แนวคิดความยั่งยืนที่ซ่อนอยู่ ใน Gardens by the Bay สิงคโปร์

17 กรกฎาคม 2023
|
2153 อ่านข่าวนี้
|
15


 

          มากกว่าสถานที่ท่องเที่ยวและแลนด์มากแห่งชาติของประเทศสิงคโปร์ Gardens by the Bay คือแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติ พืชพันธุ์ และความหลากหลายทางชีวภาพที่ต้องไปเยือนในภูมิภาคนี้ ทั้งยังเป็นชั้นเรียนด้านความยั่งยืน หรือ sustainability ที่ช่วยสร้างความตระหนักด้านปัญหาอุณหภูมิโลกสูงที่ขึ้น ผ่านแนวทางบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงาน ภายใต้การดูแลของ National Parks Board (NParks) คณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ สังกัดกับกระทรวงสิ่งแวดล้อมและทรัพยากร ที่มีหน้าที่ดูแลอุทยานแห่งชาติและพื้นที่สีเขียวหลากหลายในสิงคโปร์

 

เช็กอิน 6 จุดท่องเที่ยวแนวคิดสีเขียวภายในสวน

          อยากรู้ว่าแนวคิดสีเขียวหรือแนวคิดความยั่งยืนของ Gardens by the Bay ซ่อนอยู่ที่ไหน อาจเริ่มจาก 6 จุดท่องเที่ยวหลัก และจุดแวะพักชวนหย่อนใจภายในสวน ที่เป็นตัวอย่างของความพยายามอย่างมากในการวางแผนและออกแบบอย่างวงจร ในการใช้พลังงานและน้ำอย่างยั่งยืน


ภาพ: gardensbythebay.com.sg

 1-2  เรือนกระจก Flower Dome และ Cloud Forest

          Gardens by the Bay ประกอบด้วยเรือนกระจก 2 แห่ง ได้แก่ Flower Dome จําลองสภาพอากาศที่เย็นและแห้งของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน รวมทั้งเขตกึ่งร้อนกึ่งแห้งแล้ง และ Cloud Forest จําลองภูมิอากาศที่เย็นและชื้นของเขตภูเขาเขตร้อนเป็นที่ตั้งของพันธุ์ไม้หลากหลายชนิด ที่ไม่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปโซนนี้ในโลก

          เรือนกระจกทั้ง 2 แห่งใช้เทคโนโลยีทันสมัย ช่วยประหยัดพลังงานในการทำให้อุณหภูมิเย็นลง ช่วยลดการใช้พลังงานในสวนลงได้ประมาณ 30 % โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับอาคารที่ใช้เทคโนโลยีทำความเย็นทั่วไป โดยมีรายละเอียด เช่น 

         ลดความร้อนจากแสงอาทิตย์ให้เหลือน้อยที่สุด                                                                                  

               ติดตั้งกระจกที่มีการเคลือบพิเศษ ช่วยให้แสงส่องเข้ามาเหมาะสมสำหรับพืช แต่ช่วยลดความร้อนภายในได้ดี หลังคาติดตั้งใบเรือแบบยืดหดได้ ทำงานด้วยระบบเซ็นเซอร์เพื่อให้ร่มเงาแก่ต้นไม้เมื่ออากาศร้อนเกินพอดี        

ระบายความร้อนจากพื้นด้วยท่อน้ำเย็นด้านล่าง

            เรือนกระจกใช้การทำความเย็นเฉพาะระดับล่าง ซึ่งจะเป็นการลดปริมาณอากาศที่จะระบายความร้อนแบบแทนที่ (displacement cooling) เป็นการระบาย ความร้อนจากพื้นดินโดยเดินท่อน้ำเย็นด้านล่างพื้น ทำให้อากาศเย็นไหลลงสู่พื้นที่ด้านล่าง ในขณะที่อากาศอุ่นลอยขึ้น และระบายออกในระดับสูง  

