Notifications

You are here

บทความ

งานศึกษาชี้ต้องไล่ให้ทันเทคโนโลยี หากใช้ โดรน ละเม...

18 กันยายน 2023 38311 อ่านข่าวนี้ 1 ปีก่อน 1



ปัจจุบัน 'อากาศยานไร้คนขับ' (Unmanned Aerial Vehicle: UAV) หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า 'โดรน' (Drone) เป็นสิ่งประดิษฐ์ชนิดใหม่ที่นำมาใช้ในงานกิจการด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานของรัฐบาล การใช้งานเชิงพาณิชย์ รวมถึงการใช้งานส่วนบุคคล

อากาศยานไร้คนขับส่วนใหญ่จะติดตั้งกล้องที่มีความคมชัดสูง หรืออุปกรณ์รวบรวมข้อมูลอื่นๆ ไว้ ทำให้ลักษณะของการใช้งานอากาศยานไร้คนขับซึ่งบินในมุมสูงในแต่ละครั้ง อาจถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการละเมิดความเป็นส่วนตัว และก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิความเป็นส่วนตัวของบุคคลอื่นได้

จากงานศึกษา 'การกำหนดความรับผิดทางอาญาจากการละเมิดความเป็นส่วนตัวโดยใช้อากาศยานไร้คนขับ' โดย 'อังค์วรา วัฒนรุ่ง' วิทยานิพนธ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรปริญญานิติศาสตรมหาบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2562 ที่ศึกษาปัญหาการบังคับใช้กฎหมายไทยกับการใช้อากาศยานไร้คนขับในการละเมิดความเป็นส่วนตัว และศึกษากฎหมายเกี่ยวกับการใช้อากาศยานไร้คนขับในการละเมิดความเป็นส่วนตัวในต่างประเทศ คือ สหรัฐอเมริกา จำนวน 5 มลรัฐ ได้แก่ มลรัฐเทนเนสซี มลรัฐมิสซิสซิปปี มลรัฐแคลิฟอร์เนีย มลรัฐลุยเซียนา และมลรัฐโรดไอแลนด์ เพื่อหาแนวทางคุ้มครองความเป็นส่วนตัวที่เหมาะสมจากการใช้อากาศยานไร้คนขับ พบข้อค้นพบที่น่าสนใจดังต่อไปนี้

 

โดรนกับการละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของบุคคลอื่น

โดรนเป็นสิ่งประดิษฐ์ชนิดใหม่ที่ถูกนำมาใช้ในงานกิจการด้านต่างๆ ทั้งในชีวิตประจำวันของมนุษย์ ในเรื่องที่เป็นงานอดิเรกเพื่อความบันเทิงส่วนตัว และถูกนำไปใช้ในทางธุรกิจการพาณิชย์ การอุตสาหกรรม และในงานราชการ รวมทั้งในกิจการทางทหารด้วย

ปัจจุบันเทคโนโลยีของโดรนได้มีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงมาก สามารถทำได้หลายอย่าง ส่วนใหญ่จะติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติม เช่น กล้องถ่ายรูป หรืออุปกรณ์อื่นๆ เพื่อรวบรวมข้อมูล อีกทั้งยังมีขนาดเล็ก กะทัดรัด และราคาถูก หาซื้อได้ง่ายและใช้งานง่าย จึงมีการนำโดรนมาใช้อย่างแพร่หลาย แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิด ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิความเป็นส่วนตัวของบุคคลอื่นได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการนำโดรนมาเป็นเครื่องมือที่ใช้อย่างผิดวัตถุประสงค์ตามปกติ เช่น การใช้ในการถ้ำมอง (Voyeurism), การใช้ในการสอดแนม (Spying), ติดตามบุคคลอื่น (Stalking), การใช้ในการสำรวจรอบบ้านเพื่อทำการบุกรุกเข้าไปขโมยทรัพย์สินในบ้าน (Burglary), การใช้ลักลอบขนส่งสิ่งของผิดกฎหมาย เช่น ยาเสพติด หรืออาวุธร้ายแรง หรือแม้กระทั่งการใช้เป็นอาวุธในการโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคล (Hacking) ตลอดจนการก่อการร้าย และการใช้บินเข้าไปในพื้นที่ต้องห้าม เป็นต้น

