อินฟลูเอนเซอร์สูงวัย เทรนด์โลกมาแรงในยุค AGED SOCIETY
อายุเป็นเพียงตัวเลขอย่างแท้จริงในยุคสังคมสูงวัย
ดังนั้นอย่าได้คิดจะมาบูลลีเหล่าคุณลุงคุณป้ากันอีกต่อไปเชียว เพราะการทำการตลาดของสินค้าตอนนี้ต่างมุ่งหน้าเข้าหาตลาดผู้สูงวัย
ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่โตขึ้นเรื่อยๆ ตามกระแสโลกปัจจุบัน โดยเฉพาะการเลือกใช้ ‘อินฟลูเอนเซอร์สูงวัย’ เทรนด์โลกที่กำลังมาแรงแซงอินฟลูเอนเซอร์วัยหนุ่มสาว
โดยความนิยมของเทรนด์นี้ มีปัจจัยสำคัญมาจากประเทศต่างๆ
ทั่วโลกทยอยก้าวสู่สังคมสูงวัยอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งคำว่า สังคมสูงวัย หรือ Aged Society ทางองค์การสหประชาชาติ ได้กำหนดให้พิจารณาจากสัดส่วนของประชากรอายุ 65 ปีขึ้นไป หากประเทศใดมีประชากรกลุ่มอายุนี้มากกว่าร้อยละ 7 ถือว่าเป็นสังคมสูงวัย, มีมากกว่าร้อยละ 14 ถือว่าเป็นสังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ และมีมากกว่าร้อยละ 20 ถือว่าเป็นสังคมสูงวัยระดับสุดยอด ตามลำดับ
เมื่อพิจารณาจากสัดส่วน ประเทศไทยเรา ในปี
พ.ศ. 2565 นี้ ต้องถือว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่ก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์แล้ว
ด้วยตัวเลขผู้สูงวัยอายุ 65 ปีขึ้นไปมีถึง 17.6 ล้านคน จากจำนวนประชากรทั้งหมดกว่า 66 ล้านคน
หรือคิดเป็นเปอร์เซ็นต์เกิน 14% นำหน้าหลายประเทศในอาเซียนไปอย่างรวดเร็ว
ยกเว้นญี่ปุ่นและเกาหลีใต้
ดังนั้นโลกที่กำลังก้าวสู่สังคมสูงวัยอย่างเต็มรูปแบบ
จึงส่งผลกระทบให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลากหลายด้าน รวมถึงด้านการทำการตลาดยุคใหม่ ซึ่งแต่ก่อนอาจเน้นกลุ่มเป้าหมายวัยหนุ่มสาว
ก็พากันหันมาจับจ้องมองกลุ่มผู้สูงวัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งต้องยอมรับว่าคนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่มีความพร้อมในการใช้จ่ายพอสมควร
ในขณะเดียวกันผู้สูงวัยปัจจุบันเองก็พยายามเรียนรู้ที่จะเท่าทันโลกยุคดิจิทัล
ซึ่งเห็นได้จากกระแสโซเชียลมีเดียที่มีจำนวนคุณลุงคุณป้าวัย 50+ ลุกขึ้นมาทำคอนเทนต์กันอย่างล้นหลามและน่าตื่นตาตื่นใจ ทั้งบนยูทูป
อินสตาแกรม เฟซบุ๊ก ไลน์ และติ๊กต่อก
แถมหลายคนยังมียอดผู้ติดตามเป็นหลักแสนหลักล้าน จนไต่อันดับขึ้นเป็นอินฟลูเอนเซอร์สูงวัย
หรือเรียกกันว่า อินฟลูเอนเซอร์สีเงิน (Silver Influencers) ไปอย่างเก๋ๆ
โดยมีข้อมูลการศึกษาของ
influencerhouse.co.th
สนับสนุนปรากฏการณ์ข้างต้นด้วยว่า ผู้สูงวัยที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไป มากกว่า 55% ใช้เวลาประมาณ 15 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ติดตามโซเชียลมีเดีย และแพลตฟอร์มที่มีการใช้งานมากที่สุด
3 อันดับแรก ได้แก่ ไลน์ เฟซบุ๊ก และติ๊กต่อก ยิ่งกว่านั้น 2 ปีของการเผชิญหน้ากับสถานการณ์โรคโควิด-19 ระบาดทั่วโลก
ก็ยิ่งส่งผลให้ยอดผู้สูงวัยรุ่นลุง ป้า น้า อา ใช้เวลากับโซเชียลมีเดียมีมากขึ้นเป็นทวีคูณ
ดังนั้นเมื่อกราฟการเติบโตของขั้วการตลาดยุคใหม่และเทรนด์อินฟลูเอนเซอร์สูงวัยมาบรรจบพบกันอย่างลงตัวเช่นนี้
ก็ไม่แปลกที่บรรดาผู้ประกอบการทั้งหลายจะเลือกใช้อินฟลูเอนเซอร์สูงวัยในการโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าของตนเอง
เพราะมั่นใจว่าจะได้รับแรงหนุนจากรายได้ของชาวเบบี้บูมเมอร์หรือคนในเจนเอ็กซ์ด้วยกัน
ก็ใครเล่าจะเข้าใจคนสูงวัยเท่ากับคนในวัยเดียวกัน
จริงไหม...
