งยืนชุมชนบ้านร้องกอก
ต.นาบัว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก และหัวข้อ
นวัตกรรมที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม มีงานวิจัยเรื่อง การสร้างพลังงานสะอาดรูปแบบใหม่และการจัดการพลังงานสำหรับการทำงานด้วยตัวเองของอุปกรณ์พกพาและเครือข่ายไร้สาย
หรือการศึกษาและพัฒนาคอนกรีตโปร่งแสงสู่เทคโนโลยีสีเขียว เป็นต้น
หัวข้อที่พบค่อนข้างน้อย
คือ หัวข้อ การเงินและคลังเพื่อความยั่งยืนจำนวน 25 ชิ้น นอกจากนี้ยังพบข้อมูลจาก Google Scholar ที่ชี้ว่า บทความที่มีชื่อเกี่ยวกับ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือมลพิษ
ที่ได้รับการตีพิมพ์มีอย่างน้อย 120,990 ชิ้น และพบว่ามีงานวิจัยในหัวข้อนี้ที่ตีพิมพ์
ในฐานข้อมูลวารสารวิชาการชั้นนำอย่างน้อย 5,440 ชิ้น ในระหว่างปี
พ.ศ.2555-2564 สอดคล้องกับความสนใจของงานวิจัยไทย
สำหรับหัวข้ออื่นๆ
ของงานวิจัยไทยในเทรนด์ความยั่งยืนที่น่าสนใจ มีอาทิเช่น หัวข้อ
นวัตกรรมสิ่งทอจากเส้นใยดาหลาสู่ผลิตภัณฑ์แฟชั่นไลฟ์ สไตล์โดยใช้ทฤษฎีความยั่งยืน (พ.ศ.2561) เป็นงานวิจัยเส้นใยจากต้นดาหลา เพื่อนําไปย้อมสีเส้นด้ายทอต่าง ๆ เช่น ไหม
ฝ้าย เส้นด้ายดาหลา เป็นต้น, ความขัดแย้งในการใช้ทรัพยากรประมง
: กรณีศึกษาวิถีการดํารงอยู่กับความขัดแย้งของชาวประมงชายฝั่ง (พ.ศ.2559) วิทยานิพนธ์ปริญญาเอกที่ทําความเข้าใจพื้นที่ทะเล วิถีชีวิตชาวประมง และการจัดการทรัพยากรที่ลุ่มลึกรอบด้าน หรือคล้า
: วัสดุเหลือทิ้งจากงานจักสาน สู่เส้นใยเพื่อเสริมสร้างงานผลิตภัณฑ์แนวใหม่ (พ.ศ.2562) งานวิจัยที่ศึกษาศักยภาพของของการนําคล้าไปสร้างผลิตภัณฑ์รูปแบบ ต่างๆ
เป็นงานที่ไม่ได้ซับซ้อนแต่เน้นผลลัพธ์ใหม่ เป็นต้น
การสำรวจหัวข้องานวิจัยและวิทยานิพนธ์ไทยในเทรนด์การเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล
และเทรนด์ความยั่งยืนนี้
นอกจากสะท้อนให้เห็นความสนใจของสังคมในช่วงเวลาหนึ่งแล้ว
ยังช่วยเปิดมุมมองและความรู้ใหม่ๆ ที่ถ้าหากอยากเรียนรู้เพิ่มมากยิ่งขึ้น ทุกคนสามารถติดตามไปสำรวจ
“คนไทยวิจัยอะไรกัน สำรวจงานวิจัยและทีสิสไทย ผ่าน 3 เทรนด์ใหญ่ในช่วงศตวรรษ” ทาง http://research.okmd.or.th ที่นำเสนอข้อมูลอ่านสนุก ย่อยง่าย สามารถนำไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ในอนาคต
• ข้อมูลอ้างอิง : http://research.okmd.or.th/, คลังข้อมูลงานวิจัยไทย, โครงการพัฒนาระบบเครือข่ายห้องสมุดในประเทศไทย