ออร์กนีย์และโยโกฮามา เมืองต้นแบบพลังงานไฮโดรเจน เพื่อโลกในอนาคต

25 ธันวาคม 2023
|
84 อ่านข่าวนี้
|
43


ทุกวันนี้ ไปไหนใครๆ ก็พูดถึงแต่ พลังงานไฮโดรเจน ว่าจะเป็นอัศวินม้าขาว มาช่วยกู้โลกในยุคที่เกิดภาวะก๊าซเรือนกระจกหรือการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงได้

ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น นั่นก็เนื่องมาจากว่า พลังงานไฮโดรเจน เป็นพลังงานสะอาดที่สามารถสังเคราะห์ได้จากวัตถุดิบตามธรรมชาติหลากหลายประเภท เช่น ลม น้ำ หรือคลื่น และเมื่อเกิดการเผาไหม้ ก็จะมีเพียงน้ำและออกซิเจนเท่านั้นที่เป็นผลพลอยได้ แตกต่างจากเชื้อเพลิงอื่นๆ ที่ให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อการเกิดภาวะก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้นเร็วและแรง จนทำให้โลกร้อนและสิ่งแวดล้อมเสียหาย

นอกจากนี้ พลังงานไฮโดรเจน ยังให้ค่าพลังงานเชื้อเพลิงที่สูงกว่าค่าพลังงานชนิดอื่น ไม่ก่อให้เกิดกลุ่มควันฝุ่นละออง สามารถประยุกต์ใช้กับงานที่ใช้พลังงานดั้งเดิม และนำไปผลิตกระแสไฟฟ้า โดยป้อนเข้าเซลล์เชื้อเพลิงได้ด้วย

น่าทึ่งกว่านั้นคือ คุณสมบัติของพลังงานไฮโดรเจน ยังไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ติดไฟง่าย และมีความสะอาดสูง ไม่เป็นพิษและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พลังงานนี้ก็เลยถูกยกให้เป็น พลังงานแห่งอนาคต ที่สำคัญต่อโลกอย่างยิ่ง

โดยหลายปีมานี้ หลายประเทศที่พัฒนาแล้ว ก็ได้มีการวิจัยและพัฒนาการผลิตพลังงานไฮโดรเจนกันอย่างจริงจัง เช่น สหรัฐอเมริกา เยอรมนี อังกฤษ สกอตแลนด์ และญี่ปุ่น

สำหรับสกอตแลนด์นั้น เมืองที่เป็นต้นแบบอยู่ที่ออร์กนีย์ (Orkney) หมู่เกาะเล็กๆ ทางตอนเหนือ ที่ประกอบด้วยเกาะเล็กเกาะน้อยถึง 70 เกาะ แต่เกาะที่มีคนอยู่อาศัยมีประมาณ 20 เกาะ ซึ่งเแต่เดิมหมู่เกาะนี้จะพึ่งพาพลังงานถ่านหินและแก๊สจากแผ่นดินใหญ่ของสกอตแลนด์ผ่านทางสายเคเบิลใต้ทะเล แต่ตั้งแต่ปี พ.ศ.2555 เป็นต้นมา ที่นี่ได้หันมาริเริ่มการใช้พลังงานทดแทน เพื่อนำร่องสู่การเป็นเมืองหรือหมู่เกาะไร้สารคาร์บอน ด้วยการติดตั้งกังหันลมจำนวนมาก เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าใช้เองจากพลังงานธรรมชาติ ทั้งพลังงานลม พลังงานน้ำ และพลังงานคลื่น โดยเฉพาะพลังงานลม ที่มีพลังมากขนาดหมุนกังหันลมขนาดเล็กได้ถึง 700 ตัว ทั้งนี้เนื่องจากออร์กนีย์มีลักษณะพื้นที่เป็นที่ราบต่ำ ขนาบด้วยมหาสมุทรแอตแลนติกและทะเลเหนือ ทำให้มีพลังงานลมสูงมากนั่นเอง

ส่วนพลังงานน้ำและพลังงานคลื่นที่ออร์กนีย์ก็มีสูงมากเช่นกัน เมื่อนำมารวมกันจะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้อย่างเหลือเฟือเกินกว่าความต้องการใช้ถึง 120% ซึ่งส่วนหนึ่งมีการนำไปใช้กับคนบนเกาะ เรือที่จอดเทียบท่าที่ท่าเรือออร์กนีย์ และรถยนต์ไฟฟ้าที่ขับไปใช้บริการที่สถานีชาร์จไฮโดรเจนหลายแห่งบนเกาะ ขณะที่อีกส่วนหนึ่งที่เกินกว่าความต้องการ ก็มีการกักเก็บพลังงานไว้ในรูปของก๊าซไฮโดรเจน สำหรับใช้ในยามจำเป็น

