สำรวจความเชื่อเรื่องปีใหม่ ฮีลใจ 365 วัน
ความเชื่อเป็นเรื่องไม่เข้าใครออกใคร
บางคนอาจมองเป็นเรื่องงมงาย
แต่หลายคนก็มองว่าเป็นวัฒนธรรมที่มีเหตุผลตามกรอบศรัทธา และมีอยู่ในทุกๆ สังคมโลก
ดังนั้น ในช่วงใกล้ปีใหม่นี้ จึงอยากชวนทุกคนมาสำรวจความเชื่อเรื่องปีใหม่ที่น่าสนใจในประเทศต่างๆ
กัน
-
ความเชื่อเรื่องอาหารการกิน เพื่อความโชคดีมีสุข และมั่งคั่งร่ำรวย
เป็นความเชื่อที่มีทั้งในแถบเอเชีย ยุโรป และอเมริกา อาทิเช่น ชาวจีนนิยมกินปลากับไก่ทั้งตัวในวันปีใหม่ เพราะคาว่า ปลา ออกเสียงพ้องกับคำว่า เหลือเฟือ ในภาษาจีน และกินไก่ทั้งตัวโดยไม่ตัดส่วนใดส่วนหนึ่งออก ตามความเชื่อที่ว่าจะทำให้ชีวิตครบสมบูรณ์และมั่งคั่ง, ชาวเกาหลีจะกินต๊อกกุกหรือซุปแป้งข้าวเหนียว เพราะมีความหมายว่า อายุยืนยาวมากขึ้นอีกหนึ่งปี, ชาวญี่ปุ่นจะมีประเพณีกินโซบะ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการมีอายุยืนยาว เนื่องจากโซบะมีลักษณะเป็นเส้นยาว เปรียบเสมือนช่วงเวลายาวนานของชีวิต, ชาวฟิลิปปินส์จะเลือกกินผลไม้ทรงกลมในคืนข้ามปี อย่างแอปเปิ้ล ส้ม หรือลูกพีช เพราะเชื่อว่าจะนำพาความอุดมสมบูรณ์มาให้ อีกทั้งทรงกลมเป็นสัญลักษณ์ของความดีงาม
ชาวสเปนนิยมกินองุ่น 12 ผล ไปพร้อมๆ กับเสียงนาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืนในวันสิ้นปี เพื่อต้อนรับความโชคดีตลอด 12 เดือนข้างหน้า, ชาวดัตช์หรือเนเธอร์แลนด์จะเชื่อเรื่องการกินโดนัท ซึ่งมีลักษณะกลมแบบวงแหวน เพราะจะทำให้โชคดีและมีชีวิตสมบูรณ์เหมือนกับรูปร่างโดนัท, ชาวสวีเดนและนอร์เวย์จะกินพุดดิ้งข้าว (คล้ายข้าวเหนียวเปียกของไทย) ที่มีอัลมอนด์ซ่อนอยู่ ถ้าใครกินแล้วเจออัลมอนด์ก็จะโชคดีตลอดปี, ชาวอิตาลีจะกินถั่วเลนทิลในวันแรกของปี เนื่องจากถั่วชนิดนี้มีรูปร่างคล้ายเหรียญเงิน เครื่องหมายแห่งความมั่งคั่งร่ำรวย ขณะที่ชาวบราซิลจะทำซุปถั่วแขกกินกัน เพราะแสดงถึงความมั่งคั่งร่ำรวยเช่นเดียวกัน และชาวอเมริกันจะกินถั่วตาดา (Black Eye Pea) เนื่องจากเชื่อว่าจะทำให้ร่ารวยและโชคดีด้วย
-
ความเชื่อเกี่ยวกับเครื่องแต่งกาย เพื่อชีวิตรุ่งเรือง มีโชคลาภ ความสุข และความรักที่ดี
