ปลาสลิดช่วยด้วย! ซูเปอร์ฮีโร่ไร้หัว
ปลาสลิดช่วยด้วย! ซูเปอร์ฮีโร่ไร้หัว
หลายธุรกิจพบกับ Disruption ซึ่งถ้าแปลคำคำนี้แบบตรงตัวก็คือ ‘หยุดชะงัก’ ถึงแม้มีเงินทุนหนาก็ใช่จะการันตีความสำเร็จ ผู้ประกอบการหลายคนกำลังเผชิญหน้ากับดิสรัปชั่น โดยเฉพาะจากแพลตฟอร์มต่างๆ การเปลี่ยนผ่านนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำอย่างไรเราจึงจะอยู่รอด คือเป็นความท้าทายที่ยากจะคาดเดา
จากเคยมีธุรกิจสตูดิโอถ่ายภาพชื่อดังอันดับต้นๆ ของเมืองไทย แต่แล้ววันหนึ่งธุรกิจดังกล่าวก็มีอันต้องปิดตัว ความคิดอยากเปลี่ยนอาชีพแวบเข้ามาในหัว ทว่าสำหรับ คุณตุ้ม-ปฤษณา วิมลศิริ ณ ตอนนั้นเป็นเรื่องน่าอายเสียด้วยซ้ำ
จากเคยยืนอยู่จุดสูงสุดของวงการสตูดิโอถ่ายภาพ จู่ๆ เปลี่ยนมาเป็นแม่ค้าขายปลาสลิด เดิมพันครั้งนี้จะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว ไม่มีอะไรการันตี นอกจากหัวใจที่เข้มแข็ง ผนวกกับซูเปอร์ฮีโร่อย่างปลาสลิดกระซิบบอกเธอว่า...งานนี้คงต้องเสี่ยง
จุดประกายให้คุณตุ้มคิดใคร่ครวญถึง ‘ปลาสลิด’ ของดีบางปะกง โดยคิดทำธุรกิจอาหารแปรรูป นำปลาสลิดซึ่งเป็นปลาพื้นถิ่นอำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา มาดัดแปลงทำเป็นชิ้นพอดีคำ เหมือนที่เธอเคยทำเป็นอาหารให้ลูกกิน โดยนำปลาสลิดมาแปรรูปทำเป็นปลาสลิดแดดเดียว
ถึงตรงนี้เกิดมีคำถามสงสัยขึ้นมากะทันหัน ว่าทำไมปลาสลิดต้องตัดหัว คำตอบที่ได้รับคือ ปลาสลิดเป็นปลาที่มีมันมาก โดยเฉพาะในส่วนท้องหรือพุงปลา ซึ่งก่อนจะนำมาคลุกเคล้าเกลือเพื่อแปรรูปจะต้องควักไส้ ควักพุง ตัดหัวออก เพื่อเวลาตากแดดแล้วปลาจะได้แห้งสนิท ไม่มีกลิ่นเหม็นเน่า
อีกส่วนก็เพื่อให้เกลือที่คลุกเคล้าตัวปลานั้นซึมซาบเข้าสู่เนื้อปลาได้ทั่ว มีความเค็มเท่ากันทั้งตัว เมื่อนำหัวและพุงปลาออกแล้ว เกลือจะเข้าไปแทนที่ เป็นการยับยั้งแบคทีเรียที่จะทำให้ปลาเน่า และเมื่อนำไปตากแดดให้แห้งสนิท ก็จะช่วยถนอมอายุของปลาสลิดให้สามารถเก็บไว้กินได้นานขึ้น
เหนือไปกว่านั้น ด้วยความรักของแม่ที่อยากให้ลูกได้กินปลาสลิดที่อร่อย มีประโยชน์ ในรูปแบบที่ง่าย ไม่มีก้าง จึงหาวิธีเลาะเอาก้างออก แล้วหั่นเป็นชิ้นเต๋า พอดีคำ เคยทำให้ลูกกินอย่างไรก็ทำขายลูกค้าแบบนั้น แถมนั่นยังเป็นที่มาของชื่อแบรนด์ ‘ปลาสลิดพอดีคำ’
การตลาดผ่านเฟซบุ๊ก สื่อโซเชียลมีเดียที่นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงแพลตฟอร์มธุรกิจหลายแขนง เธอตั้งใจเขียนถ่ายทอดเรื่องราวการทำธุรกิจใหม่ลงในเพจ และบังเอิญเกิดไปโดนใจโปรดิวเซอร์รายการโทรทัศน์ดังอย่าง ‘แจ๋ว’ ทางช่องสาม จึงได้รับเชิญให้ไปออกรายการ ได้พื้นที่สื่อหลักช่วยป่าวประกาศบอกกับคนทั้งประเทศ
เมื่อมียอดสั่งซื้อเข้ามามาก จึงจำเป็นต้องขยายไลน์การผลิต ซึ่งพบว่าการผลิตด้วยวิธีการเดิมนั้นใช้ไม่ได้ผล โดยเฉพาะในช่วงแรก ปัญหาหนึ่งที่พบเจอและทำให้ปวดหัว คือการจัดส่งสินค้าไปยังต่างจังหวัดยังไม่ได้มาตรฐาน ปลาสลิดไม่กรอบเหมือนทอดเสร็จใหม่ๆ จึงจำเป็นต้องมองย้อนศร ไล่กระบวนการผลิตว่าปัญหาที่ว่าเกิดขึ้นจากตรงไหน
พบว่าปลาสลิดในแต่ละฤดูกาลมีความชื้นไม่เหมือนกัน เช่น หน้าหนาว ปลาสลิดจะมีมันเยอะ การตากเพียงแดดเดียวอาจยังทำให้มีความชื้นอยู่มาก จึงต้องเพิ่มอุณหภูมิและเวลาในการทอดปลาสลิดในแต่ละฤดูกาล ซึ่งใช้เวลาไม่เท่ากัน การลองผิดลองถูกด้วยตนเองจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ
จากตั้งกระทะใบบัว ตั้งเตาทอดในโรงรถ สู่การพัฒนา ปรับปรุงคุณภาพและสายงานการผลิต จนเธอเริ่มตั้งเป็นโรงงาน เพื่อขอ อย. จากสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา ก่อนตัดสินใจนำสินค้าเข้าไปขายในตลาดโมเดิร์นเทรด
ปัจจุบันได้เพิ่มเติมรสชาติจากดั้งเดิม ด้วยการออกซีรีส์ ‘สลิดแซ่บ’ อย่างปลาสลิดสามรส ปลาสลิดกะเพรา ปลาสลิดผัดพริกขิง และปลาสลิดผัดพริกแกง
สุดท้าย...ท้ายสุด มี 10 เมนูปลาสลิดจานอร่อยให้นำไปประยุกต์ทำดู กับทิ้งข้อคิดให้กับใครหลายคนที่กำลังมองหาสินค้าประจำท้องถิ่นบ้านเกิดสักอย่างหนึ่งเพื่อต่อยอดว่า
“อย่ามองเรื่องไกลตัว แต่ให้มองเรื่องใกล้ตัวไว้ก่อน เช่น เราชอบอะไร เรารักอะไร ให้เราทำอย่างนั้น เมื่อถึงวันหนึ่งเราจะมองเห็นทางไปของมันเอง”
เหมือนที่ซูเปอร์ฮีโร่ไร้หัวอย่าง ‘ปลาสลิด’ ช่วยกู้สถานการณ์ชีวิตเธอและครอบครัวไว้ทัน
---
10 เมนูปลาสลิด...ปลาสลิดทำอะไรก็อร่อย
สาวกปลาสลิดรีบล้อมวงฟังทางนี้ ไม่ผิด...ถ้าจะบอกว่าปลาสลิดเป็นเมนูสามัญประจำสำรับครัวไทย บ้านไหนๆ ก็ชอบกินปลาสลิด ง่ายที่สุดคือเอาไปทอด เป็นปลาสลิดแดดเดียว เมนูโปรดของใครหลายคน
หรือมื้อนี้ใครอยากมีเมนูปลาสลิดที่แปลกไป เรามีเมนูอร่อยให้คุณเป็นไอเดียปรุงปลาสลิดที่คุ้นเคยให้เป็น 10 เมนูปลาสลิดจานเด็ด...จานโดนตำ
1. มะม่วงกะปิปลาสลิด
หน้าตาคล้ายส้มตำที่คุ้นเคย แต่เปลี่ยนจากเส้นมะละกอมาเป็นมะม่วงเปรี้ยวฝานบางๆ ชอบมากสุดคือมะม่วงแก้วขมิ้น รองลงมาคือมะม่วงปลาตะเพียน หรือถ้าหาไม่ได้ก็ให้ใช้มะม่วงน้ำดอกไม้ดิบก็ได้ แต่อย่างหลังนี่เปรี้ยวปรี๊ด เอามาตำกับน้ำกะปิปรุงรส ส่วนผสมตามสูตรที่ให้ ลองปรุงและชิมรสดูจนกลมกล่อม ระวังเค็มจากกะปิและยั้งๆ น้ำปลาไว้บ้าง ก่อนใส่มะม่วง สำคัญคือตบท้ายด้วยปลาสลิดทอดกรอบ
ส่วนประกอบ
- มะม่วงเปรี้ยว
- ถั่วฝักยาว
- มะเขือเทศสีดา
- พริกแดงจินดา
- กระเทียม
- กะปิ
- น้ำตาลมะพร้าว
- น้ำมะขามเปียก
- น้ำมะนาว
- น้ำปลา
- ปลาสลิด
วิธีทำ
- ตำกระเทียม พริก ถั่วฝักยาว และมะเขือเทศพอบุบ
- ปรุงรสน้ำกะปิ ส่วนผสมมีน้ำตาลมะพร้าว น้ำมะขามเปียก น้ำมะนาว
- น้ำปลา ระวังรสชาติเค็มจากกะปิและน้ำปลา อย่าใส่เยอะ ใส่น้ำตาลมะพร้าวเป็นพื้นฐาน เพิ่มความจัดจ้านด้วยน้ำมะขามเปียกและน้ำมะนาว เมื่อได้รสชาติน้ำกะปิถูกใจแล้ว.
