อนาคตเพศทางเลือกในโลกกีฬา

19 กรกฎาคม 2023
|
1632 อ่านข่าวนี้
|
13


            ปัจจุบันความเคลื่อนไหวในเรื่องเพศทางเลือกมีมากขึ้นเรื่อยๆ และในอนาคตเชื่อเหลือเกินว่าประชากรกลุ่มนี้จะเข้ามามีบทบาทในหลากหลายสาขาวิชาอาชีพ หนึ่งในนั้นก็คืออาชีพนักกีฬา

             การปรับเปลี่ยนรูปร่าง สภาพทางเพศของตัวเองรวมถึงการรับฮอร์โมนเพื่อปรับเปลี่ยนร่างกาย การทำศัลยกรรม อาจทำให้วงการกีฬาที่เคยแบ่งแยกการแข่งขันด้วยความเป็นชายหญิงนั้นพร่าเลือนไปทุกที ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอาจต้องคิดหนึ่งขึ้นว่า เราจะทำอย่างไรเพื่อให้เกิดความยุติธรรมกับทุกฝ่ายมากที่สุด 

            ปัจจุบันบรรดาองค์กรกีฬาต่างๆ เริ่มพูดกันเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยเฉพาะองค์กรกีฬาระหว่างประเทศหลายหน่วยงานเริ่มกระบวนการ การพิจารณากฎเกณฑ์ต่าง เกี่ยวกับการแข่งขันของนักกีฬาข้ามเพศ หน่วยงานที่อาจก้าวหน้ากว่าใครเพื่อนคือ สหพันธ์ว่ายน้ำนานาชาติ(FINA Fédération internationale de natation)  ซึ่งประกาศนโยบายห้ามไม่ให้ผู้หญิงข้ามเพศส่วนมากเข้าร่วมการแข่งขัน โดยอนุญาตเพียงแค่กลุ่มคนข้ามเพศที่เริ่มเข้ารับการรักษาในเรื่องการเปลี่ยนแปลงเพศก่อนอายุ 12 ปี ที่มีสิทธิในการแข่งขัน ส่วนคนข้ามเพศบางคนที่ใช้ยาเพื่อลดระดับฮอร์โมนเพศชายหรือเพศหญิงยังไม่ได้รับอนุญาตเนื่องจากฮอร์โมนดังกล่าวส่งผลอย่างมากต่อการพัฒนาร่างกายและอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพที่แตกต่างกันเมื่อวัดจากมาตรฐานความเป็นชายหรือหญิงโดยทั่วไป 

            หลังจากที่ FINA ประกาศการตัดสินใจองค์กรอื่นๆ เช่น องค์กรที่จัดการแข่งขันกีฬาฮอกกี้ รักบี้ ไตรกีฬา และปั่นจักรยาน ก็เริ่มพิจารณาตั้งกฎเกณฑ์ใหม่หรือดัดแปลงแก้แก้ไขกฎเช่นกัน  สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือ FIFA หรือ ก็กำลังเริ่มต้นในการกำหนดทิศทาง ทบทวนกฎเกณฑ์เกี่ยวกับเรื่องเพศใหม่อีกครั้งด้วย รวมไปคณะกรรมการโอลิมปิกสากลหรือ IOC ก็มีท่าทีเช่นกันว่าองค์กรยังไม่สามารถหาข้อสรุปเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ เพราะยังไม่เห็นหนทางที่จะใช้กฎเกณฑ์เดียวกันกับนักกีฬาทุกคนและทุกประเภทได้ และให้ความเห็นว่าการตัดสินใจเรื่องการกำหนดกฏเกณฑ์ต่างๆ เกี่ยวกับคนข้ามเพศของแต่ละองค์กรกีฬา ถือเป็นความรับผิดชอบของแต่ละองค์กรหรือสหพันธ์กีฬานั้นๆ  โดยที่ผ่านมา นโยบายของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล มีการอนุญาตให้สตรีข้ามเพศที่ได้รับการบำบัดด้วยฮอร์โมนเป็นเวลาอย่างน้อย 12 เดือน สามารถลงแข่งขันกับนักกีฬาหญิงได้ แต่ทุกวันนี้ ท่าทีของกฎเกณฑ์ดังกล่าวกำลังมีการพิจารณาว่าจะปรับเปลี่ยนไปอย่างไรให้เหมาะสมกับสภาพสังคมและความก้าวหน้าทางการแพทย์ที่เปลี่ยนแปลงไป และจะกำหนดกฎเกณฑ์อย่างไร ไม่ให้นักกีฬารู้สึกว่า ตนเองถูกเลืกปฎิบัติ รวมถึงไม่เกิดความขัดแย้งกันทางความคิดของชาติสมาชิกซึ่งแน่นอนว่าย่อมมีความแตกต่างกันทางความเชื่อทางศาสนาและวัฒนธรรมของแต่ละชนชาติ

 