งานศึกษานี้ยกกรณีตัวอย่างที่เป็นเหตุการณ์เกี่ยวกับการใช้โดรนละเมิดความเป็นส่วนตัว เป็นกรณีที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ มีการรายงานจากผู้หญิงคนหนึ่งว่า มีการใช้โดรนแอบดูผ่านทางหน้าต่างอพาร์ตเมนต์ชั้นสูง ผู้หญิงคนนั้นแจ้งว่าโดรนนั้นบินอยู่ภายนอกหน้าต่างห้องนอน ในขณะที่เธอยังแต่งตัวไม่เสร็จ และเธอได้ถ่ายรูปอากาศยานไร้คนขับนั้นไว้ด้วย พนักงานที่อพาร์ตเมนต์ได้ออกไปสำรวจว่าใครเป็นผู้ใช้โดรนนั้น และพบผู้ชายสองคนกำลังบังคับโดรนดังกล่าวอยู่ ในขั้นตอนของการสอบสวน เมื่อผู้ใช้โดรนถูกจับตัวได้ บุคคลนั้นอ้างว่าได้ทำการบินโดรนเพื่อถ่ายทิวทัศน์โดยรอบสำหรับนักลงทุน ทำให้บุคคลนั้นรอดพ้นจากข้อกล่าวหาเรื่องการแอบถ่าย

กรณีข้างต้น หากผู้ใช้โดรนนั้นทำการบินโดยมีเจตนาแอบถ่าย หรือเจตนาในการกระทำความผิดอื่นๆ อยู่จริง ก็เป็นการยากที่จะพิสูจน์เจตนา

จากเหตุการณ์นี้ทำให้เกิดข้อตระหนักว่า บุคคลอื่นสามารถใช้โดรนเพื่อสอดแนม แอบถ่าย หรือการกระทำความผิดอื่นๆ ได้เช่นกัน จึงควรมีมาตรการทางกฎหมายโดยเฉพาะสำหรับโดรน เพื่อกำหนดขอบเขตว่ารูปแบบของการกระทำความผิดแบบใดบ้างที่จะต้องมีความรับผิดเกิดขึ้น



 ตัวอย่างกฎหมายเกี่ยวกับโดรนจากสหรัฐอเมริกา

งานศึกษาชิ้นนี้ยกตัวอย่างกฎหมายเกี่ยวกับโดรนในสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีกฎหมายระดับรัฐบาลกลางที่เกี่ยวกับการควบคุมการใช้อากาศยานไร้คนขับ ซึ่งออกโดยสำนักงานการบินของสหรัฐอเมริกา โดยมีเงื่อนไขในเรื่องการควบคุมความปลอดภัยในการบิน และเรื่องของความมั่นคงระดับประเทศ เช่น การกำหนดประเภทของอากาศยานไร้คนขับ การกำหนดน้ำหนักของอากาศยานไร้คนขับ เขตพื้นที่ต้องห้ามทำการบิน เป็นต้น โดยไม่เกี่ยวกับบทบัญญัติในเรื่องของความเป็นส่วนตัว

เมื่อกฎหมายระดับรัฐบาลกลางไม่มีบทบัญญัติที่คำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของปัจเจกชน ในสหรัฐฯ จึงออกกฎหมายระดับมลรัฐ (State Law) ที่กำหนดให้การกระทำบางอย่างจากการใช้โดรนเป็นความผิดอาญา หรือความผิดทางแพ่ง ซึ่งกฎหมายระดับมลรัฐนั้นมีขึ้นเพื่อป้องกันความเป็นส่วนตัว (Privacy) จากการใช้เทคโนโลยีต่างๆ มีการกำหนดฐานความผิด เช่น การบุกรุกความเป็นส่วนตัว การถ้ำมองโดยใช้เครื่องมือ การถ่ายรูปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นต้น

