การใช้ Drones นอกเหนือภาคขนส่ง

19 ธันวาคม 2025
|
10 อ่านข่าวนี้
|
1


ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว โดรน (Drones) ไม่ได้จำกัดการใช้งานเพียงในภาคขนส่งหรือการถ่ายภาพทางอากาศเท่านั้น แต่ยังได้รับการนำไปปรับใช้ในหลากหลายสาขา โดยเฉพาะในภาคเกษตรกรรมและงานกู้ภัย ซึ่งเป็นสองสาขาที่โดรนได้แสดงศักยภาพอย่างชัดเจน ช่วยยกระดับประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความแม่นยำของงานอย่างมาก

การใช้โดรนในภาคเกษตรกรรม

    โดรนได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการทำเกษตรยุคใหม่ หรือการเกษตรแม่นยำ (Precision Agriculture) ที่เน้นการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การใช้งานโดรนในภาคเกษตรมีหลายรูปแบบ เช่น การพ่นยาฆ่าแมลงและให้ปุ๋ยทางใบ ซึ่งช่วยลดการใช้แรงงานคนจาก 10-20 คน เหลือเพียง 1-2 คน อีกทั้งช่วยให้การฉีดพ่นมีความแม่นยำ ลดการฟุ้งกระจายของสารเคมี และลดโอกาสการสัมผัสกับสารเคมีของเกษตรกรเอง

    โดรนยังถูกใช้ในการตรวจสอบสุขภาพของพืชและสำรวจสภาพพื้นที่เพาะปลูก โดยติดตั้งกล้องความละเอียดสูงและเซ็นเซอร์วัดสารอาหารในดิน ทำให้เกษตรกรสามารถวางแผนการเก็บเกี่ยว และบริหารจัดการทรัพยากรได้ดีขึ้น นอกจากนี้ การสร้างแผนที่สามมิติ (3D Mapping) ของพื้นที่เกษตรช่วยให้วางแผนการเพาะปลูกและจัดการน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ในประเทศไทย เริ่มมีการนำโดรนเพื่อเกษตรกรรมเข้ามาใช้อย่างแพร่หลาย ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา โดยมีเกษตรกรจำนวนมากได้รับประโยชน์ ลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตอย่างมีนัยสำคัญ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้สนับสนุนการใช้โดรนและจัดฝึกอบรมเจ้าหน้าที่เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีนี้ให้กับเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม การใช้โดรนยังต้องปฏิบัติตามระเบียบของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ที่กำหนดให้ต้องขึ้นทะเบียนโดรนและผู้ควบคุม รวมถึงแจ้งการบินล่วงหน้าอย่างน้อย 12 ชั่วโมง เพื่อความปลอดภัยและการควบคุมการใช้งานอย่างเหมาะสม

การใช้งานโดรนในงานกู้ภัยและดับเพลิง

    อีกหนึ่งบทบาทสำคัญของโดรนที่เติบโตอย่างรวดเร็วคือการนำมาใช้ในภารกิจกู้ภัยและดับเพลิง ที่โดรนช่วยเพิ่มความคล่องตัวและความแม่นยำในการปฏิบัติงาน เนื่องจากโดรนสามารถเข้าถึงพื้นที่ที่มนุษย์เข้าถึงได้ยากหรือเป็นอันตราย เช่น พื้นที่เกิดไฟป่า ภูเขาสูง หรือซากอาคารที่พังทลาย

    โดรนที่ติดตั้งกล้องอินฟราเรดหรือกล้องตรวจจับความร้อนช่วยให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถสำรวจพื้นที่และติดตามการลุกลามของไฟได้อย่างแม่นยำ ทำให้วางแผนการดับเพลิงและควบคุมสถานการณ์ได้ดีขึ้น นอกจากนี้ โดรนยังใช้ในการค้นหาผู้สูญหายในพื้นที่เสี่ยง โดยติดตั้งกล้องความละเอียดสูงและเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ที่ช่วยให้สามารถระบุตำแหน่งและสภาพของผู้ประสบภัยได้อย่างรวดเร็ว ช่วยลดความเสี่ยงต่อชีวิตของเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ต้องเข้าใกล้พื้นที่อันตราย

    การใช้โดรนในงานกู้ภัยยังช่วยลดต้นทุนและเวลาที่ต้องใช้ในภารกิจ โดยทำให้สามารถส่งข้อมูลภาพและข้อมูลสถานการณ์แบบเรียลไทม์ไปยังทีมบังคับบัญชา ช่วยให้การตัดสินใจรวดเร็วและถูกต้องมากขึ้น

โอกาสและความท้าทายในอนาคต

    การประยุกต์ใช้โดรนในภาคเกษตรกรรมและกู้ภัยยังเปิดโอกาสให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่รวมความสามารถของโดรนกับ AI และ IoT เพื่อการเก็บข้อมูล วิเคราะห์ และตัดสินใจแบบอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความแม่นยำและลดข้อผิดพลาด เช่น การวิเคราะห์ภาพเพื่อประเมินความเสียหายของพืช หรือใช้โดรนส่งของในพื้นที่ประสบภัยโดยตรง

    อย่างไรก็ตาม การใช้โดรนยังมีข้อจำกัดและความท้าทาย เช่น ราคาของโดรนที่ยังสูงสำหรับเกษตรกรรายย่อย ระบบการควบคุมและกฎหมายที่ต้องเข้มงวดเพื่อป้องกันการละเมิดความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย รวมถึงทักษะและความรู้ของผู้ใช้งานในการบังคับโดรนเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

บทสรุป

    โดรนได้กลายเป็นเทคโนโลยีที่ขยายบทบาทออกไปไกลกว่าการขนส่งและถ่ายภาพ กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในภาคเกษตรกรรมและงานกู้ภัยที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และเพิ่มความปลอดภัย ทั้งนี้ การพัฒนาและการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากภาครัฐและภาคเอกชนจะเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เทคโนโลยีโดรนเป็นประโยชน์ต่อสังคมและเศรษฐกิจไทยในอนาคตอย่างยั่งยืน




แหล่งอ้างอิง :

                    - เทรนด์เทคโนโลยีโดรนอุตสาหกรรม ปี 2025, DJI13Store, 2025, www.dji13store.com/industrial-drone-technology-trends-in-2025/


                    - พีรพันธ์ รุกโดรนเพื่อการเกษตร ชูวัตกรรมเปลี่ยนโลกเกษตรไทย, กรมส่งเสริมการเกษตร, 2021
, www.doae.go.th

                    - CAAT ผ่อนปรนอนุญาตการบินโดรนเพื่อการเกษตร, สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย, 2025
, www.antifakenewscenter.com

                    #OKMDCREATOR #OKMD #KnowledgePortal #กระตุกต่อมคิด #KnowledgeSharing #Trend&Technology


0 ความคิดเห็น

Ask OKMD AI