นอกจากการสวมแว่น Virtual Reality (VR) และใช้ Augmented Reality (AR) ผ่านมือถือจะพาเราไปสำรวจสถานที่โลกใบนี้ได้แล้ว ก็ดูเหมือนว่า ‘Digital Twin’ ก็จะสามารถทำได้เช่นกัน
Digital Twin เป็นเทคโนโลยีที่สร้างแบบจำลองดิจิทัลของคน สถานที่ อุปกรณ์หรือกระบวนการทำงาน โดยใช้ข้อมูลแบบเรียลไทม์จากอุปกรณ์หรือกระบวนการนั้นมาสร้างแบบจำลองในพื้นที่เสมือน เพื่อใช้ในการตรวจสอบ คาดการณ์และปรับปรุงการทำงาน
เอกสารเรื่อง ‘Digital Twins’ แบบจำลองเสมือนจริงทางระบบข้อมูลกายภาพ ระบุว่า Digital Twin ถูกกล่าวถึงครั้งแรกในปี 1991 ในหนังสือ Mirror Worlds โดย David Gelernter และนำมาใช้จริงครั้งแรกในกระบวนการผลิตโดย Michael Grieves ในปี 2002 และยังถูกนำมาใช้งานของ NASA ในปี 2010 เพื่อปรับปรุงแบบจำลองยานอวกาศด้วย
แต่จริงๆ แล้ว Digital Twin เป็นตัวช่วยสำคัญที่มีประโยชน์ต่อการพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์, IoT (Internet of Things), Machine Learning รวมถึงภาค ‘การท่องเที่ยว’
เมื่อ ‘Digital Twin’ อยู่ในบริบทของการท่องเที่ยวจะจำลองภาพ ข้อมูล และพฤติกรรมในโลกความเป็นจริง อาจเป็นการวิเคราะห์จำนวนผู้ชม การใช้ทรัพยากร และสามารถดูข้อมูลได้แบบเรียลไทม์
การเลือก Digital Twin มาเป็นตัวช่วยที่ซ่อนอยู่จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจะทำให้สามารถคาดการณ์และลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ ทำให้มั่นใจได้ว่านักท่องเที่ยวทุกคนจะได้รับประสบการณ์ที่ราบรื่นและสนุกสนาน
ขณะเดียวกัน หากนำเทคโนโลยีนี้มาออกแบบร่วมกับเทคโนโลยี 3 มิติ จะช่วยจำลองและวิเคราะห์สถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นจริงที่จะนำมาสู่การปรับปรุงประสบการณ์ท่องเที่ยวให้ดีขึ้น เช่น แนะนำการเดินทางและให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจ
หลายๆ ประเทศก็เริ่มนำเทคโนโลยีไปใช้งานจริงแล้ว ยกตัวอย่างเช่น เจดีย์ไม้สูงที่สุดในโลกที่มณฑลซานซี (Yingxian Wooden Pagoda) ประเทศจีน ที่นำเทคโนโลยี Digital Twin มาใช้งาน 5 วันก่อนวันหยุดยาวของจีนเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีให้มาเยี่ยมชมเขตหยิงเซียนและกระตุ้นให้การท่องเที่ยวเติบโตต่อไป
โดยผ่านการรวบรวมข้อมูลจากกล้องและโดรน ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูล และทดลองด้วยการสร้างกระบวนการเรียนรู้เชิงลึกและ Neural Networks หรือการให้ AI สอนคอมพิวเตอร์ประมวลข้อมูลจากแหล่งอ้างอิงที่ป้อนเข้าไปเพื่อให้เข้าใจข้อมูลสามมิติ
อีกทั้งยังเป็นโปรเจกต์ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Lenovo เซี่ยงไฮ้, รัฐบาลท้องถิ่นซานซี และคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยชิงหัว และมีการเรนเดอร์แบบจำลองด้วยมือเป็นขนาด 4.2 กิกะไบต์ก่อนจะเปิดตัว
ถือเป็นประสบการณ์ที่มีการโต้ตอบกัน (interactive) ที่ตอบสนองความอยากรู้ของประชาชนทั่วไป และยังช่วยรักษามรดกทางวัฒนธรรมได้อย่างมีประสิทธิผลในขณะที่จัดแสดงอย่างเหมาะสม” เหมา ซื่อเจี๋ย รองประธานบริษัท Lenovo และหัวหน้าฝ่ายวิจัย Lenovo เซี่ยงไฮ้บอก
ส่วนประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ. 2565 ศูนย์สารสนเทศศาสตร์บริการและท่องเที่ยวอัจฉริยะอันดามัน วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต จัดทำโครงการดิจิทัลทวินเพื่อการท่องเที่ยวฝั่งอันดามัน (Digital Twin For Andaman Tourism) เพื่อจัดการทรัพยากรให้เกิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน แต่ว่าก็ยังคงอยู่ในขั้นตอนการศึกษาต่อไป
แต่ก็ดูเป็นสัญญาณที่ดี เพราะแผนดำเนินงานการท่องเที่ยวของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ปีงบประมาณ 2567 หนึ่งในสี่เสาหลักขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยนั้น มีเรื่องการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพปรากฏอยู่
ทว่าจะมีการใช้งานมากแค่ไหน และเกิดได้จริงมากหรือไม่ ก็คงต้องรอติดตามตอนต่อไป
แหล่งอ้างอิง :
- Yuxing Zhang. (2023). Digital Twin System for Tourist Attractions Based on 3D GIS Technology. Hill Publishing. Advances in Computer and Communications. 324-327. 4(5)
- ทศพล กลิ่นสุคนธ์. (2022).‘Digital Twins’ แบบจำลองเสมือนจริงทางระบบข้อมูลกายภาพ. ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ
- ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์. (2567). Tourism Empower Thailand ยกระดับประเทศด้วยการท่องเที่ยว. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
- www.globaltimes.cn/page/202404/1311364.shtml
- https://urbim.io/from-digital-twin-to-a-smart-tourist-destination/
- https://mgronline.com/south/detail/9650000087254
- www.youtube.com/watch?app=desktop&v=tWZLbmqB-JA
URL อ้างอิง: