การพัฒนาการเรียนรู้

NANO LEARNING เรียนรู้เรื่องยากให้เข้าใจง่าย

21 มีนาคม 2025
|
114 อ่านข่าวนี้
|
0

NANO LEARNING เรียนรู้เรื่องยากให้เข้าใจง่าย

    เพราะความสนใจของเด็กยุคใหม่สั้นลงและมีสิ่งดึงดูดใจรอบตัว Nano Learning จึงออกแบบการเรียนให้สั้นลงในแต่ละครั้งเพื่อดึงดูดความสนใจและมีสมาธิในการเรียนในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ทั้งตรงประเด็น สนุก และเข้าใจง่าย เพื่อสร้างทักษะการเรียนรู้ที่ดีและได้ประโยชน์จากการเรียนมากที่สุด

Nano Learning คืออะไร

    Nano Learning คือ การให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ในระยะเวลาสั้นๆ ผ่านเครื่องมือการเรียนรู้ที่ออกแบบให้เหมาะกับเนื้อหา เพื่อให้เข้าใจบทเรียนได้ง่ายและได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการนั่งเรียนนานๆ อย่างการแบ่งบทเรียนหลักออกเป็นบทเรียนย่อยๆ ใช้เวลาเรียนต่อบทน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ สามารถใช้สื่อมัลติมีเดีย อาทิ วิดีโอ เสียง ภาพ ข้อความ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจ มักใช้เทคโนโลยีเป็นตัวช่วยในการส่งมอบเนื้อหาอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

หัวใจสำคัญของ Nano Learning

    1. ใช้ได้ทั้งบทเรียนเดี่ยว (Stand - Alone Lesson) และบทเรียนย่อย (Chapters) ภายในบทเรียนหลัก โดยขึ้นอยู่กับเป้าหมายของผู้สอน

    2. ใช้เวลาให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ อาจสั้นได้เพียงไม่กี่วินาที แต่เนื้อหาครบถ้วนและตรงประเด็น

    3. นำเสนออย่างสร้างสรรค์ ใช้สื่อและช่องทางที่หลากหลาย ทั้งภาพ วิดีโอ กิจกรรมต่างๆ

ขั้นตอนการใช้ Nano Learning

    1. กำหนดเป้าหมายและออกแบบหลักสูตรที่ซับซ้อนในรูปแบบโมดูลย่อย

    2. สร้างการเรียนรู้ที่ผสมผสานการเรียนออนไลน์และออฟไลน์แบบเดิม เสริมด้วย Nano Learning

    3. เลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสม ใช้งานง่าย ปลอดภัย ดึงดูดความสนใจ มีระบบติดตามความก้าวหน้า

    4. ผู้สอนต้องผ่านการเรียนรู้หลักการของ Nano Learning และการใช้เทคโนโลยีเพื่อการสอน

    5. ผู้ปกครองควรสนับสนุนและให้คำแนะนำการเรียนรู้แบบ Nano Learning

    6. สร้างตารางเรียน Nano Learning ที่สม่ำเสมอ แต่ไม่แน่นหนักจนสมองล้า

เทคนิคปรับใช้ Nano Learning อย่างมีประสิทธิภาพ

  • เข้าใจความต้องการของผู้เรียน เช่น เด็กไม่ชอบเนื้อหายาก ยาว สนุกกับกิจกรรม
  • กำหนดเป้าหมายการเรียนรู้ให้ชัดเจนว่าผู้เรียนควรได้รับความรู้หรือทักษะอะไรจากบทเรียน
  • เลือกเครื่องมือการสอนให้เหมาะสม เช่น ภาพ วิดีโอ แบบฝึกหัด คำถามเชิงโต้ตอบ แอปพลิเคชัน ฯลฯ
  • ทำให้สั้น กระชับ ควรใช้เวลาไม่เกิน 5 นาทีต่อบทเรียน และเชื่อมโยงเนื้อหาเป็นซีรีส์

ตัวอย่างการใช้ Nano Learning ที่ได้รับความนิยม

  • ใช้วิดีโอสั้น 13 - 30 วินาที พร้อมภาพเคลื่อนไหวประกอบการเรียน
  • Infographic สร้างความเข้าใจในบทเรียน
  • ส่งข้อความ SMS หรืออีเมลสั้นๆ ให้ผู้เรียนระหว่างหลักสูตรหรือโปรแกรมการฝึกอบรม

