เมื่อความรู้กลายเป็นเสียงรบกวน : ภาวะข้อมูลล้นคือมลพิษใหม่ของยุคดิจิทัล
ในยุคที่เราตื่นมาเจอกับการแจ้งเตือนในมือถือมากกว่าคำทักทายจากคนข้างๆ โลกของข้อมูลกำลังท่วมเราทุกวัน ทั้งอีเมล ข่าวสาร โพสต์จากโซเชียลมีเดีย และคลิปไวรัลที่อัลกอริทึมคัดสรรมาอย่างดีให้เสพไม่รู้จบ มันอาจดูเหมือนเป็นเรื่องดีแต่ถ้ามากเกินไป สิ่งที่เคยเป็น ‘ความรู้’ อาจกลายเป็น ‘เสียงรบกวน’ ที่ทำให้เราเหนื่อยล้าโดยไม่รู้ตัว
‘ภาวะข้อมูลล้น’ คืออะไร และทำไมเราควรใส่ใจ
ภาวะข้อมูลล้น (Information Overload) คือ อาการที่เกิดขึ้นเมื่อเราต้องรับข้อมูลจำนวนมากเกินกว่าที่สมองจะประมวลผลได้ทัน ส่งผลให้เกิดความเครียด ความลังเล และการตัดสินใจที่ผิดพลาด
แม้แนวคิดนี้จะมีมานาน (ย้อนกลับไปถึงปี 1964) แต่ในยุคของอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และสมาร์ตโฟนที่ออนไลน์ตลอดเวลา ปัญหานี้กลับยิ่งชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะในยุคนี้ที่คนจำนวนมากใช้ Generative AI ในการสร้างข้อมูลขึ้นมาจำนวนมาก งานวิจัยหลายชิ้นชี้ว่า การเผชิญหน้ากับข้อมูลมากเกินไปเป็นเวลานาน อาจส่งผลต่อสมาธิ ความจำ และสุขภาพจิตโดยรวม
ผลกระทบไม่ได้หยุดแค่ปัจเจก
ในระดับบุคคล ภาวะข้อมูลล้นทำให้เราตัดสินใจได้ยากขึ้น ขาดความมั่นใจ และรู้สึกเหนื่อยหน่ายกับงานที่ทำอยู่ ยิ่งต้องทำงานในโลกที่เปลี่ยนเร็ว ทุกอย่างด่วน ข้อมูลก็ไหลเข้ามาเร็วไม่แพ้กัน เราจึงเสี่ยงต่อความเครียดโดยไม่รู้ตัว
แต่เรื่องนี้ไม่ได้จบแค่ตัวบุคคล เพราะในภาพใหญ่ ปัญหานี้กำลังสร้างผลกระทบระดับโครงสร้าง ทั้งต่อองค์กร ทีมงาน ไปจนถึงระบบเศรษฐกิจ มีการประเมินว่าภาวะข้อมูลล้นอาจทำให้เศรษฐกิจโลกสูญเสียมูลค่าราว 1 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี เพราะพนักงานต้องเสียเวลาไปกับการกลั่นกรองข้อมูลที่ไม่จำเป็น หรือรับมือกับการตัดสินใจที่ผิดพลาดจากความสับสน
ข้อมูลมากไม่ใช่เรื่องเล็ก มันคือมลพิษ
นักวิชาการบางคนถึงขั้นเสนอให้เรามอง ‘ข้อมูลล้น’ ว่าเป็นมลพิษรูปแบบหนึ่ง เหมือนกับที่การปฏิวัติอุตสาหกรรมสร้างมลพิษทางอากาศ การปฏิวัติดิจิทัลก็สร้าง ‘มลพิษทางข้อมูล’ เช่นกัน
ลองนึกภาพหมอกควันที่เราสูดเข้าไปทุกวัน ข้อมูลที่ไม่จำเป็นก็คล้ายกัน มันแทรกซึมอยู่ในทุกแพลตฟอร์ม และหากปล่อยไว้นานๆ โดยไม่จัดการ อาจบั่นทอนคุณภาพชีวิตโดยรวมได้ไม่แพ้กัน
ถึงเวลาต้องจัดระเบียบข้อมูลเหมือนจัดบ้าน
ทางออกของปัญหานี้อาจไม่ใช่แค่การปิดแจ้งเตือน แต่ต้องคิดใหม่ทั้งระบบ ตั้งแต่การออกแบบแพลตฟอร์มที่รับผิดชอบต่อผู้ใช้มากขึ้น การสร้างทักษะด้าน ‘สุขภาวะข้อมูล’ (Information Hygiene) ไปจนถึงนโยบายภาครัฐที่จัดการกับข้อมูลที่เป็นพิษ
ศาสตราจารย์โบเลสวาฟ ซิมันสกี้ จากสถาบัน Rensselaer Polytechnic Institute เสนอว่า เราควรลงทุนในงานวิจัยข้ามศาสตร์ และบรรจุเรื่องนิเวศข้อมูลเข้าไปในระบบการศึกษา เพื่อให้คนรุ่นใหม่รับมือกับโลกที่ข้อมูลท่วมท้นได้อย่างเข้าใจ ไม่ใช่แค่พยายาม ‘ไถผ่าน’ ไปวันๆ
ข้อมูลดี แต่ต้องมีกรอบ
เราไม่ได้อยู่ในยุคที่ขาดแคลนข้อมูลอีกต่อไป ตรงกันข้ามเราอาจกำลังจมอยู่ในทะเลของข้อมูลอยู่ด้วยซ้ำ และถ้าเราไม่มีกลไกคัดกรองหรือรับมือ มันก็อาจกลายเป็นมลพิษที่มองไม่เห็น แต่ทำลายสุขภาพชีวิตเราในระยะยาว
การยอมรับว่าภาวะข้อมูลล้นคือปัญหาเชิงระบบ และต้องการการจัดการอย่างจริงจัง อาจเป็นก้าวสำคัญในการทำให้โลกดิจิทัลน่าอยู่ขึ้นสำหรับทุกคน
อ้างอิง