ตรงข้ามกับหลายปีที่แล้ว
เวลานักการตลาดนึกถึงอินฟลูเอนเซอร์ จะนึกถึงอินฟลูเอนเซอร์อายุประมาณ 20-30 ปีก่อน แต่ในตอนนี้เทรนด์อินฟลูเอนเซอร์ได้ก้าวข้ามกฎแห่งวัยเยาว์อันสดใส
ไปสู่สูงวัยอันล้ำค่าแล้ว พวกเขาจึงเลือกอินฟลูเอนเซอร์สูงวัยมาเป็นตัวแทนสินค้าของแบรนด์มากกว่าแทน
ไม่ว่าจะเป็นสินค้าในหมวดสุขภาพ แฟชั่น ความงาม อาหาร ท่องเที่ยว
หรือไลฟ์สไตล์อื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมวดความงาม ที่มีการนำเอาอายุและริ้วรอยของอินฟลูเอนเซอร์สูงวัยมาเป็นจุดขายในการนำเสนออย่างทรงพลัง
ไม่เคอะเขินว่าจะแก่ไปมั้ย เป็นลุงเป็นป้าหรือไม่
โดยทั้งนี้ กว่าเหล่าอินฟลูเอนเซอร์สูงวัยจะกลายมาเป็นผู้มีอิทธิพลทางการตลาดจากยอดผู้ติดตามมากมายได้ ย่อมต้องอาศัยเรื่องราว ความสามารถส่วนตน และเทคนิคการนำเสนอที่มีเสน่ห์แตกต่างกันไป แต่แน่นอนว่า สิ่งที่ทุกคนมีเหมือนกัน ก็คือต่างเป็นชาวสูงวัยที่มีความแอคทีฟ ทันสมัย และเข้ากับคนรุ่นใหม่ได้ดี แถมยังดำเนินชีวิตอย่างกลมกลืนกับลูกๆ หลานๆ และหลายคนได้รับความเกื้อหนุนในการเป็นอินฟลูเอนเซอร์จากคนในครอบครัวอีกด้วย
สำหรับในต่างประเทศนั้น เทรนด์อินฟลูเอนเซอร์มาแรงต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2564 โดยมีอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังอยู่หลายคน ตัวอย่างเช่น baddiewinkle อินฟลูเอนเซอร์ด้านความงามและแฟชั่น วัย 94 ปีชาวอเมริกัน ซึ่งมีคาแร็กเตอร์โดดเด่นนำสมัย และเป็นผู้ที่ออกมาพูดถึงประเด็น Ageism หรือการเหมารวมและเลือกปฏิบัติต่อคน โดยถือเรื่องอายุหรือวัยเป็นเกณฑ์ โดยเธอสนับสนุนให้คนทุกวัยมีเสรีภาพด้านความงามในแนวทางของตนเองและยอมรับความงดงามตามวัย จนเป็นที่ประทับใจและได้รับเลือกให้ร่วมงานกับแบรนด์สินค้าชั้นนำมากมาย เช่น Smirnoff, Missguided โดยปัจจุบันมีผู้ติดตามในอินสตาแกรมกว่า 3 ล้านคน
หรือ iconaccidental อินฟลูเอนเซอร์ด้านความงามและแฟชั่นเช่นกัน เป็นชาวอเมริกันวัย 68 ปี และอดีตอาจารย์ด้านกฎหมาย ซึ่งโด่งดังจากการเขียนบล็อกเกี่ยวกับแฟชั่น
บวกกับสไตล์การแต่งตัวสุดเปรี้ยว ทำให้กลายเป็นหนึ่งในอินฟลูเอนเซอร์ผู้ทรงอิทธิพล
จนได้รับการติดต่อให้ร่วมงานกับแบรนด์แฟชั่นหลายแบรนด์ เช่น แบรนด์ Maison
Margiela, Perricone MD, Oribe โดยปัจจุบันมีผู้ติดตามในอินสตาแกรมเกือบ
8 แสนคน