เป็นความเชื่อที่พบไม่น้อยในหลายประเทศ ยกตัวอย่าง ชาวบราซิลจะสวมเสื้อผ้าสีขาวในช่วงปีใหม่ เพราะเชื่อว่าสีขาวจะดึงดูดความโชคดีและความสงบสุขมาสู่ชีวิต นอกจากนั้นพวกเขายังนิยมไปเคาต์ดาวน์กันริมชายหาด ด้วยการใส่ชุดสีขาวก้าวสู่ทะเลเบื้องหน้า แล้วกระโดดข้ามคลื่น 7 ลูก ไปพร้อมๆ กับการขอพร 7 อย่าง โดยคลื่นแต่ละลูกจะเป็นตัวแทนความปรารถนาทั้งหลาย และการกระโดดข้ามคลื่นคือการก้าวผ่านอุปสรรคไปสู่ความสมปรารถนาเหล่านั้นนั่นเอง หรือประเทศในแถบละตินอเมริกา ก็จะมีความเชื่อในการใส่ชุดชั้นในสีต่างๆ เช่น สีเหลืองเพื่อดึงดูดโชคลาภและเงินทอง สีแดงเพื่อให้ประสบความสำเร็จในความรัก สีเขียวเพื่อความเจริญรุ่งเรือง และสีขาวเพื่อเสริมดวงให้ร่มเย็นเป็นสุข
-
ความเชื่อเรื่องห้องหับและบ้านเรือน เพื่อเปิดรับสิ่งที่ดี และขจัดสิ่งเลวร้ายออกไป
เป็นความเชื่อที่มีอยู่ในเกือบทุกประเทศ
เช่น ชาวจีนและชาวญี่ปุ่นจะทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่ในช่วงก่อนปีใหม่
ด้วยเชื่อว่าเป็นการปัดเป่าสิ่งอัปมงคลออกไป แล้วต้อนรับสิ่งที่ดีๆ เข้ามา
พร้อมเปิดทางให้เงินทองไหลมาเทมาด้วย, ชาวอังกฤษจะพร้อมใจกันทำความสะอาดปล่องไฟในบ้าน
เพื่อเตรียมรับโชคลาภปีใหม่ที่จะมาถึง
เพราะเชื่อว่าโชคลาภจะเข้ามาทางปล่องไฟและคงอยู่ที่นั่นตลอดทั้งปี
หรือชาวยุโรปบางประเทศจะเปิดประตูหน้าต่างบ้านทุกบานในวันปีใหม่
เพื่อขับไล่สิ่งไม่ดีในปีเก่าออกไป
และเปิดรับพลังงานบวกที่เทพแห่งสายลมจะพัดพาเข้ามา รวมทั้งเงินทองและโชคลาภต่างๆ
ส่วนชาวเปอร์โตริโกเชื่อว่า ถ้าตั้งถังน้ำไว้นอกหน้าต่างบ้าน หรือเทน้ำหนึ่งถังออกนอกหน้าต่างบ้านในคืนวันสิ้นปี
ก็จะช่วยขับไล่ภูตผีปีศาจและวิญญาณร้ายออกไปเช่นกัน แล้วทำให้คนในบ้านไม่เจ็บป่วยหรือพ้นเคราะห์พ้นโศก
และสำหรับชาวโคลอมเบียเชื่อว่า หากถือกระเป๋าเดินทางที่ว่างเปล่าวิ่งไปรอบๆ บ้าน
ก็จะทำให้ปีใหม่เต็มไปด้วยเดินทางหรือการผจญภัยที่เฝ้ารอคอย
นอกจากนั้น
ก็ยังมีความเชื่อแปลกๆ ที่ปฏิบัติกันในวันปีใหม่ในอีกหลายประเทศ อย่างเช่น
เอกวาดอร์จะมีการจุดไฟเผาหุ่นไล่กา เพราะเชื่อว่าเป็นการปัดเป่าโชคร้ายและสิ่งไม่ดีในปีเก่าออกไป
ตอนเที่ยงคืนของวันที่ 31 ธันวาคม, เดนมาร์กจะมีการเขวี้ยงจานชามที่ไม่ได้ใช้ตลอดทั้งปีและถูกเก็บไว้