            ด้านผู้จัดการแข่งขันกรีฑาประเภทลู่และลาน หรือ World Athletics ดำเนินการโดยอดีตนักกีฬาเหรียญทองโอลิมปิกเซบาสเตียน โคว (Sebastian Coe) แห่งสหราชอาณาจักร กล่าวว่า World Athletics จะตรวจสอบนโยบายต่าง เกี่ยวกับนักกีฬาข้ามเพศภายในสิ้นปี 2022 นี้ซึ่งหาก World Athletics ทำตามนโยบายของ FINA ก็อาจทำให้นักวิ่งอย่าง แคสเตอร์ ซาเมนยา(Caster Semenya) จากแอฟริกาใต้และ คริสทีน เอ็มโบมา(Christine Mboma) จากนามิเบีย ไม่สามารถเข้าร่วมแข่งขันได้ ทั้งสองเป็นนักวิ่งอันดับต้น ที่ลงแข่งขันกับผู้หญิง แต่มีความแตกต่างในเรื่องการพัฒนาทางเพศซึ่งส่งผลให้ระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนสูงกว่าผู้หญิงส่วนใหญ่ ซึ่งหากมีนักกีฬาคนไหนที่ผ่านเข้าสู่ช่วงที่ฮอร์โมนเพศชายเข้าสู่วัยหนุ่มและมีข้อได้เปรียบที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน พวกเขาจะไม่สามารถลงแข่งขันในกีฬาในนามเพศหญิงได้ 

            หากดูจากสถานการณ์ คาดว่าในช่วง 10 ปีต่อจากนี้ ทุกหมวดกีฬา มีแนวโน้มที่องค์กรการกีฬาทั้งหมดในโลกนี้อาจต้องเผชิญกับความท้าทายทางด้านกฎหมาย เรื่องนโยบายใหม่มาตรฐานทางสังคมใหม่ๆ อีกมากมาย ซึ่งค่าใช้จ่ายในการเป็นคดีความหรือการโต้เถียงกันในประเด็นนี้ อาจทำให้องค์กรกีฬาที่มีขนาดเล็กไม่สามารถกำหนดนโยบายใหม่เช่นเดียวกับองค์กรกีฬาใหญ่ๆ ได้ เพราะการกำหนดกฎเกณฑ์ต่างๆ นี้เอาจริงๆ ก็ไม่ง่ายเลย ยกตัวอย่างเช่น FINA นั้นต้องเสียค่าใช้จ่ายทางกฎหมายในการกำหนดนโยบายเกี่ยวกับเรื่องเพศและนักกีฬาข้ามเพศนี้สูงถึง 1 ล้านดอลลาร์(ราว 34 ล้านบาท) เลยทีเดียว

            แม้ค่าใช้จ่ายจะสูงแต่ก็คุ้มที่จะทำ เรายังได้เห็นความพยามในการขับเคลื่อนเรื่องนี้ในหลายส่วน เช่นมีการจัดการประชุมหมู่ผู้นำกีฬาโอลิมปิกที่โคโลราโด เมื่อกลางปี 2022 ในช่วงเดียวกันกับวันครบรอบ 50 ปีของกฎหมาย Title IX ของสหรัฐฯ ซึ่งกฎหมายดังกล่าวห้ามการเลือกปฏิบัติทางเพศในโครงการการศึกษาหรือกิจกรรมใดๆ ที่ได้รับเงินของรัฐบาลกลาง โดยในการประชมครั้งนี้ ซูซาน ลายออนส์ (Susanne Lyons) หัวหน้าคณะกรรมการโอลิมปิกและพาราลิมปิกของสหรัฐฯ หรือ USOPC แสดงความเห็นว่านี่อาจไม่ใช่หน้าที่ขององค์กร แต่ควรมีการนำเสนอ "มุมมอง" ที่ชัดเจนต่อคนข้ามเพศและเมื่อถึงจุดหนึ่ง โลกอาจต้องมีองค์กรใดองค์กรหนึ่งที่จะรับหน้าที่ในการจัดการเรื่องกฎเกณฑ์ต่างๆ ให้กับองค์กรกีฬาระดับโลก ซึ่งปัจจุบันคาดการณ์กันว่าน่าจะมีมากกว่า 40 องค์กรที่จำเป็นต้องตั้งกฎเกณฑ์ในเรื่องนี้ และเมื่อไม่นานมานี้ ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้เสนอนโยบายใหม่ที่จะปกป้องนักเรียนเลสเบี้ยน เกย์ คนข้ามเพศ และเพศทางเลือกจากการถูกเลือกปฏิบัติภายใต้กฎหมาย Title IX โดยมิเกล คาร์โดนา (Miguel Cardona) รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการสหรัฐฯ ให้การสนับสนุน

            แต่เรื่องทั้งหมดนี้ก็ไม่ได้ง่ายนัก เพราะในโลกของกีฬาบางประเภทนั้น การเปิดเผยตัวตนทางเพศนั้นเป็นเรื่องอ่อนไหว ทั้งยังมีการดูถูก หมิ่นประมาทผู้มีความหลากหลายทางเพศอย่างกว้างขวาง บางประเทศการเป็นบุคคลข้ามเพศนั้นมีความผิดตามกฎหมายและบางประเทศอาจรุนแรงถึงขั้นเป็นอันตรายต่อชีวิต

            แต่เมื่อมองว่าการเป็นตัวของตัวเอง คืออิสรภาพขั้นพื้นฐานที่เราและนักกีฬาทุกคนพึงมี

            สิ่งเหล่านี้ก็ควรได้รับการสนับสนุนุและเชิดชูเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนไปแปลง ไม่แน่ว่าในอนาคตการแบ่งด้วยเพศในประเภทกีฬาต่างๆ อาจกลายเป็นเรื่องเชยไปแล้วก็ได้

 

อ้างอิง

https://www.teamusa.org/About-the-USOPC/Leadership/Board-of-Directors/Susanne-Lyons

https://apnews.com/article/winter-olympics-sports-swimming-track-and-field-school-athletics-df846898c2bebf39d724ef303170c774

https://www.nytimes.com/2022/06/19/sports/fina-transgender-women-elite-swimming.html

0 ความคิดเห็น

Ask OKMD AI