ชวนรู้จัก 5 เมืองเป็นมิตรกับ LGBTQ+

            ปัจจุบันนอกจากโลกจะไร้พรมแดนแล้ว ยังเปิดรับความหลากหลายทางเพศของกลุ่ม LGBTQ+ มากขึ้นด้วย โดยหลายประเทศทั่วโลกเริ่มให้การรับรองเพศสภาพ ยอมรับสิทธิในการใช้ชีวิตประจำวัน และผลักดันการสมรสเท่าเทียม

            ทั้งนี้ หนึ่งในการแสดงออกถึงการเปิดรับความหลากหลายทางเพศก็คือ การจัดเทศกาล Pride Month ในประเทศต่างๆ ที่เป็นมิตรกับกลุ่ม LGBTQ+ เป็นประจำทุกปี ตามไปดูกันว่า มีประเทศใดบ้าง...

            นิวยอร์ก เป็นเมืองแรกที่ต้องกล่าวถึงในแง่ของประวัติศาสตร์ที่ทำให้เกิดเทศกาล Pride Month ซึ่งมีจุดเริ่มต้นมาจากตำรวจใช้ความรุนแรงในการบุกจับกลุ่ม LGBTQ+ ที่สโตนวอลล์ อินน์ บาร์เกย์กลางเมืองนิวยอร์ก เมื่อปี ค.ศ.1969 จนบานปลายกลายเป็นเหตุจราจลนานถึง 6 วัน ทำให้มีการจัดเทศกาลนี้ขึ้นที่นิวยอร์กเพื่อรำลึกถึงเหตุจราจลครั้งนั้นในทุกๆ ปี โดยผู้ริเริ่มก็คือ Brenda Howard ได้รวมตัวกับเพื่อนๆ เป็นคณะกรรมการจัดงาน ส่วน Lee Craig Schoonmaker หนึ่งในคณะกรรมการ เสนอให้ใช้คำว่า Pride สำหรับการเดินขบวนพาเหรดของกลุ่ม LGBTQ+ ครั้งแรก เมื่อปี ค.ศ.1970   

จนปี ค.ศ.2000 รัฐบาลในยุคประธานาธิบดี Bill Clinton จึงประกาศให้เดือนมิถุนายนเป็นเดือนแห่งเทศกาล Pride Month แม้ชื่อเทศกาล Gay and Lesbian Pride Month จะยังจำกัดอยู่เฉพาะกลุ่มเกย์และเลสเบี้ยนก็ตาม แต่ก็นับเป็นเรื่องที่น่ายินดี

            ต่อมา ในปี ค.ศ.2009 ประธานาธิบดี Barack Obama ได้เปลี่ยนชื่อ Pride Month เป็น Lesbian, Gay, Bisexaul and Transgender Pride Month เพื่อให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น และใช้มาจนถึงปี ค.ศ.2016

            หลังจากนั้น เทศกาล Pride Month ของนิวยอร์ก จึงมีการจัดขึ้นภายใต้ชื่อ NYC Pride เพื่อแสดงถึงพลังแห่งการต่อต้านการเลือกปฏิบัติอย่างแท้จริง โดยสำหรับปีนี้ ครบรอบ 53 ปี ก็ยิ่งมีการจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ในฐานะเมืองที่สร้างรากฐานความภาคภูมิใจของกลุ่ม LGBTQ+

            ส่วนย่านสำคัญเกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศมีอยู่มากมาย เช่น ย่าน Greenwich Village, Hell’s Kitchen, Chelsea หรือสถานที่สำคัญ เช่น โบสถ์ Judson Memorial แหล่งชุมนุมของกลุ่ม LGBTQ+ ในทศวรรษที่ 60-70 หรือ Leslie-Lohman Museum of Art พิพิธภัณฑ์จัดแสดงและอนุรักษ์ศิลปะ LGBTQ+ หนึ่งเดียวในโลก