ใส่ประตูหน้าบ้านคนในครอบครัวหรือเพื่อนที่สนิท เพื่อแสดงออกถึงความรัก
และหน้าบ้านไหนมีเศษจานชามแตกมากชิ้นเท่าไหร่ ก็เชื่อว่าจะนำพามิตรภาพมาสู่บ้านนั้นมากขึ้นเท่านั้น
หรือรัสเซียจะมีการเขียนคำอธิษฐานของตัวเองลงบนกระดาษ แล้วนากระดาษไปเผาไฟ
เพื่อเอาเถ้าที่ได้ใส่ในแก้วแชมเปญ แล้วดื่มเข้าไป เพราะเชื่อว่าจะทำให้คำอธิษฐานกลายเป็นจริง
ส่วนชาวเม็กซิกันจะใส่แหวนลงในแก้วแชมเปญ ก่อนชนแล้วพูดดังๆ ว่า Salud เนื่องจากเชื่อว่าจะทาให้ชีวิตมีความรุ่งเรือง
สำหรับชาวไทยก็มีความเชื่อในเรื่องปีใหม่เฉพาะของตนเองไม่น้อยหน้าชาวต่างชาติเช่นกัน
ดังนี้
1. ห้ามทำความสะอาดบ้านในวันปีใหม่
เพราะคนโบราณเชื่อว่า การปัดกวาดเช็ดถูเป็นการขับไล่สิ่งดีๆ ออกจากบ้าน
ดังนั้นการทำความสะอาดบ้านต้องทำให้เสร็จสิ้นก่อนวันปีใหม่
2. ห้ามสระผมในวันสิ้นปีและวันแรกของปี
เนื่องจากการสระผมเสมือนการชำระล้างความโชคดีออกไปจากร่างกาย จึงควรยกเว้นการสระ
เพื่อความเป็นสิริมงคล
3. ห้ามทำของตกแตกในวันต้นปี
เพราะจะเป็นลางร้าย ทาให้โชคไม่ดีไปตลอดทั้งปี
4. หลีกเลี่ยงการใช้ของมีคม
เช่น การตัดเล็บ ตัดผม เนื่องจากเชื่อว่าเป็นการตัดสิ่งที่ดีที่จะเข้าในชีวิตออกไป
5. เลื่อนการจัดงานไม่เป็นมงคล
ไม่ว่าจะเป็น งานศพหรืองานฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เพราะจะเป็นการเริ่มต้นปีที่ไม่ดี จะนำพาความโศกเศร้ามาให้
6. พูดจาไพเราะ โดยเชื่อว่าการเริ่มต้นปีด้วยคำพูดไพเราะ
จะทำให้เจอแต่สิ่งดีๆ
และหลีกเลี่ยงการพูดถึงสิ่งที่เกี่ยวกับความตายหรือความเจ็บป่วย
7. กินขนมมงคล ได้แก่ ทองหยิบ ทองหยอด และฝอยทอง เพราะเชื่อว่าถ้าได้กินแล้ว จะทาให้มีโชคลาภและเงินทองใช้สอยทั้งปี
จริงอยู่
แม้ความเชื่อเรื่องปีใหม่อาจเป็นสิ่งที่พิสูจน์แน่ชัดไม่ได้
แต่เมื่อเชื่อและปฏิบัติแล้ว ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร และยังทำให้รู้สึกฮีลใจ
ไร้ความกังวล ก็เชื่อตามกรอบแห่งศรัทธาไปเถิด
เพราะความเชื่อ ถือเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมของมนุษยชาติทีเดียว...
*** ข้อมูลอ้างอิง : www.hotcourses.in.th, www.fyibangkok.com