               ลดความชื้นในอากาศก่อนทําความเย็น                                                                      

                 เพื่อลดปริมาณพลังงานที่ใช้ในการทำความเย็น ก่อนถูกทำให้เย็นลง อากาศใน Flower Dome จะถูกลดความชื้นด้วยสารดูดความชื้นชนิดของเหลว สารดูดความชื้นนี้ ยังเป็นสารที่ผ่านการรีไซเคิลด้วยความร้อนเหลือทิ้ง จากการเผาไหม้ชีวมวล                                                                                        

              สร้างพลังงานและควบคุมความร้อนเหลือทิ้ง                                                                

                มีการผลิตกระแสไฟฟ้าที่เป็นกลางทางคาร์บอน ขณะเดียวกันความร้อนเหลือทิ้ง จะถูกดักจับเพื่อสร้างสารดูดความชื้นที่เป็นของเหลวขึ้นใหม่ การสร้างพลังงานร่วมนี้เกิดขึ้นจาก Combined Heat Power (CHP) steam turbine หรือการใช้เชื้อเพลิงจากไม้ และเศษพืชสวนจากทั่วประเทศสิงคโปร์ เพื่อลดการพึ่งพาไฟฟ้าจากกริดที่ผลิตจากเชื้อเพลิงฟอสซิล 


ภาพ: gardensbythebay.com.sg

3-4 ทะเลสาบ Dragonfly Lake และ Kingfisher Lake

          ออกแบบให้เป็นส่วนขยายของอ่างเก็บน้ำ Marina ซึ่งน้ำที่ไหลออกจากสวนจะถูกกักไว้โดยระบบทะเลสาบและชำระล้างโดยพืชน้ำ ก่อนที่จะปล่อยลงสู่อ่างเก็บน้ำของสวน น้ำที่ผ่านการบำบัดตามธรรมชาตินี้ยังใช้ในระบบชลประทานสำหรับสวน และเป็นแหล่งที่อยู่ของสัตว์น้ำ และสัตว์ชนิดอื่นๆ ที่ช่วยสร้างความหลากหลายทางชีวภาพอีกด้วย เช่น ปลาในแหล่งน้ำ แมลงปอบริเวณแหล่งน้ำ เป็นต้น โดยระบบได้ผ่านออกแบบให้มีหน้าที่ดังนี้

          • มีระบบกรองน้ำทิ้ง ระบบกรองน้ำของสวนเกิดขึ้นเป็นลำดับชั้นโดยธรรมชาติ (filter bed) ประกอบด้วยต้นอ้อและพื้นที่ชุ่มน้ำ เป็นจุดที่ไหลเข้าและออกของน้ำจากระบบทะเลสาบ ที่เมื่อน้ำไหลช้าลง ตะกอนก็จะถูกกรอง                                                                                    

          • ลดปริมาณสารอาหารพืชนำ้ เกาะของพืชน้ำและต้นกก ช่วยดูดซับสารอาหารในน้ำ เช่น ไนโตรเจน และฟอสฟอรัส ซึ่งการลดระดับไนโตรเจนเป็นสิ่งสำคัญในการลดการเจริญเติบโตของสาหร่าย ทำให้น้ำคุณภาพดีขึ้น                                                                             

          • รักษาระบบนิเวศทางน้ำ ที่อยู่อาศัยของปลาและแมลงปอถูกสร้างขึ้นภายในระบบทะเลสาบ จากการรักษาความหลากหลายของพืชน้ำ การไหลเวียนของน้ำที่ดี และการเติมอากาศ



ภาพ: gardensbythebay.com.sg

พื้นที่ชุ่มน้ำ Kingfisher Wetlands 

          ตั้งอยู่ท่ามกลางแมกไม้เขียวขจีและแหล่งน้ำ 2 แห่งภายใน Gardens by the Bay พื้นที่ชุ่มน้ำเหล่านี้ได้รับการออกแบบเพื่อเพิ่มส่วนเชื่อมต่อระหว่างสระบัวและทะเลสาบคิงฟิชเชอร์ มาจากชื่อนกคิงฟิชเชอร์ (Kingfisher birds)วงศ์นกกระเต็นน้อยที่กินปลาเป็นอาหาร จับปลาโดยการพุ่งตัวโฉบลงบินผิวน้ำ บอกถึงความอุดมสมบูรณ์และความหลายทางชีวภาพของพื้นที่

