ตะลุยพิพิธภัณฑ์รอบโลก

นอกจากห้องสมุดเก๋ๆ ทั่วโลกแล้ว พิพิธภัณฑ์ ก็เป็นอีกหนึ่งแหล่งเรียนรู้ยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวมักแวะไปเยือน เพราะช่วยให้รู้จักอดีตและปัจจุบันของสถานที่หรือเมืองนั้นๆ ได้อย่างรวดเร็วและเข้าใจง่าย อีกทั้งพิพิธภัณฑ์ส่วนใหญ่ยังมีเอกลักษณ์และความโดดเด่นดึงดูดใจแตกต่างกันไปอีกด้วย

พิพิธภัณฑ์ จึงเป็นหมุดหมายที่เมืองต่างๆ พยายามสร้างสรรค์ให้มีคุณค่ามากที่สุด เข้าไปชมแล้วไม่น่าเบื่อ และมีการแบ่งแยกย่อยออกเป็นหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ พิพิธภัณฑ์โบราณคดี พิพิธภัณฑ์ศิลปะ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ หรือพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน

ดังนั้น การเที่ยวพิพิธภัณฑ์ทุกวันนี้ เลยทำให้ได้ทั้งความรู้และความสนุกกลับมา เมืองใหญ่ๆ ทั่วโลกก็มีการเปิดตัวพิพิธภัณฑ์แห่งใหม่ขึ้นหลายแห่ง ทั้งที่เป็นพิพิธภัณฑ์ใหม่แกะกล่อง และพิพิธภัณฑ์ที่เพิ่งปรับปรุงโฉมใหม่ ล้วนน่าสนใจและไม่ควรพลาดไปชมทั้งสิ้น

หากใครพร้อมแล้ว ก็ไปตะลุยพิพิธภัณฑ์รอบโลกแห่งใหม่ให้เพลินใจกันได้เลย

• พิพิธภัณฑ์ Grand Egyptian Museum ที่เมืองกิชา ประเทศอียิปต์ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่หลายคนเฝ้ารอคอย เพราะมีการเริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ.2005 กว่าจะมาเสร็จสมบูรณ์ในปีนี้อย่างยิ่งใหญ่สมชื่อ โดยจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ทางโบราณคดีแห่งใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีพื้นที่รวมทั้งหมด 490,000 ตารางเมตร ได้รับการออกแบบให้มีพื้นที่จัดแสดงทั้งบนดินและไล่ระดับความลึกลงไปใต้ดินประหนึ่งการเดินอยู่ในพีระมิด ตัวอาคารสร้างไม่สูงมากนัก ลักษณะรูปทรงเป็นสามเหลี่ยม กลมกลืนกับพีระมิดและโบราณสถานอายุนับพันปีที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กันกับพิพิธภัณฑ์ ภายในรวบรวมโบราณสถานและโบราณวัตถุของอารยธรรมลุ่มแม่น้ำไนล์เอาไว้กว่า 100,000 ชิ้น โดย 5,400 ชิ้นมาจากสุสานของฟาโรห์ตุตันคาเมน ผู้ปูทางอียิปต์โบราณสู่ความรุ่งเรือง รวมทั้งมีเรือโบราณขนาดใหญ่อายุกว่า 4,600 ปี ที่ถูกพบในพีระมิดกิชาจัดแสดงไว้ด้วย ดังนั้นพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ จึงเปรียบเสมือนประตูเปิดประสบการณ์สู่โลกไอยคุปต์ทั้งที่เป็นโบราณสถานโบราณวัตถุของจริง และองค์ความรู้เชิงอนุรักษ์จากการสำรวจต่างๆ อย่างน่าทึ่ง

• พิพิธภัณฑ์ National Museum of Norway
  ที่เมืองออสโล ประเทศนอร์เวย์ เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติแห่งใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในแถบนอร์ดิก ออกแบบโดยสถาปนิก Kleihues+Schuwerk มีความโดดเด่นด้วยลักษณะอาคารอันทันสมัย ด้านบนเป็นโถงขนาดใหญ่รูปทรงกล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าประดับไฟ LED หรือที่เรียกว่า Light Hall ภายในจัดแสดงผลงานศิลปินระดับโลกมากมายหลายยุคกว่า 400,000 ชิ้น รวมถึงผลงานมาสเตอร์พีซ The Scream (เสียงกรีดร้อง) ของเอ็ดวาร์ด มุงก์ ศิลปินดังชาวนอร์เวย์ด้วย

• พิพิธภัณฑ์ Museum of the Future
  ที่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งอนาคตแห่งใหม่ ที่มีลักษณะอาคารล้ำสมัยด้วยรูปทรงกลม พร้อมตัวอักษรอาหรับประดับโครงสร้างด้านนอก เนื้อความหมายถึงอนาคตที่เราออกแบบและสร้างได้ในวันนี้ โดยเน้นการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการเล่าเรื่องและจัดแสดงนวัตกรรมในการแก้ปัญหาต่างๆ ของมนุษยชาติ ด้วยการจำลองดูไบในปี ค.ศ.2071 เพื่อให้ผู้เยี่ยมชมได้สัมผัสกับอนาคตของการเดินทาง การใช้ชีวิตบนอวกาศ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและระบบนิเวศวิทยา สุขภาพ และจิตวิญญาณ ซึ่งถือว่าอลังการอย่างยิ่ง

