เวลาพูดถึงระยอง คนส่วนใหญ่มักนึกถึงเกาะเสม็ด หาดทรายแก้ว สวนสน หรือไม่ก็วัดวาอารามเก่าแก่สมัยอยุธยาตอนปลายและสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์สมัยพระเจ้าตากสินเดินทัพผ่านมาประทับช่วงสั้นๆ
แต่ความจริงแล้วจังหวัดนี้มีแหล่งท่องเที่ยวสวยงามล้ำค่าอยู่อีกมากมาย นั่นคือสวนพฤกษศาสตร์ระยอง ซึ่งเป็นมหัศจรรย์อันซีนแห่งภาคตะวันออกที่ควรค่าแก่การเดินทางไปสัมผัสอย่างยิ่ง
นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นสาขาของสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
จังหวัดเชียงใหม่ด้วย โดยองค์การสวนพฤกษศาสตร์ได้เข้าไปสำรวจและพัฒนาที่บริเวณบึงสำนักงานใหญ่
หรือหนองจรุง ในเขตบ้านพลงไสว ตำบลซากพง อำเภอแกลง เพื่อจัดตั้งเป็นศูนย์รวมพรรณไม้ภาคตะวันออก
เมื่อปี พ.ศ.2545 แล้วต่อมาก็ได้เปลี่ยนเป็นสวนพฤกษศาสตร์ระยอง
หนึ่งในเส้นทางแห่งความสุขตามรอยพระราชดำริ พระพันปีหลวงฯ ที่มีความอันซีนที่สุดในภาคตะวันออก
โดยการขับรถจากกรุงเทพฯ
เพียง 2 ชั่วโมงกว่าๆ หรือหากเดินทางจากจังหวัดอื่นๆ สมัยนี้ก็ใช้เวลาไม่นาน ก็สามารถมาดื่มด่ำสัมผัสกับความอันซีนแสนตระการตาของสวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้ได้แล้ว
ว่าแต่ความมหัศจรรย์อันซีนของสวน
แค่ฟังจากไกด์บอกเล่าก่อนล่องเรือไปสัมผัส ก็เชื่อแล้วว่าจริงแท้ เนื่องจากเป็นสวนพฤกษศาสตร์ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ชุ่มน้ำกว้างใหญ่กว่า
3,800 ไร่ ลักษณะคล้ายแอ่งกระทะหรือบึงรองรับน้ำจืด ที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติอย่างมาก
และยังเต็มไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ ทั้งสัตว์น้ำ ไม้น้ำ พืชพรรณท้องถิ่นหายากหลายชนิด
โดยบางชนิดก็ใกล้จะสูญพันธ์แล้ว ทำให้เหมาะกับการเที่ยวอย่างเพลินใจ และได้เรียนรู้ถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ธรรมชาติบนพื้นที่ชุ่มน้ำไปด้วย
พื้นที่ชุ่มน้ำสำคัญอย่างไร อันดับแรกเลยก็คือช่วยป้องกันการพังทลายของชายฝั่ง สอง-ป้องกันปัญหาการรุกเข้ามาในแผ่นดินของน้ำเค็ม ซึ่งจะส่งผลต่อการประกอบอาชีพและความเป็นอยู่ที่ดีของชาวบ้านในพื้นที่ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องช่วยกันอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำอันอุดมสมบูรณ์นี้ให้คงอยู่ไปนานๆ
อย่างไรก็ตาม สิบปากไกด์เล่า ไม่เท่าตาเห็น หลังจากเตรียมตัวพร้อม ไกด์ก็นำทีมพาเข้าไปชมสวนเพื่อให้สัมผัสความอันซีนด้วยตนเอง โดยเลือกเข้าไปสัมผัสได้ทั้งทางบกด้วยการเดินหรือปั่นจักรยาน และทางน้ำด้วยการนั่งเรือท้องแบนหรือพายเรือคายัค แต่หลายคนนิยมนั่งเรือท้องแบน เนื่องจากสามารถอิงแอบแนบชิดกับความอันซีน ท่ามกลางบึงน้ำขนาดใหญ่ได้อย่างเต็มอิ่มมากกว่า