- ใส่มะม่วงฝานบางลงไปคลุกเคล้าให้ชุ่ม ตักใส่จาน โรยปลาสลิดทอดไว้ด้านบน พร้อมเสิร์ฟ
2. น้ำพริกมะขามพริกลูกโดดปลาสลิด
ถึงฤดูมะขามติดฝักไปเสียทุกก้านกิ่ง เลือกฝักที่อ่อนจริงๆ ไม่อย่างนั้นน้ำพริกมะขามอาจออกรสขมได้เพราะเม็ดเริ่มแก่ เอามาล้างและขูดผิวสีน้ำตาลออกจนเกลี้ยงเกลา ก่อนลงมือตำและผัดเครื่อง ออกมาเป็นเมนูน้ำพริกมะขามพริกลูกโดดปลาสลิด อร่อยเด็ดอย่าบอกใคร
ส่วนประกอบ
- มะขามอ่อน
- เกลือ
- กะปิ
- น้ำตาลมะพร้าว
- หมูสับ
- น้ำมันพืช
- ผงปรุงรส
- กระเทียม
- พริกขี้หนูสวน
- ปลาสลิด
วิธีทำ
- นำมะขามอ่อนที่ขูดผิว ล้างทำความสะอาดอย่างดี นำมาโขลกกับเกลือ เพื่อไม่ให้สีเปลี่ยนเป็นดำ หรือจะลัดขั้นตอนนำไปปั่นในเครื่องปั่นอาหารก็ได้ แต่ระวังจะละเอียดเกิน พักไว้
- โขลกกระเทียม พริกขี้หนูสวน ถ้าชอบเผ็ดให้ใส่พริกเยอะหน่อย แต่ปกติน้ำพริกมะขามจะไม่เผ็ดมาก ตามด้วยกะปิ และน้ำตาลมะพร้าว นำมะขามอ่อนที่โขลกไว้ลงไปผสม พักไว้
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน นำมะขามอ่อนและเครื่องที่โขลกไว้ลงไปผัดจนกลิ่นหอม ใส่หมูสับลงไปรวนจนสุก
- ชิมรส ถ้ายังขาดหวานให้เติมน้ำตาล ขาดเค็มเติมเกลือตามใจชอบ ส่วนรสเปรี้ยวนั้นกลมกล่อม เพราะได้จากมะขามอ่อนตามชื่อน้ำพริก
- โรยพริกขี้หนูสวนแต่งหน้า และที่ขาดไม่ได้คือเครื่องเคียงอย่างปลาสลิดทอดกรอบ เอาลงไปคลุกหรือป้ายน้ำพริกมะขาม กินกับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยมาก
3. ปลาสลิดผัดพริกเหลือง
เมนูนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากปลาดุกผัดพริกเหลือง ปกติชอบใช้ปลาดุกตัวเล็กหั่นบาง ทอดน้ำมันใหม่จนกรอบ เคี้ยวได้หมดไม่เว้นแม้แต่ก้าง ซึ่งปลาสลิดเองเมื่อทอดกรอบก็ครือกัน เมื่อเอามาเข้าสูตรผัดพริกเหลืองยิ่งอร่อย เผลอๆ จะลืมแฟนเก่าอย่างปลาดุกผัดพริกเหลืองไปเลย
ส่วนประกอบ
- พริกเหลือง
- กระเทียมจีน
- พริกไทย
- พริกขี้หนูสวน
- กะปิ
- ใบมะกรูดซอย
- น้ำตาลทราย
- ซอสน้ำมันหอย
- ซอสปรุงรส
- ผงปรุงรส
- น้ำเปล่า
- เหล้าจีน
- น้ำมันพืช
- ปลาสลิด
วิธีทำ
- โขลกพริกไทย กระเทียมจีน พริกเหลือง พอหยาบ ถ้าชอบรสเผ็ดใส่พริกขี้หนูสวนลงไปเสริม เพราะพริกเหลืองไม่เผ็ดเลย ใส่กะปิลงไปเล็กน้อย พักไว้