ข้อดีของ Nano Learning

  • ผู้สอนมุ่งเน้นประเด็นสำคัญ ถ่ายทอดเนื้อหากระชับ ตรงจุด เข้าใจง่าย
  • แบ่งเนื้อหาเป็นบทเรียนย่อยช่วยให้ผู้เรียนค่อยๆ ซึมซับความรู้ จดจำได้ดี ไต่ระดับความยากได้อย่างเป็นระบบ เรียนรู้ต่อเนื่องโดยไม่รู้สึกหนักเกินไป
  • ลดความเหนื่อยล้าจากการเรียนรู้ที่ใช้เวลานานเกินไปในรูปแบบเดิมๆ จดจำได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • เพิ่มความสนุก ความน่าสนใจ เพราะบทเรียนสั้น ฉับไว ใช้เวลาน้อย แต่กระตุ้นการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
  • เข้าถึงได้ง่าย ใช้ได้ทั้งเรียนในห้องเรียนและเรียนออนไลน์ ใช้เป็นสื่อเสริมที่เรียนได้ทุกที่ทุกเวลา
  • เพิ่มจำนวนผู้เรียนและอัตราการเรียนจบ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุคใหม่ที่ต้องการใช้เวลาอย่างคุ้มค่า

Nano Learning เป็นหนึ่งในแนวทางการศึกษาที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยมูลค่าตลาดซอฟต์แวร์ Nano Learning ทั่วโลกอยู่ที่ 0.96 พันล้านดอลลาร์ในปี 2022 และคาดว่าจะเติบโตขึ้น 13.6% ภายในปี 2030

ข้อควรระวังของ Nano Learning

  • Nano Learning เป็นเครื่องมือเสริมการเรียนรู้ ไม่ใช่ทดแทนการเรียนแบบเดิม
  • การเรียน Nano Learning ให้ได้ผลดีผู้เรียนต้องมีวินัยและความรับผิดชอบ
  • ผู้สอนต้องตรวจสอบและใช้เนื้อหาที่มีคุณภาพและน่าเชื่อถือ
  • ไม่ควรเน้นการเรียนคนเดียว ควรเน้นทำกิจกรรมกลุ่มร่วมด้วย
  • ระวังการใช้หน้าจอเยอะเกินไปจนเสียสุขภาพ

อนาคตของ Nano Learning

    Nano Learning กำลังเข้ามามีบทบาทอย่างมาก เพราะช่วยให้การเรียนรู้ในเรื่องที่ซับซ้อนกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้น ทำให้ผู้เรียนเข้าใจเนื้อหายากๆ ได้ดีกว่าเดิม และทำให้ผู้เรียนรู้สึกก้าวหน้าในการเรียนจากการที่ผู้สอนแทรกบททดสอบสั้นๆ เพื่อวัดผลผู้เรียนได้ตลอดการเรียน ยิ่งไปกว่านั้นการการปรับเทคนิคการเรียนให้เข้ากับสไตล์การเรียนของแต่ละคน ผู้ที่พิการทางสายตาหรือการฟังสามารถเรียนในรูปแบบที่ยืดหยุ่นและเหมาะสมได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามการใช้ Nano Learning อย่างมีประสิทธิภาพต้องมาพร้อมกับการวางแผนที่ดี ความเข้าใจของครู ความตั้งใจของผู้เรียน และการสนับสนุนจากผู้ปกครองไปพร้อมกัน เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้เป็นนักเรียนรู้ตลอดชีวิต และปรับตัวได้ในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว



ข้อมูลอ้างอิง :

     - uteach.io/articles/nano-learning

    - www.digitallearninginstitute.com/blog/what-is-nano-learning

    - www.ryangroup.org/blog/exploring-nano-learning-its-implications-and-implementation-in-education/

    - www.starfishlabz.com/blog/1196-เจาะลึกการศึกษาไทยในอนาคต-ทำความรู้จัก-nano-learning-เทรนด์การศึกษายุคใหม่ของศตวรรษ

    - www.thaiedresearch.org/NewsBanner/detail/51

    - www.th-hellomagazine.com/education/nanolearning-education-trend-for-digital-age/





0 ความคิดเห็น

Ask OKMD AI