• พิพิธภัณฑ์ Hong Kong Palace Museum
  ที่เกาะเกาลูน ฮ่องกง เป็นพิพิธภัณฑ์พระราชวังฮ่องกง ที่เพิ่งเปิดใหม่หมาด หลังจากปีที่ผ่านมา ที่นี่ได้มีการเปิดตัวพิพิธภัณฑ์ร่วมสมัยที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง M+ Museum ท่ามกลางความตื่นตาไปแล้ว สำหรับพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะเน้นจัดแสดงเรื่องของศิลปะและวัฒนธรรมจีนดั้งเดิมผ่าน 9 ห้องแสดง โดยมีไฮไลต์อยู่ที่ห้องแสดงโบราณวัตถุและสิ่งของประวัติศาสตร์จากพระราชวังต้องห้ามในปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เช่น ภาพวาด ภาพเขียนตัวอักษร ภาพศิลปะและหนังสือหายาก นอกจากนั้นก็ยังมีการจับมือกับพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ในปารีสจัดแสดงนิทรรศการพิเศษเพิ่มขึ้นอีกด้วย

• พิพิธภัณฑ์ Robot Science Museum
  ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เป็นพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์หุ่นยนต์แห่งใหม่และแห่งแรกของโลกที่สร้างด้วยหุ่นยนต์ นั่นคือใช้หุ่นยนต์ช่วยในการขึ้นแบบ วางโครงสร้าง และประกอบชิ้นส่วน ในส่วนของภูมิสถาปัตย์ที่เป็นงานคอนกรีตก็ใช้เทคนิคการพิมพ์ 3D และมีการใช้โดรนในการสำรวจพื้นที่ พร้อมควบคุมการก่อสร้างของหุ่นยนต์ ทำให้ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย มีลักษณะเด่นที่อาคารทรงกลมเรขาคณิต ซึ่งออกแบบคำนึงถึงความทันสมัยและสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมของเมือง โดยนิทรรศการแรกในการเปิดตัว จะเป็นการโชว์เคสการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ด้วยหุ่นยนต์ พร้อมกับการแสดงเทคโนโลยีหุ่นยนต์ล้ำสมัยอย่าง AI, AR, VR และโฮโลแกรมต่างๆ อย่างน่าสนใจ

• พิพิธภัณฑ์ National Museum of Western Art
  ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุน เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะตะวันตกกลางสวนอุเอโนะ ที่เพิ่งกลับมาเปิดใหม่ หลังเสร็จสิ้นการปรับปรุงซ่อมแซมมายาวนานถึง 18 เดือน ตอนนี้ก็พร้อมสำหรับการอวดโฉมอีกครั้ง ด้วยลักษณะของอาคารที่โดดเด่นสวยงาม จากฝีมือการออกแบบของสถาปนิกเลื่องชื่อชาวฝรั่งเศสอย่างเลอกอร์บูซีเย จนทำให้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรม ส่วนภายในก็มีการจัดแสดงงานศิลปะดังๆ จากตะวันตกอย่างมากมาย

• พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
  ที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เพิ่งกลับมาเปิดใหม่ในปีนี้ หลังจากมีการปิดเพื่อปรับปรุงทุกห้องจัดแสดงใหม่ในรอบ 140 ปี ตามโครงการอนุรักษ์และพัฒนาพระราชวังบวรสถานมงคล เมื่อ 10 ปีก่อน เพื่อลบภาพจำว่าการชมพิพิธภัณฑ์เป็นเรื่องที่น่าเบื่อ จากนั้นก็มีการทยอยเปิดห้องจัดแสดงมาตั้งแต่ปี ค.ศ.2018 ซึ่งล่าสุด ห้องทุกห้องเสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยแต่ละห้องทำการปรับโฉมให้มีพื้นที่โล่งมากขึ้น การจัดแสดงสวยงามยิ่งขึ้น และคัดเลือกโบราณวัตถุชิ้นสำคัญมาจัดแสดงให้ชมแบบ 360 องศา รวมทั้งมีการนำเทคโนโลยีอย่างหน้าจอสัมผัส วิดิทัศน์คิวอาร์โค้ด และเออาร์โค้ด เข้ามาเสริมให้ข้อมูลน่าสนใจขึ้นด้วย ส่วนห้องแสดงที่เป็นไฮไลต์คือ อาคารประพาสพิพิธภัณฑ์ ซึ่งเป็นห้องใหม่ที่จัดแสดงหลักฐานทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีในประเทศไทย หลังพุทธศตวรรษที่ 18 เอาไว้ถึง 918 ชิ้นทีเดียว     

ข้อมูลอ้างอิง : www.grandegyptianmuseum.org, www.nasjonalmuseet.no/en/, www.museumofthefuture, www.westkowloon.hk, www.goldtrezzini.ru, www.nmwa.go.jp/jp/, www.wikipedia.org