นาฏศิลป์กับ AI

17 มีนาคม 2025
|
2359 อ่านข่าวนี้
|
226


นาฏศิลป์กับปัญญาประดิษฐ์ อดีตกับอนาคตที่บรรจบกันตรงกลาง นาฏศิลป์ไทยเกิดขึ้นในสมัยอยุธยา มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 300 ปี แรกเริ่มมีจุดประสงค์ในการร่ายรำเพื่อสื่อสารระหว่างมนุษย์กับเทพเจ้า ตอบสนองความเชื่อเรื่องสมมติเทพ ปัจจุบันในโลกที่เทคโนโลยีได้แฝงตัวอยู่ในทุกอนูของสังคม ความเชื่อถูกแทนที่ด้วยหลักวิทยาศาสตร์แห่งความเป็นจริง นาฏศิลป์ไทยจะดำรงอยู่ในโลกนี้ได้อย่างไร

ครูพิเชษฐ กลั่นชื่น อายุ 53 ปี เจ้าของรางวัลศิลปาธร สาขาศิลปะการแสดง ปี พ.ศ.2549 เส้นทางของครูพิเชษฐเริ่มจากการเป็นนักเรียนสายวิทย์-คณิต ที่เข้าไปศึกษาโขนแบบดั้งเดิมกับครูไชยยศ คุ้มมณี ครูโขนอาวุโสของกรมศิลปากร จากนั้นจึงศึกษาต่อคณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย การศึกษาทั้งสองรูปแบบหล่อหลอมให้เกิดเป็นครูพิเชษฐ ศิลปินผู้อยู่ตรงกลางระหว่างอดีตและอนาคต

ครูพิเชษฐใช้ความรู้นาฏศิลป์แบบดั้งเดิมผสานกับความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่เป็นปัจจุบัน ศึกษาหลักการของนาฏศิลป์ เพื่อให้ตอบโจทย์กับสังคมปัจจุบัน กว่า 15 ปีที่พยายามสกัด DNA ของนาฏศิลป์ไทย ในที่สุดก็ได้ออกมาเป็นองค์ประกอบทั้ง 6 ดังนี้

  1.  วงกลมและเส้นโค้ง (Circles & Curves)
    คือ การพิจารณาเส้นทางเดินของอวัยวะ เช่น แขนหรือขา
  2. พลังงาน (Energy) 
    คือ พลังงานในร่างกายที่ทำให้เกิดจังหวะในการเต้น 
  3. จุดภายในและภายนอกร่างกาย (Axis Points)
    คือ จุดแกนหมุนของร่างกาย
  4. พื้นที่ว่างโครงสร้างท่า (External Body Spaces)
    คือ พื้นที่รอบตัวของนักเต้น
  5. ความสัมพันธ์ของร่างกาย (Synchronous Limbs)
    คือ การสอดประสานการเคลื่อนไหวอวัยวะต่างๆ 
  6. การเคลื่อนย้ายความสัมพันธ์ (Shifting Relations)
    คือ การเปลี่ยนท่าเต้นที่สัมพันธ์กับความสนใจของผู้ชม

องค์ประกอบทั้ง 6 ได้ถูกพัฒนาร่วมกับเทคโนโลยี เกิดเป็น Cyber Subin Project เว็บไซต์ที่เชื่อมโยงอดีตและอนาคตเข้าไว้ด้วยกันผ่านตัวกลางคือ AI เทคโนโลยีสมัยใหม่ที่สามารถร่ายรำนาฏศิลป์ไทยได้ การนำเทคโนโลยีมาประกอบรวมเข้ากับนาฏศิลป์ทำให้ทุกคนสามารถเข้ามาเรียนรู้ แก้ไข และพัฒนาท่ารำในแบบฉบับของตัวเองได้อย่างอิสระ โดย AI จะเปลี่ยนแปลงท่ารำจากการป้อนคำสั่งโดยผู้ใช้งาน ตามหลักองค์ประกอบทั้ง 6 

ติดตามคลิป “นาฏศิลป์ AI” ได้ที่


0 ความคิดเห็น

Ask OKMD AI