ยุค AI ที่ทำให้ ‘ข้อมูลอาหารล้น’ ส่งผลมุมบวกกับเราทุกคนอย่างไร

09 มิถุนายน 2025
|
6 อ่านข่าวนี้
|
1

ข้อมูลล้นเกินยุค AI อาจสร้างอุปสรรค แต่สำหรับด้านความมั่นคงทางอาหาร ข้อมูลมหาศาลเท่ากับโอกาส และในด้านสุขภาพ ข้อมูลขนาดใหญ่คือทางป้องกันและแก้ไข ชวนคุณมองข้อมูลอาหารที่กำลังล้นเกินในมุมใหม่ท่ามกลางโอกาสและความท้าทายสำคัญ

1. ข้อมูล ‘ด้านความมั่นคงทางอาหาร’ มหาศาล ช่วยให้เราเตรียมคลังอาหารได้มีประสิทธิภาพขึ้น
ทั้งจากความตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจริงอย่างอุณหภูมิโลกเปลี่ยน และจากการทำงานของอัลกอริทึม ล้วนช่วยกันตอกย้ำปัญหา นำไปสู่ทางออกในการวิเคราะห์และบริหารจัดการให้อาหารมีเพียงพอต่อความต่อการอย่างแท้จริง โดยมีตัวช่วยเป็น AI 
  • ใช้ AI ช่วยวิเคราะห์แนวโน้มและคาดการณ์คลังอาหาร ในแง่มุมสภาพอากาศ ผลผลิต ที่ตั้ง และเป้าหมาย ช่วยให้เราวางแผนการผลิตและจัดเก็บอาหารในคลังได้ อย่างเหมาะสมเพียงพอต่อความต้องการในอนาคตได้จริง
  • ใช้ AI ช่วยการจัดการห่วงโซ่อุปทาน เพื่อจัดการหรือติดตามตั้งแต่การผลิต การขนส่ง การจัดเก็บในคลัง ไปจนถึงการลดการสูญเสีย ช่วยให้ทุกขั้นตอนดำเนินไปอย่างชาญฉลาด ถูกวิธี เกิดประสิทธิภาพมากขึ้นได้จริง
  • Sencrop  คือ หนึ่งตัวอย่างที่เชื่อมโยงได้ ในฐานะสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีเกษตรฝรั่งเศส ที่ให้บริการสถานีตรวจอากาศและเซ็นเซอร์ที่ง่ายแก่การตรวจสอบและจัดการพืช ช่วยลดความเสียหายก่อนถึงเวลาเก็บเกี่ยว ทำได้ผลผลิตใกล้เคียงความต้องการ


2. ข้อมูล ‘ด้านการกินและสุขภาพ’ ที่กำลังล้น ช่วยให้เราดูแลสุขภาพเชิงป้องกันมากขึ้นด้วยการกินดี

ประเด็นการกินดีที่ถูกกล่าวถึงเป็นประจำในโลกออนไลน์ ได้กลายมาเป็นเทรนด์ที่ช่วยผลักดันให้เกิดการปรับพฤติกรรมของผู้บริโภคในเวลานี้ อย่างไรก็ดี เราสามารถคัดกรองข้อมูลที่ต้องการอย่างแท้จริงด้วย AI

  • ใช้ AI เข้าถึงและเปรียบเทียบข้อมูลคุณค่าและความปลอดภัยของอาหาร จากแหล่งข้อมูลจำนวนมาก เราสามารถสร้างคำสั่งให้ AI จัดอันดับเปรียบเทียบ ประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล เพื่อใช้คู่กับองค์ความรู้เดิมที่มีได้
  • ใช้ AI ช่วยวางแผนมื้ออาหารเพื่อป้องกันโรค NCDs ดีต่อร่างกาย การรณรงค์ลดโรค NCDs ในโลกออนไลน์ทำให้เกิดพฤติกรรมการกินใหม่ เช่น ลดเค็ม ลดน้ำตาล กินปริมาณเหมาะสม ซึ่ง AI เข้ามาช่วยวางแผนได้
  • SNAQ เป็นอีกหนึ่งในตัวอย่างการใช้ AI สนับสนุนการกินดี นั่นคือ เครื่องมือติดตามโรคเบาหวานที่ขับเคลื่อนด้วย AI ช่วยให้การจัดการโรคเบาหวานเป็นเรื่องง่ายด้วยการนับคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมันผ่านภาพเพียงภาพเดียว