งานศึกษาชิ้นนี้ได้สรุปสาระสำคัญของกฎหมายที่เกี่ยวกับโดรนในแต่ละมลรัฐได้ ดังต่อไปนี้

มลรัฐเทนเนสซี ได้แก้ไขกฎหมายเรื่องความเป็นส่วนตัว โดยกำหนดให้การใช้โดรนในการถ่ายภาพบุคคล หรืออสังหาริมทรัพย์ของเจ้าของหรือผู้ครอบครอง โดยมีเจตนาเพื่อการสอดส่องนั้น เป็นความผิดทางอาญา และมีข้อยกเว้นในกรณีที่ผู้ใช้โดรนได้รับความยินยอมจากเจ้าของ หรือผู้ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ หรือกรณีที่นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับอนุญาตจากมลรัฐเทนเนสซี ใช้โดรนเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาด การค้าขาย หรือการลงทุน โดยที่ไม่สามารถถูกระบุตัวตนของบุคคลใดๆ ได้ในภาพ อีกทั้ง มีการบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมความผิดอาญาฐานบุกรุก โดยกำหนดขอบเขตของคำว่า “เข้าไป” ให้หมายรวมถึง การเข้าไปของโดรน

มลรัฐมิสซิสซิปปี กำหนดฐานความผิดสำหรับการใช้โดรนในการถ้ำมองไว้โดยเฉพาะ ซึ่งกฎหมายกำหนดให้เป็นความผิดอาญาฐานบุกรุกโดยการถ้ำมอง การมองเข้าไปในสถานที่ส่วนตัวโดยเจตนา ไม่ว่าจะเป็นกรณีบุคคลเข้าไปเอง หรือใช้เครื่องมือใดๆ เพื่อวัตถุประสงค์ทางเพศ อนาจาร หรือเป็นการไม่เหมาะสม โดยการสอดแนมเจ้าของ หรือผู้ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ ถือเป็นความผิดอาญา, นอกจากนี้ ยังกำหนดความผิดสำหรับกรณีถ่ายรูป หรือวิดีโอโดยไม่ได้รับความยินยอมในสถานที่ที่คาดหมายได้ถึงความเป็นส่วนตัว โดยมีความเฉพาะเจาะจงในเรื่องถ่ายภาพที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งแตกต่างจากเรื่องของการถ้ำมอง หรือแอบดู อย่างไรก็ตามการใช้โดรนถ่ายภาพบุคคลอื่นนั้น อาจเป็นความผิดฐานถ้ำมองและความผิดฐานถ่ายรูปโดยไม่ได้รับความยินยอมด้วย

มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ถือเป็นเรื่องการบุกรุกในทางแพ่ง โดยก่อนหน้านี้เป็นการบุกรุกทางกายภาพเท่านั้น ให้รวมถึงกรณีที่ใช้อุปกรณ์ หรือเครื่องมือใดๆ เข้าไปในแดนกรรมสิทธิ์ของบุคคลอื่นด้วย ซึ่งเครื่องมือดังกล่าวนั้น รวมถึงการใช้โดรนด้วย นอกจากนี้ ตามประมวลกฎหมายอาญาของมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ยังกำหนดฐานความผิดในเรื่องการบุกรุกความเป็นส่วนตัว ซึ่งอาจนำมาปรับใช้กับกรณีใช้โดรนที่ละเมิดความเป็นส่วนตัวได้ และกำหนดความผิดฐานแอบดูไว้อีกด้วย

มลรัฐลุยเซียนา ขยายความหมายของการถ้ำมองและการถ่ายวิดีโอ ให้รวมถึงการใช้งานโดรน กรณีที่ผู้ใช้มีเจตนาใช้อากาศยานไร้คนขับในการละเมิดความเป็นส่วนตัว หรือสอดแนมบุคคลอื่น และขยายความหมายของการบุกรุกทางอาญาให้รวมถึงการใช้งานอากาศยานไร้คนขับ กรณีที่ผู้ใช้มีเจตนาสังเกตการณ์อสังหาริมทรัพย์ หรือบุคคลในอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ยังมีความผิดฐานบุกรุกซึ่งรวมถึงการเข้าไปของโดรนด้วย