- ตั้งกระทะใส่น้ำมัน นำส่วนผสมที่โขลกลงไปผัดจนกลิ่นหอม เติมน้ำลงไประหว่างผัดเพียงเล็กน้อย ใส่ซอสปรุงรส (ฝาเขียว) น้ำตาลทราย ซอสน้ำมันหอย ผงปรุงรส น้ำเปล่าและเหล้าจีนเล็กน้อย ชิมให้ได้รสกลมกล่อม ไม่เค็มมาก
- ปิดไฟ (ขั้นตอนนี้สำคัญ เพื่อไม่ให้ปลาสลิดคลายความกรอบ) ใส่ปลาสลิดทอดกรอบลงไปคลุกเคล้าในกระทะ ตบท้ายด้วยใบมะกรูดซอย ตักใส่จาน
4. กะหล่ำปลีผัดน้ำปลาโรยปลาสลิด
เมนูนี้ทำง่ายมาก แต่มีเคล็ดลับ ควรเลือกใช้กระทะจีนในการผัด และคำนวณเวลาลงกระทะให้พอดี ไม่มาก-ไม่น้อยเกิน เพราะถ้าผัดเอาขึ้นเร็ว กะหล่ำปลียังไม่สุกดี กินไม่อร่อย หรือผัดนานไป สุกเกินก็จะกลายเป็นผัดผักธรรมดาไปเสียฉิบ และถ้าจะให้ดีต้องมีกลิ่นกระทะไหม้นิดๆ ติดกะหล่ำปลี จึงจะถูกต้อง เต็มสิบไม่หักสักคะแนน
ส่วนประกอบ
- กะหล่ำปลี (เลือกหัวใหญ่ แกะกาบ เฉือนส่วนโคนที่เป็นก้านแข็งออก)
- กระเทียมจีน
- น้ำปลาอย่างดี ถ้าไม่ดีอย่าเอามาผัด น้ำปลาดีง่ายๆ เลยคือราคาแพง
- ปลาสลิด
วิธีทำ
- ตั้งกระทะจีนใส่น้ำมัน รอจนร้อนจัด
- เอากะหล่ำปลีที่แกะและล้างไว้ (ให้มีน้ำติดใบ) พร้อมกระเทียมจีนซอยหรือทุบหยาบๆ เอาลงกระทะพร้อมกัน อาจมีไฟท่วมกระทะขึ้นมา ไม่ต้องตกใจ แป๊บเดียวเดี๋ยวไฟก็หายไป
- ใส่น้ำปลาวนขอบกระทะประมาณ 2-3 รอบ ผัดอีกไม่นาน โดยไม่ต้องหรี่ไฟ
- เบ็ดเสร็จใช้เวลาผัดกะหล่ำปีหลังลงกระทะประมาณ 30 วินาที ตักใส่จาน โรยปลาสลิดทอดกรอบตามชอบ ยกเสิร์ฟ
5.ลาบทอดปลาสลิด
เอาใจสายแซ่บกับเมนูลาบที่คุ้นเคย ปกติเรากินลาบหมู พลิกแพลงอีกนิดคือทำเป็นลาบทอด อร่อยไปอีก เลยเกิดไอเดียเอาปลาสลิดทอดกรอบมาทำเมนูแซ่บอีสานดูสิ ผลปรากฏเข้ากั๊น...เข้ากัน เพียงแต่เมนูนี้ต้องเติมน้ำตาลทรายลงไปตัดรสด้วยนิดหน่อย ปกติลาบหมูสูตรคนอีสานแท้จะไม่ใส่น้ำตาลโดยเด็ดขาด เพราะจะได้รสหวานจากเนื้อหมูอยู่แล้ว ส่วนลาบทอดปลาสลิดจานนี้รสชาติดี กินอร่อยไม่แพ้กัน
ส่วนประกอบ
- น้ำปลา
- น้ำตาลทราย
- ข้าวคั่ว
- ผงปรุงรส
- หอมแขก
- ผักชีฝรั่ง
- พริกป่น
- มะนาว
- ปลาสลิด
วิธีทำ
- ใส่เครื่องลาบ อันได้แก่ น้ำปลา ผงปรุงรส น้ำตาลทราย ข้าวคั่ว มะนาว ปรุงรสตามชอบ
- ใส่ปลาสลิดทอดกรอบลงไปคลุก เติมผักชีฝรั่ง หอมแขกซอย คลุกเคล้าแล้วตักใส่จาน ควรมีผักเคียงอย่างแตงกวา แครอท หรือกะหล่ำปลี
6. แกงส้มชะอมไข่ม้วนปลาสลิด