3. ข้อมูล ‘ด้านโอกาสเข้าถึงอาหารในกลุ่มเปราะบาง’ ที่มีเพิ่มมากขึ้น ช่วยลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเท่าเทียม

กลุ่มเปราะบางหมายถึงกลุ่มคนที่ขาดแคลนหรือเข้าถึงอาหารได้ยาก เช่น ผู้ยากไร้ ผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้ประสบภัย การได้รับรู้ข้อมูลของคนกลุ่มนี้ที่บ่อยขึ้น ช่วยกระตุ้นการนำ AI มาใช้แก้ปัญหาและยกระดับคุณชีวิต

  • ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลประชากร เศรษฐกิจ และปัจจัยอื่นๆ โดยปัจจัยที่เกี่ยวข้อง เช่น สภาพอากาศ พิกัดที่ตั้ง ภูมิประเทศ เพื่อระบุพื้นที่และกลุ่มคนที่เสี่ยงต่อการขาดแคลนอาหารได้แม่นยำมากขึ้น
  • ใช้ AI ช่วยกระจายอาหารเมื่อเกิดภัยพิบัติ โดยใช้วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อระบุพื้นที่ขอความช่วยเหลือเร่งด่วน และช่วยวางแผนกระจายอาหารให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ติดตามแบบเรียลไทม์ ตรวจสอบได้ทันที
  • โครงการ World Food Programme (WFP) คือ หนึ่งตัวอย่างที่มุ่งมั่นนำหุ่นยนต์ AI มาใช้จัดส่งอาหารในพื้นที่ที่เกิดภัยพิบัติและความขัดแย้ง มอบให้แก่ผู้ประสบภัย และขจัดอุปสรรคในการกระจายอาหาร  

4. ข้อมูล ‘ด้านขยะอาหาร’ ท่วมจอ ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้

ขยะอาหารเป็นหนึ่งปัจจัยในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก คิดเป็น 8-10% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก (ข้อมูลจาก unep.org) ซึ่งเมื่อนำ AI มาใช้จะช่วยลดการปล่อยก๊าซที่ส่งผลเสียและลดการสร้างขยะเพิ่มในชีวิตประจำวัน

  • ใช้ AI ช่วยประเมินสถานการณ์การตลาดไว้ล่วงหน้า ตั้งแต่ความต้องการซื้อในกลุ่มเป้าหมายหลักไปจนถึงวิธีการกระตุ้นให้เกิดความต้องการในกลุ่มเป้าหมายที่รองลงมาเพื่อคำนวณสำหรับกระบวนการผลิตและการแข่งขัน
  • ใช้ AI ช่วยลดขยะอาหารในทุกขั้นตอนของห่วงโซ่อาหาร ตั้งแต่ช่วยประเมินปริมาณวัตถุดิบให้แม่นยำขึ้น เลือกวิธีขนส่งและจัดเก็บ ติดตามคุณภาพอาหารก่อนหมดอายุเพื่อบริหารจัดการไปจนถึงจัดการขยะอย่างรู้วิธี
  • Binit สตาร์ทอัพจากฟินแลนด์ เป็นตัวอย่างน่าสนใจจากการคิดวิธีลดขยะในครัวเรือนโดย AI แบบเกม ให้รู้ว่าเราสร้างมากแค่ไหน กี่ประเภท จากการระบุวัตถุไปจนถึงการวิเคราะห์องค์ประกอบ เช่น วัสดุ เทคนิคการผลิต และแบรนด์

ในภาพรวมข้อมูลที่ล้นเกินในยุค AI กำลังทำให้อุตสาหกรรมอาหารเปลี่ยนแปลง ซึ่งเมื่อลองมองกลับมาพิจารณารอบด้าน การมองเห็นในมุมบวกจะนำไปสู่โอกาสที่ได้เปรียบคู่แข่ง ทั้งยังนำไปสู่การจัดการทรัพยากรที่คุ้มค่าและยั่งยืนได้จริง


อ้างอิง : 


0 ความคิดเห็น

Ask OKMD AI