โดยในระหว่างล่องเรือนั้น ทุกคนจะได้พบกับธรรมชาติที่สวยงามแปลกตาตลอดทาง ไม่ว่าจะเป็นนกอพยพประจำถิ่น เช่น นกอ้ายงั่ว นกปากห่าง หรือนกเป็ดน้ำ ทั้งที่เกาะอยู่ตามยอดไม้และบินโฉบไปมา, แพหญ้าหนังหมาที่เป็นกอหญ้าทับถมกันหลายชั้นใช้เวลาหลายร้อยปีจนสูงเกือบท่วมหัว (ประมาณ 50-100 เซนติเมตร) ลอยต่อกันเป็นผืนใหญ่ดูคล้ายเกาะหรือผืนแผ่นดิน สามารถขึ้นไปเดินได้โดยที่ไม่จม นับเป็นหนึ่งในมหัศจรรย์อันซีนชวนให้ตื่นตาตื่นใจไม่รู้จบ เพราะลอยเด่นอยู่กลางบึงหลายช่วง หรือพืชพันธุ์ต่างๆ ในท้องน้ำ โดยเฉพาะสาหร่ายข้าวเหนียว-พืชกินแมลงดอกสีเหลืองสดสวยและบึงบัวหลากหลายชนิด ที่มีทั้งบัวหลวง บัวสาย บัวเผื่อน และบัวบา ซึ่งแข่งกันบานสะพรั่งให้ได้ยลอย่างลานตา รวมถึงพืชประจำถิ่นเด่นๆ อย่างเฟิน เสม็ด แล้วก็กระจูดที่หาดูจากที่นี่ได้ที่เดียวในภาคตะวันออก ชาวบ้านแถบนี้จึงมีอาชีพสานเสื่อกระจูดสืบทอดเป็นภูมิปัญญากันมากว่า 200 ปี
จากนั้นไกด์จึงพาทุกคนล่องเรือลัดเลาะเข้าสู่พื้นที่ชุ่มน้ำที่เป็นมหัศจรรย์อันซีนและมีเสน่ห์ลึกลับที่สุด นั่นคือสวนป่าเสม็ดพันปีที่มีต้นเสม็ดขาวและเสม็ดแดงทอดเป็นเงาสะท้อนน้ำดูสวยงามระคนลี้ลับ โดยต้นเสม็ดส่วนใหญ่ของที่นี่จะเป็นต้นเสม็ดขาวขนาดลำต้นใหญ่และสูงตระหง่านหลายร้อยต้น แผ่กิ่งก้านสาขาและลำต้นออกไปไกล ทั้งยังมีรูปทรงโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์กับความโย้เย้หงิกงอ และขึ้นอยู่บนพื้นทรายที่มีสภาพพื้นที่เป็นดินและป่าพรุน้ำท่วมขัง ทำให้ต้องใส่บูทเดินเข้าไปชมจึงจะสัมผัสกับมนต์เสน่ห์อันลึกลับนี้ได้อย่างใกล้ชิด ยิ่งถ้าเดินชมในช่วงยามเย็นแสงแดดรำไร ก็จะยิ่งรู้สึกลึกลับสมกับเป็นป่าดึกดำบรรพ์จริงๆ
ส่วนใครที่ไม่ได้เลือกล่องเรือชมมหัศจรรย์อันซีนของสวนแห่งนี้ ก็สามารถปั่นจักรยานหรือเดินชิลๆ ชมความงามตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติบนสะพานรักษ์เสม็ด หรือเกาะกลางบึงภายในสวน ที่เป็นพื้นที่ของเกาะน้อยใหญ่ถึง 5 เกาะแทนได้ ประกอบด้วยเกาะแต้วใหญ่ เกาะแต้วเล็ก เกาะชะมวง เกาะกก และเกาะนรก ซึ่งเปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. แต่ช่วงเวลาสายๆ หรือเย็นๆ หน่อย อากาศไม่ร้อนเกินไป จะเหมาะกับการเพลิดเพลินเชิญชมที่สุด โดยมาเที่ยวชมกันได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนปริมาณน้ำมาก จะทำให้ได้สัมผัสกับความเขียวชอุ่มของสวนอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น
จึงเห็นได้ว่าสวนพฤกษศาสตร์ระยอง
มีความมหัศจรรย์อันซีนทางธรรมชาติอย่างหลากหลาย และถือเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำแห่งเดียวที่คงเหลืออยู่สมบูรณ์ที่สุดของภาคตะวันออก
ที่มีความสำคัญเชื่อมโยงกับกลุ่มสวนพฤกษศาสตร์อีก 4 แห่งในประเทศ
ได้แก่ สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ จังหวัดเชียงใหม่, สวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า จังหวัดพิษณุโลก,
สวนพฤกษศาสตร์พระแม่ย่า จังหวัดสุโขทัย และสวนพฤกษศาสตร์ขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น
ดังนั้นจะรอช้าอยู่ทำไม
รีบแบกเป้สะพายหลัง ไปเติมพลังพร้อมสัมผัสความมหัศจรรย์อันซีนของสวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้กันเถอะ...
· ข้อมูลอ้างอิง : www.thailandtourismdirectory.go.th, www.tourismtreasures.org,
บทสัมภาษณ์อาจารย์เผ่าทอง ทองเจือ เรื่องเส้นทางความสุขกับ GC