นอกจากนี้ก็ยังมีอินฟลูเอนเซอร์ชาวญี่ปุ่น
วัย 90 ปี ที่ใช้ชื่อว่า Gamer Grandma ผู้มีชื่อเสียงในฐานะเกมเมอร์อายุมากที่สุดในโลกโซเชียลมีเดีย
โดยบนยูทูปมีผู้ติดตามกว่าครึ่งล้าน หรือในประเทศจีน ก็มีอินฟลูเอนเซอร์สูงวัยเป็นที่นิยม
อย่างเช่น กลุ่ม Fashion Grandmas ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของคุณป้าอายุ
65 ปีขึ้นไป ร่วมกันถ่ายคลิปวิดีโอเผยแพร่ตามสื่อโซเชียลมีเดียท้องถิ่นและบนติ๊กต่อกในชื่อ
Fashion Granny จนสร้างแรงบันดาลใจด้านแฟชั่นให้กับผู้คนมากมาย
โดยมีผู้ติดตามบนติ๊กต่อกมากกว่า 5 แสนคน หรือ @Monadashu
คุณตาอายุ 74 ปี ผู้มีหน้าตาหล่อเหลาและเชี่ยวชาญด้านการแต่งตัว
ก็ได้รับความสนับสนุนจากลูกชาย จนกลายเป็นอินฟลูเอนเซอร์สูงวัยที่มีผู้ติดตามหลายล้านคนในโลกโซเชียลมีเดีย
ส่วนในประเทศไทย ก็มีอินฟลูเอนเซอร์สูงวัยน่าสนใจหลายคน
เช่น เดอะแป๊ะสุน Official
ช่องยูทูปของคุณลุงวันชัย วณิชชูวงศ์ พ่อค้าขายบะหมี่ทำมือวัยใกล้เกษียณ
ผู้ได้รับการผลักดันจากลูกชายจนโด่งดัง โดยมีผู้ติดตามบนยูทูปกว่า 1.6 แสนคน หรือเพจ แม่อยากได้รูป 1 คอลเลคชึ่น ของคุณพ่อจักรีและคุณแม่เฉลา
มั่นคง วัย 64 ปี
ซึ่งเป็นเพจบอกเล่าเรื่องราวความรักความห่วงใยในครอบครัว
และการใช้ชีวิตหลังเกษียณอย่างมีสีสัน ผ่านการถ่ายภาพสวยๆ จนมีผู้ติดตามเพจนี้เกือบ
5 หมื่นคน
อย่างไรก็ตาม
แม้อินฟลูเอนเซอร์สูงวัยในโซนเอเชียจะยังไม่มีโอกาสร่วมงานกับแบรนด์สินค้าดังๆ แต่บนโซเชียลมีเดียของพวกเขาก็สามารถสร้างแรงบันดาลใจและรายได้จากการติดตามของผู้เข้าชมได้ไม่น้อยทีเดียว
มาถึงบรรทัดนี้
คงเห็นแล้วว่าอินฟลูเอนเซอร์สูงวัยเป็นเทรนด์โลกที่กำลังมาแรงจริงๆ และไม่น่าจะเป็นเทรนด์มาไวไปไว
ตราบใดที่ผู้สูงวัยทั่วโลกยังคงเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นนี้
ดังนั้นการเข้ามามีบทบาทในฐานะอินฟลูเอนเซอร์บนสื่อโซเชียลมีเดียของผู้สูงวัย
จึงไม่ใช่แค่การก้าวข้ามพรมแดนของโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นการก้าวข้ามพรมแดนของวัยหรืออายุด้วย
สมกับคำกล่าวที่ว่า อายุเป็นเพียงตัวเลขอย่างแท้จริง
·
ข้อมูลอ้างอิง :
www.bangkokbanksme.com, www.bangkokbiznews.com
·
อ้างอิงรูปภาพจาก FB : แม่อยากได้รูป 1 คอลเลคชึ่น, ร้านบะหมี่แป๊ะสุน
และ IG : baddiewinkle, iconaccidental