อย่างไรก็ตาม ก๊าซไฮโดรเจนน้อยนักจะอยู่อย่างอิสระ ส่วนมากมักรวมตัวกันกับองค์ประกอบอื่นๆ อย่างเช่นออกซิเจน ในกระบวนการกักเก็บ จึงต้องใช้นวัตกรรมที่มีชื่อว่า อิเล็กโทรลิซิส (Electrolysis) มาแยกไฮโดรเจน (H2) ออกมาจากออกซิเจน (O2) แล้วบีบอัดอย่างระมัดระวังไปเก็บไว้ในถัง ส่วนออกซิเจนจะถูกปล่อยกลับสู่ชั้นบรรยากาศ ซึ่งนวัตกรรมอิเล็กโทรลิซิสนี้ ต้องใช้กระแสไฟฟ้าเยอะมาก ซึ่งหากเป็นกระแสไฟฟ้าที่ไม่ได้มาจากแหล่งพลังงานสะอาด ก็จะส่งผลให้สิ่งแวดล้อมเสียหายหนัก แต่กระแสไฟฟ้าจากออร์คนีย์เป็นพลังงานสะอาด ได้มาจากพลังงานลม น้ำ และคลื่น ดังนั้นกระบวนการแยกไฮโดรเจนออกมากักเก็บไว้ จึงสะอาด ไม่สร้างมลพิษทางอากาศ และไม่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกมาทำให้โลกเกิดภาวะก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด

เช่นเดียวกับที่เมืองโยโกฮามา (Yokohama) ในจังหวัดคานางาวะ ทางตอนใต้ของกรุงโตเกียว ก็เป็นเมืองนำร่องด้านการนำพลังงานทดแทนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้ ในช่วงไล่เลี่ยกับออร์คนีย์ โดยมีการใช้พลังงานลมมาผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งพลังงานลมนี้ได้มาจากการสร้างฮามะ วิงส์ (Hama Wings) หรือกังหันลมขนาดยักษ์ เพื่อเป็นต้นกำเนิดพลังงานลมตามธรรมชาติ ที่จัดว่าใหญ่ที่สุดในโลก เพราะมีความสูงจากฐานถึงยอด 78 เมตร และขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของใบพัดกังหันกว้าง 80 เมตร จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโยโกฮามาไปเลย แต่ต่อมามีการสร้างฮามิ วิงส์ ระลอกสอง ที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิม 4 เท่า ทำให้กังหันลมใหม่ทำลายสถิติกังหันลมเก่า และขึ้นแท่นเป็นกังหันลมที่ใหญ่ที่สุดในโลกแทน

สำหรับกระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้ จะอยู่ที่ประมาณ 2 แสนยูนิต มีการนำไปใช้กับภาคครัวเรือนของชาวโยโกฮามา ประมาณ 10% และอีก 90% นำไปขายในเชิงพาณิชย์ นำรายได้เข้าสู่เมืองถึงปีละ 20 ล้านเยนทีเดียว จึงทำให้เมืองโยโกฮามามีการวางแผนที่จะต่อยอดการสร้างสถานีผลิตพลังงานไฮโดรเจนจากพลังงานลมเพิ่มขึ้นอีก

จึงเห็นได้ว่า เมืองทั้งสองแห่งเป็นต้นแบบของเมืองไฮโดรเจน ที่นำร่องมาตั้งแต่ช่วงแรกๆ ของการจุดกระแสพลังงานทดแทนจากธรรมชาติ และประสบความสำเร็จเป็นที่รู้จักอย่างมากมาย

แนวคิดเรื่องเมืองแห่งพลังงานไฮโดรเจน ก็เลยเป็นความหวัง เป็นอนาคตของโลกในการส่งเสริมสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น เมืองไหนใครสร้างพลังงานนี้ขึ้นมา นอกจากได้พลังงานสะอาดๆ ตามวัตถุประสงค์หลักมาใช้แล้ว

แน่นอนว่า ยังจะได้ภาพลักษณ์ของเมือง Eco Friendly ไปเต็มๆ ด้วย

 

ข้อมูลอ้างอิง : www.brandbuffet.in.th, www.urbancreature.co

0 ความคิดเห็น

Ask OKMD AI