          เป็นพื้นที่อนุรักษ์พันธุ์ไม้พื้นเมือง ปลูกต้นโกงกาง และพืชเกี่ยวข้องที่สามารถเติบโตได้ดีในพื้นที่กว่า 200 ต้น รวมถึงพันธุ์ไม้ป่าชายเลนพื้นเมืองที่ใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง เช่น ต้นลำพูและต้นลังกา 

          เป็นพื้นที่ปลูกอ่างคาร์บอน การปลูกป่าชายเลนเป็นการสร้างระบบนิเวศบลูคาร์บอน (Blue Carbon Ecosystem) สามารถช่วยกำจัดก๊าซเรือนกระจกจากสิ่งแวดล้อมได้                                      

          • เป็นพื้นที่อนุบาลสัตว์น้ำ ต้นไม้โกงกางที่จมอยู่ในน้ำยังเป็นที่อนุบาลและที่พักอาศัยที่สำคัญต่อการอยู่รอดของพันธุ์ปลาและสัตว์ต่างๆ คงไว้ซึ่งความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่



 

6 ต้นไม้ยักษ์ Supertrees 

          นอกจากเป็นจุดชมวิว และสร้างความสวยงามที่แตกต่างกันทั้งช่วงเวลากลางวันและกลางคืนแล้ว Supertrees 11 ต้น ยังมีบทบาทความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ได้แก่ การติดตั้งเซลส์แสงอาทิตย์ (solar cell) บนยอดเพื่อเก็บเกี่ยวและแปลงพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ให้แสงสว่างและใช้ในพื้นที่ นอกจากนี้ยามค่ำคืนยังมีการปิดไฟประดับ ไฟที่ไม่จำเป็น รวมถึงแสงสว่างที่ทางเดินและที่จอดรถในช่วงเวลาที่มีนักท่องเที่ยวน้อย ทั้งยังช่วยระบายอากาศร้อนชื้นตกค้างจะระบบใต้ดิน

 

Gardens by the Bay กับความพยายามปลูกฝังแนวคิด

ความยั่งยืนในชาติ

 

          นอกจากเดินเที่ยวชมด้วยตัวเองแล้ว สำหรับนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์และผู้ที่พำนักในประเทศ ยังมีบริการนำท่องเที่ยวโดยผู้มีความชำนาญเฉพาะด้านภายใต้แนวคิดความยั่งยืนฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ตั้งแต่มกราคม พ.. 2566 ไปจนถึง พ.. 2568 ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ ในธีมต่างๆ เช่น ทัวร์ Carbon and Climate  ทัวร์ Urban Wetlands ทัวร์ Seeds and Senses (Smell) และทัวร์พลังงานและน้ำ เพื่อสร้างความตระหนัก พร้อมชี้แนะแนวทางจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงานเพื่อความยั่งยืน

          การสร้างความตระหนักนี้ยังเกิดขึ้นเช่นเดียวกันและยิ่งเข้มข้นขึ้นภายในหน่วยงาน Gardens by the Bay ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระ ภายใต้หน่วยงาน National Parks Board ที่ไม่หยุดให้ความสำคัญกับการพัฒนาและปรับปรุงดีเอ็นเอด้านความยั่งยืนให้กับบุคลากรภายในทั้งบุคลากรเดิมและบุคลากรใหม่ ที่นับเป็นความท้าทายในการสนับสนุนพันธกิจและวิสัยทัศน์เดียวกัน

 

          • Gardens by the Bay เป็นส่วนหนึ่งของแผนในการ เปลี่ยน "Garden City" ให้เป็น "City in a Garden" มีจุดประสงค์ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตด้วยการเพิ่มความเขียวขจีและพืชพันธุ์ในเมืองประกาศครั้งแรกโดยนายกรัฐมนตรี ลี เซียนลุง ที่งานชุมนุมวันชาติของสิงคโปร์ใน พ.. 2548 

 

ที่มา: gardensbythebay.com.sg, sdgmove.com, channelnewsasia.com, baanlaesuan.com และ hbsp.harvard.edu

ภาพ: freepik.com  และ gardensbythebay.com.sg

 

0 ความคิดเห็น

Ask OKMD AI