มลรัฐโรดไอแลนด์ เป็นมลรัฐที่มีการตรากฎหมายสำหรับโดรนไว้โดยเฉพาะ ซึ่งมีชื่อว่า 'กฎหมายอากาศยานไร้คนขับมลรัฐโรดไอแลนด์' พระราชบัญญัตินี้กำหนดถึงข้อกำหนดในการลงทะเบียนและข้อจำกัดต่างๆ สำหรับโดรน และมีการกำหนดฐานความผิดสำหรับการบุกรุกความเป็นส่วนตัวจากการใช้โดรนอีกด้วย

 เสนอให้การละเมิดความเป็นส่วนตัวโดยใช้โดรนเป็นความผิดอาญาในไทย

งานศึกษาชิ้นนี้ ศึกษากฎหมายไทย พบว่าความผิดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้โดรนในการละเมิดความเป็นส่วนตัว ได้แก่ ความผิดฐานบุกรุกอสังหาริมทรัพย์ตามมาตรา 362 หรือความผิดฐานบุกรุกเคหสถานตามมาตรา 364 ความผิดฐานรังแก คุกคาม หรือทำให้เดือดร้อนรำคาญตามมาตรา 397 ความผิดฐานหมิ่นประมาทตามมาตรา 326 ความผิดฐานเผยแพร่สื่อลามกอนาจารตามมาตรา 287 และความผิดฐานบันทึกภาพ หรือเสียง การกระทำชำเรา หรือการกระทำอนาจารไว้เพื่อแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบตามมาตรา 280/1 นั้น ไม่เพียงพอต่อการคุ้มครองความเป็นส่วนตัว ซึ่งฐานความผิดเหล่านี้ยังมีข้อจำกัดหลายประการสำหรับการนำมาปรับใช้กับโดรนที่ละเมิดความเป็นส่วนตัว

งานศึกษาชิ้นนี้เสนอว่า เมื่อบทบัญญัติกฎหมายไทยสำหรับการกระทำที่เป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวจากการใช้โดรนไม่เพียงพอต่อการคุ้มครองความเป็นส่วนตัว ประเทศไทยจึงควรกำหนดความผิดตามกฎหมายอาญา เพื่อป้องกันการละเมิดความเป็นส่วนตัวต่อบุคคลอื่น โดยเสนอว่าควรบัญญัติให้การละเมิดความเป็นส่วนตัวโดยโดรน ในความผิดฐานบุกรุกโดยโดรน, ความผิดฐานถ้ำมองโดยโดรน, และความผิดฐานละเมิดความเป็นส่วนตัว โดยแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาในความผิดฐานบุกรุกตามมาตรา 362 และเพิ่มเติมความผิดฐานถ้ำมองโดยโดรน และความผิดฐานละเมิดความเป็นส่วนตัวโดยโดรนไว้ในประมวลกฎหมายอาญา ลักษณะ 11 ความผิดเกี่ยวกับเสรีภาพและชื่อเสียง หมวด 4 ความผิดต่อสิทธิความเป็นส่วนตัว


ดาวน์โหลดวิทยานิพนธ์นี้ฉบับเต็มได้ที่:

'การกำหนดความรับผิดทางอาญาจากการละเมิดความเป็นส่วนตัวโดยใช้อากาศยานไร้คนขับ' (อังค์วรา วัฒนรุ่ง, วิทยานิพนธ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรปริญญานิติศาสตรมหาบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2562)



URL อ้างอิง: http://cuir.car.chula.ac.th/bitstream/123456789/69598/1/6086017634.pdf

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เราใช้คุกกี้ (Cookie) เพื่อใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพเว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ นโยบายคุกกี้
ยอมรับ