ตรุษจีน 2568 ภาพรวมเศรษฐกิจโลก จีน และไทย
ตรุษจีนหรือเทศกาลปีใหม่จีนเกี่ยวข้องกับการกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ใช่เพียงเฉพาะในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน แต่ยังรวมถึงเศรษฐกิจโลกหรือนานาประเทศ รวมถึงประเทศไทยที่มีประชากรเชื้อสายจีนจำนวนมากอาศัย ไม่ต่างจากเทศกาลคริสต์มาสทั่วโลก และเทศกาลสงกรานต์ของไทย ที่ทำให้เกิดการเคลื่อนตัวเพื่อกลับบ้านเกิดหรือเพื่อเดินทางท่องเที่ยวของประชากร เกิดการผลิตสินค้า ให้บริการ และเกิดการจับจ่ายซื้อขายข้าวของที่สอดคล้องกับวัฒนธรรมและประเพณีที่มีมาแต่ดั้งเดิม
มองภาพรวมเศรษฐกิจโลก ตรุษจีน 2568
ก่อนช่วงเทศกาลตรุษจีนปีงู เป็นช่วงที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเมื่อปลายปีมังกร เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ โดยมาพร้อมกับนโยบายประชานิยม America First หรือ อเมริกาต้องมาก่อน ซึ่งเมื่อเข้ารับตำแหน่งก็ได้เริ่มเดินหน้าปฏิบัติให้สอดคล้องกับนโยบายที่หาเสียงมาโดยตลอด ที่รวมถึงการปิดกั้นโอกาสทางเศรษฐกิจของจีนหลายด้าน ทำให้จีนและผู้ประกอบธุรกิจที่มีความกังวลด้านเศรษฐกิจเดิม เพิ่มความกังวลใจตามลำดับ และหาทางปรับตัวล่วงหน้าเพื่อรับมือกับสถานการณ์
อย่างไรก็ดีการเฉลิมฉลองตรุษจีนในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลกยังคงเดินหน้าต่อ ซึ่งในสหรัฐอเมริกาเองมีการจัดกิจกรรมในย่านไชนาทาวน์ของเมืองใหญ่ตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์เพื่อต้อนรับเทศกาล หนึ่งในนั้นคือที่ย่านไชนาทาวน์ที่เก่าแก่ที่สุดในสหรัฐอเมริกาอย่างซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ที่เริ่มต้นตั้งแต่ทศวรรษที่ 1860 รวมถึงนิวยอร์ก รัฐนิวยอร์กที่มีไชนาทาวน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ จากข้อมูล Lonely Planet ว่าด้วยการฉลองตรุษจีนในสหรัฐอเมริกา ที่นับว่าช่วยกระตุ้นเทศกิจของเมืองทั้งจากนักเดินทางภายในประเทศและนอกประเทศในช่วงเทศกาล โดยไม่ได้ดึงดูดเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีนเท่านั้น แต่ยังดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวจากประเทศในเอเชียที่มีรากวัฒนธรรมที่เชื่อมโยงหรือใกล้เคียงกัน
เทศกาลตรุษจีนในมุมมองของชาวจีนแผนดินใหญ่
ทั้งรัฐบาลจีนและภาคธุรกิจในจีนแผนดินใหญ่หรือประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนเตรียมพร้อมเพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนล่วงหน้ามาตั้งแต่เนิ่นๆ หนึ่งในนั้นคือขยายวันหยุดราชการออกไปอีก 1 วันเพื่อกระตุ้นการบริโภค จาก 7 วันเป็น 8 วัน สอดคล้องกับปีก่อน (พ.ศ. 2567) ในขณะที่ชาวจีนจำนวนมากลังเลที่จะใช้จ่ายเนื่องจากปัญหาเรื่องเงินและงาน ตามรายงาน China readies for Lunar New Year, amid worries about the economy จาก Reuters ท่ามกลางบรรยากาศการแห่เดินทางไปยังสถานีรถไฟและสนามบินพร้อมกระเป๋าเดินทางและของขวัญสำหรับมอบให้ครอบครัวในเทศกาลตรุษจีน ซึ่งเป็นวันหยุดที่ใหญ่ที่สุดของจีน ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 28 ม.ค.- 4 ก.พ. พร้อมก้าวสู่อีกหนึ่งปีสำคัญที่ตามนักษัตรจีนนับได้เป็นปีงู
นอกจากขยายวันหยุด แนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศมีตั้งแต่การส่งเสริมจุดหมายปลายทางในช่วงวันหยุดฤดูหนาว ราคาตั๋วเครื่องบินราคาไม่แพง การปรับลดอัตราดอกเบี้ย การเพิ่มเงินบำนาญขั้นพื้นฐาน และขยายโครงการการค้าสินค้าอุปโภคบริโภคที่ช่วยให้ผู้บริโภคกล้าใช้จ่าย ที่อย่างน้อยหมายถึงของประดับตกแต่ง ของไหว้ การออกนอกบ้านในวันจ่ายและวันเที่ยวเพื่อชวนสมาชิกครอบครัวไปยังโรงภาพยนตร์ ร้านอาหาร ศูนย์การค้า เพื่อใช้เวลาร่วมกันที่ได้สะท้อนให้เห็นว่าผู้คนยังคงรัดเข็มขัดต่อไป ทั้งยังมีอีกมุมน่าสนใจคือชาวจีนอีกส่วนเลือกที่อยู่ในเมืองใหญ่และไม่กลับบ้านเพื่อทำงานและรับเงินที่ค่างจ้างที่เพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีน
ค่าใช้จ่ายเพิ่มเพราะของแพงแต่ตรุษจีนไทยยังคึกคัก
ก่อนหน้าเทศกาลตรุษจีน พ.ศ. 2568 ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยได้เปิดเผยตัวเลขที่เกี่ยวกับเทศกาลตรุษจีนไทยว่ามีแนวโน้มคึกคัก โดยมีเงินสะพัดราวกว่า 51,787 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.5% จาก พ.ศ. 2567 มูลค่า 49,558 ล้านบาท ซึ่งสูงสุดในรอบ 5 ปีนับตั้งแต่มีสถานการณ์โควิด และเป็นปีแรกที่มีเงินสะพัดสูงถึง 50,000 ล้านบาท จากผลสำรวจพฤติกรรมใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลตรุษจีนวันที่ 13-19 มกราคม พ.ศ. 2568 จำนวน 1,283 ตัวอย่างทั่วประเทศ โดยส่วนใหญ่วางแผนซื้อสินค้าและท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ที่มาพร้อมมุมมองสินค้าราคาแพงกว่า พ.ศ. 2567 จากบทความ ข่าวทั้งโดยไทยรัฐและไทยพีบีเอสที่ได้รายงานในก่อนช่วงเทศกาล
สำหรับการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นสามารถกล่าวได้ว่าเกี่ยวข้องกับโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่มีมาก่อนหน้า เช่น
มาตรการ Easy e-Receipt 2.0 มาตรการที่ให้ผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดานำค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าหรือบริการมาหักลดหย่อนภาษี พ.ศ. 2568 โดยมีระยะเวลาตั้งแต่ 16 มกราคม ถึง 28 กุมภาพันธ์ ได้สูงสุด 50,000 บาท และการดำเนินการโอนเงินสนับสนุนจำนวน 10,000 บาท ในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ เฟส 2 ให้กับประชาชนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ในวันที่ 27 มกราคม ซึ่งตรงกับช่วงการเตรียมตัวสู่เทศกาลตรุษจีน
อั่งเปาที่ยังไม่หายไปท่ามกลางการกระตุ้นเศรษฐกิจไทย
ท่ามกลางภาพรวมของเศรษฐกิจที่ต้องการกระตุ้น เช่นเดียวกัน เงินอั่งเป่าที่เตรียมมอบกับลูกหลานจึงเป็นเรื่องที่น่าพิจารณา ในประเด็นนี้รายงาน ราคาของไหว้ตรุษจีนปี 2568 ขยับขึ้นตามค่าครองชีพ โดยศูนย์วิจัยธนาคารกสิกรไทยได้ระบุว่า การให้อั่งเปากับลูกหลานและลูกจ้างยังเป็นกิจกรรมที่คนให้ความสนใจและรอคอยเช่นเดียวกับทุกปีที่ผ่านมา แต่ท่ามกลางกำลังซื้อในประเทศที่ฟื้นตัวไม่เต็มที่ ผู้ปกครองหรือนายจ้างอาจให้อั่งเปาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยไปจนถึงใกล้เคียงหลังจากที่เพิ่งมีการประกาศปรับค่าแรงขั้นต่ำไปเมื่อต้นปี พร้อมคาดว่าการใช้จ่ายของคนกรุงเทพฯ ช่วงเทศกาลอาจเติบโต 2.3% เมื่อเทียบกับช่วงตรุษจีน พ.ศ. 2567 จากปัจจัยหลักด้านราคาและคนเข้าร่วมที่ลดลง ซึ่งปัจจุบันในกรุงเทพฯ มีประชากรราว 2 ล้านคนที่เป็นคนไทยเชื้อสายจีน
ขณะเดียวกันเมื่อมองในแง่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ เทศกาลตรุษจีนในย่านไชนาทาวน์หรือย่านเยาวราช ของกรุงเทพฯ ยังคงเป็นกิจกรรมที่ที่มีเสน่ห์และมีมูลค่าในด้านการท่องเที่ยว เช่นเดียวกับหลายจังหวัดที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมจีน ที่เมื่อหากนำความคิดสร้างสรรค์ ไปจนถึงเทคโนโลยี โดยเฉพาะเทคโนโลยีเอไอในเทรนด์โลก มาผนวกใช้ ก็จะยิ่งต่อยอดด้านการท่องเที่ยว ช่วยเพิ่มตัวเลขอั่งเปาให้เศรษฐกิจไทย ท่ามกลางนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะยาว
#ChineseNewYear #LunarNewYear #Economy #ตรุษจีน #เศรษฐกิจ #KnowledgePortal #กระตุกต่อมคิด #OKMD
ข้อมูลอ้างอิง : www.reuters.com, www.voanews.com, www.lonelyplanet.com, www.thairath.co.th และ www.thaipbs.or.th