อัมสเตอร์ดัม เมืองหลวงของเนเธอร์แลนด์ ประเทศแรกในโลกที่มีการออกกฎหมายการแต่งงานระหว่างคนเพศเดียวกัน เมื่อปี ค.ศ.2000 และเป็นหนึ่งในประเทศรวม LGBTQ+ มากที่สุดในโลก ทำให้นักท่องเที่ยวทุกกลุ่มสามารถแวะเยือนเมืองนี้ได้อย่างสบายใจ โดยอัตราการไม่ยอมรับคู่สมรสเพศเดียวกันจากร้อยละ 13 ในปี ค.ศ.1990 ลดลงเหลือเพียงร้อยละ 8 ในปี ค.ศ.2008 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า การแต่งงานระหว่างคนเพศเดียวกัน ไม่ได้สร้างผลเสียต่อสังคมอย่างบางฝ่ายกังวลแต่อย่างใด

ยิ่งกว่านั้น อัมสเตอร์ดัมยังเป็นเมืองศูนย์กลางของวัฒนธกรรมเกย์ในยุโรป อันพรั่งพร้อมด้วยมรดกทางวัฒนธรรมเกย์ที่ชวนให้ไปสำรวจ โดยเฉพาะเทศกาล Amsterdam Pride 

สำหรับสถานที่น่าสนใจของอัมสเตอร์ดัม นอกจากอนุสรณ์สถาน Homomonument รูปสามเหลี่ยมสีชมพูที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เป็นเครื่องย้ำเตือนให้ระลึกถึงกลุ่มคนผู้มีความหลากหลายทางเพศที่ถูกกดขี่แล้ว ก็ยังมีย่านเกย์อย่าง Reguliersdwarsstraat หรือ PRIK บนถนน Spuistraat ให้ได้แวะเยือนในช่วง Pride Month อย่างเต็มอิ่ม และด้วยความเป็นเมืองแห่งคูคลอง ทำให้เทศกาลนี้ของอัมสเตอร์ดัมมีความพิเศษไม่เหมือนที่ใดในโลก นั่นคือการเฉลิมฉลองไปตามลำคลอง จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของเทศกาลในที่สุด

เบอร์ลิน เมืองหลวงของเยอรมนี ประเทศที่มีความเป็นมิตรกับ LGBTQ+ มากที่สุดแห่งหนึ่ง และมีการจัดเทศกาล Pride Month อย่างเอิกเกริกไม่แพ้ชาติใดในโลก โดยจัดครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1979 ชื่องาน CSD Berlin มาจาก Christopher Street Day เพื่อรำลึกถึงเหตุจราจลสโตนวอลล์ที่เกิดขึ้นบนถนนคริสโตเฟอร์ในเมืองนิวยอร์ก ซึ่งจากประวัติศาสตร์การต่อสู้ด้านสิทธิและเสรีภาพของกลุ่มความหลากหลายทางเพศมาอย่างยาวนาน ทำให้ที่นี่มีสถานที่ความทรงจำหลายแห่ง เช่น Schwules พิพิธภัณฑ์ที่อุทิศให้กับการต่อสู้ ค้นคว้า และอนุรักษ์ประวัติศาสตร์ของวัฒนธรรม LGBTQ+ ทั่วโลก, Heile Welt สโมสรเกย์ที่เก่าแก่ที่สุด หรือ Prenzlauce Berg ย่านคลับบาร์เฉพาะกลุ่มหลากหลายทางเพศและมีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์

