จิ๊กซอว์แห่งวัฒนธรรม บนถนนสายแรกของหาดใหญ่
บริเวณริมทางรถไฟได้พัฒนาเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญ รองรับธุรกิจบริการ โรงแรม และการค้าส่งขนาดรองซึ่งเกิดจากการรวมตัวของผู้คนหลากหลายกลุ่มที่เข้ามาค้าขาย จนกระทั่งเกิดพื้นที่พัฒนาเศรษฐกิจแบบผสมผสานที่มี “หลายธุรกิจยึดโยงกันบนถนนสายแรก” สะท้อนให้เห็นถึงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่ผสมผสานบนพื้นที่แผ่นดินนี้ เป็นการเรียนรู้ผ่าน “จิ๊กซอว์แห่งวัฒนธรรม” แหล่งเรียนรู้อันทรงคุณค่าของเมืองหาดใหญ่ แม้จะเปลี่ยนไปตามยุคสมัย แต่ก็ยังคงรักษาและอนุรักษ์ไว้ซึ่งมรดกทางวัฒนธรรม ถ่ายทอดองค์ความรู้แก่คนรุ่นใหม่ต่อยอดสร้างสรรค์ คนรุ่นปัจจุบันสืบสาน
การก่อกำเนิดของหาดใหญ่เริ่มต้นขึ้นพร้อมการมาของทางรถไฟสายใต้ ซึ่งได้สร้างบทบาทและเปิดพื้นที่เชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ ชุมชนที่ตั้งถิ่นฐานอยู่บริเวณนี้จึงกลายเป็นพื้นที่การค้าสำคัญที่มีผู้คนหลากหลายวัฒนธรรมเข้ามามีส่วนร่วม ส่งผลให้เกิดการผสมผสานของผู้คนที่หลากหลายจนกลายเป็นความโดดเด่นและมีเสน่ห์ที่ยากจะหาใครเหมือน ประกอบกับยังเป็นย่านการค้าขายที่สำคัญ ส่งต่อสู่ย่านเศรษฐกิจอื่น ๆ ของหาดใหญ่ในเวลาต่อมา ทำให้บริเวณนี้เป็นแหล่งรวมธุรกิจ แห่งแรก และเป็นต้นกำเนิดของศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมที่สำคัญของภาคใต้
1.ร้านศรีทอง
ตำนานวัสดุถินตัดเย็บเก่าแก่ของเมืองหาดใหญ่ จากครอบครัวชาวจีนสิงคโปร์กวางตุ้ง ด้วยการเปิดร้านค้าขายสินค้าเบ็ดเตล็ด โดยมีสินค้าหลักเป็นผ้าและอุปกรณ์ตัดเย็บที่หาซื้อเสื้อและเหล่าช่างฝีมือเลือกจากหน้าต่อปาก
2.แฟนซี
ร้านขายผ้าหลากสีที่มีเอกลักษณ์จากความคุมผ้าหน้าร้านที่เปลี่ยนทุกปีเป็นการสร้างตัวตนที่ชัดเจนให้กับร้าน ด้วยการขายผ้าแนวแฟชั่นสำหรับตัดเสื้อผ้าและแก้กันตัดยกมาจากถึงความทันสมัย เทรนด์ และความหลากหลายของรูปแบบผ้า
3.เจงง้วน
ตึกเก่าอาหารจีนแต้จิ๋วต้นตำหรับที่เสิร์ฟความอร่อยและความสำเร็จมามากว่า 50 ปี
4.ปาลส์สโตร์
ร้านขายส่งผ้ามานานกว่า 70 ปี สู่ฝ่าแฟชั่นบนถนนสาย 1 ของครอบครัวชาวอินเดียในหาดใหญ่
5.ศาลเจ้าพ่อเสือ
ศาลเจ้าเก่าแก่ที่สร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2495 โดยคณะผู้ศรัทธานำงชี้เข้ามาในกระกะบังปรากาศศาลเจ้าพ่อเสือประเทศจีนที่สร้างเมื่อ 400 ปีก่อน เพื่อเป็นที่พึ่งและยึดเหนี่ยวจิตใจชาวไทยเชื้อสายจีนในเมืองหาดใหญ่
6.มูลนิธิวงศ์วสันตสเคราะห์
คอมมิวนิตี้คนจีนที่เริ่มต้นจากปัญหาด้านเศรษฐกิจและการเมืองในประเทศจีน ทำให้ผู้คนต่างชาติต้องย้ายมาอาศัยยังประเทศไทย เกิดเป็นมูลนิธิช่วยเหลือผู้คนทั่วไปที่ไม่มีที่อยู่ที่อาศัย ได้ฟังพานานเป็นเวลากว่า 100 ปี