โตรอนโต เมืองแห่งความหลากหลายและเปิดกว้างทางเพศของแคนาดา โดยได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในโลกสำหรับชาว LGBTQ+ และด้วยประวัติศาสตร์การเคลื่อนไหวของเพศทางเลือก ซึ่งเริ่มต้นมาตั้งแต่ทศวรรษ 1970 ทำให้เทศกาล Toronto Pride ที่นายกรัฐมนตรี Justin Trudeau ผู้นำประเทศเคยเข้าร่วมขบวนพาเหรดด้วยนั้น เต็มไปด้วยสีสันและความตื่นตาตื่นใจ โดยมีศูนย์กลางของการจัดงานอยู่ที่ย่าน Church กับ  Wellesley ในเขต The Village หรือหมู่บ้านเกย์ รวมถึงมีจุดหมายปลายทางและงานเทศกาลอื่นๆ ให้ได้สัมผัสอย่างเต็มที่ เช่น The Village หมู่บ้านเกย์ที่ใหญ่ที่สุดในโตรอนโต และโด่งดังจากการใช้ Woody’s Bar เป็นสถานที่ถ่ายทำรายการทีวี Queer as Folk ของอเมริกา หรือเทศกาลทางวัฒนธรรมอย่าง Inside Out LGBT ที่จัดแสดงภาพยนตร์แนวเควียร์ทั่วโลกให้ชมกันในทุกๆ ปี

ไทเป เมืองหลวงที่ไม่เคยหลับใหลของไต้หวัน ประเทศแรกในเอเชียที่มีการรับรองการแต่งงานระหว่างคนเพศเดียวกัน เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ.2019 ภายใต้ความพยายามของหลายฝ่าย รวมทั้งได้ชื่อว่าเป็น Rainbow City แห่งเอเชียที่ชาว LQBTQ+ ทั่วโลกต่างต้องการมาเยือนพร้อมร่วมเทศกาล Taiwan Pride ที่ไทเปสักครั้งหนึ่ง (ล่าสุด ไต้หวันได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดงาน World Pride 2025 แต่จะจัดขึ้นที่เมืองเกาสง) โดยมีเส้นทางสายรุ้งให้เที่ยวท่องในช่วง Pride Month ซึ่งริเริ่มจัดมาตั้งแต่ปี ค.ศ.2003 เต็มไปหมด อาทิเช่น ถนนสายรุ้งหมายเลข 6 / Rainbow Six ตั้งอยู่ที่ทางออก 6 ของสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินซีเหมินติง, สวนสันติภาพ 228 ซึ่งได้รับคัดเลือกให้เป็นพื้ปนที่สีรุ้ง ด้วยการทาสีประตูรั้วเหล็กที่แต่เดิมเป็นสีเทาให้เป็นสีรุ้ง 6 แถบ เพื่อแสดงถึงสิทธิอันเท่าเทียมกันของกลุ่ม LGBTQ+, ถนนฉางเต๋อ สถานที่ที่ชาวรักร่วมเพศเคยถูกข่มขู่บังคับและควบคุมตัวไปยังสถานีตำรวจ, ถนนไข่ต๋าเก๋อหลาน ที่สุดปลายถนนสร้างเป็นทำเนียบประธานาธิบดี เพื่อเป็นประจักษ์พยานแห่งการเรียกร้องความเปลี่ยนแปลง และมักใช้เป็นเส้นทางในการเดินขบวนพาเหรดหรือทำกิจกรรมต่างๆ, ร้านหนังสือจิงจิง ร้านหนังสือที่เข้าร่วมขบวนพาเหรดและต่อสู้เพื่อสิทธิองชาว LGBTQ+, ตึกแดงซีเหมิน หรือรู้จักกันในนาม หอแปดเหลี่ยม แหล่งรวมสถานที่ทางวัฒนธรรมสร้างสรรค์และยอมรับวัฒนธรรมรักร่วมเพศ และพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยไทเป สถานที่ที่มีการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับ LGBTQ+ อย่างเป็นทางการ เป็นต้น

·       ข้อมูลอ้างอิง : www.en.m.wikipedia.org, www.bcc.com, www.marketeeronline.co, www.booking.com,  www.th.travelgay.com, www.travel.taipei, www.taiwantourism.org

·       ที่มารูปภาพ : www.travelgay.com/event/berlin-gay-pride/