แกงส้มต้องกินคู่ปลาสลิด คุณยายสอนมาว่างั้น เลยนำมาประยุกต์ทำไข่ชะอมม้วน พร้อมกับใส่ปลาสลิดทอดลงไปในน้ำแกง ใครจะกินแบบทอดเป็นตัว หรือหั่นเป็นชิ้นพอดีคำก็ได้หมด เมนูนี้ต้องได้รสเปรี้ยวนำ หวานตาม และความเค็มจากปลาสลิดช่วยให้รสชาติกลมกล่อม พิถีพิถันม้วนไข่ หากินที่ไหนไม่ได้คงต้องทำกินเองแล้วละ
ส่วนประกอบน้ำแกงส้ม
- พริกแกงส้ม
- กระชาย
- น้ำเปล่า
- น้ำมะขามเปียก
- น้ำตาลมะพร้าว
- น้ำตาลทราย
- เกลือ
- น้ำปลา
- ผงปรุงรส
- กุ้งขาวหรือเนื้อปลาต้มสุก
- ปลาสลิด
ส่วนประกอบไข่ชะอมม้วน
- ไข่ไก่
- ชะอม
วิธีทำ
- โขลกกระชายกับกุ้งขาวหรือเนื้อปลา (นำกุ้ง หรือเนื้อปลาช่อน เนื้อปลานิล หรือตามที่หาได้ ไปต้มให้สุกก่อน เพื่อโขลกง่าย) ใส่พริกแกงส้มลงไป ปริมาณขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของพริกแกง และความชอบเผ็ด-ไม่เผ็ด
- ต้มน้ำเดือด ใส่พริกแกงที่โขลกกระชายและกุ้งขาวหรือเนื้อปลาลงไปต้ม ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำตาลมะพร้าว น้ำตาลทราย เกลือ น้ำปลา ให้ได้รสชาติกลมกล่อม เปรี้ยวนำ หวานตาม
- ตอกไข่ไก่ลงไปผสมกับยอดชะอม ตั้งกระทะแบน เทน้ำมันเล็กน้อย ค่อยๆ เทไข่ผสมชะอมลงไปทีละน้อย เมื่อสุกพอประมาณ ค่อยๆ ม้วนทับกันไปเรื่อยๆ จนได้ไช่ชะอมม้วน นำมาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ
- ใส่ไข่ชะอมม้วนลงไปในน้ำแกงส้ม โรยปลาสลิดไว้ด้านบน ยกเสิร์ฟ
7. ใบเหลียงผัดไข่ปลาสลิด
เมนูนี้ทำง่าย ทว่าอร่อยจริงจัง วัตถุดิบคือใบเหลียงที่อาจหาซื้อยากสักหน่อย แนะนำว่าต้องเดินหาซื้อในตลาดโซนผักพื้นเมืองภาคใต้ นำมาผัดกับไข่พร้อมกับโรยปลาสลิดทอดกรอบ ความอร่อยของใบเหลียงที่มีความมันอันเป็นเอกลักษณ์พิเศษ เข้ากันดีกับความกรุบกรอบของปลาสลิดหั่นเป็นชิ้น ได้ข้าวสวยร้อยๆ หนึ่งจาน...สุขใดในโลกนี้ไม่มีแล้ว
ส่วนประกอบ
- ใบเหลียง
- ไข่ไก่
- น้ำตาลทราย
- ซอสน้ำมันหอย
- ซอสปรุงรส
- น้ำเปล่า
- เหล้าจีน
- น้ำมันพืช
- กระเทียมจีน
- ปลาสลิด
วิธีทำ
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน ใส่กระเทียมจีนสับลงไปเจียว ใส่ไข่ไก่ผัดกับกระเทียมจนสุก ปริมาณไข่ตามที่ชอบ
- ใส่ใบเหลียงลงไปผัดจนสลด ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย ซอสน้ำมันหอย ซอสปรุงรส เหยาะเหล้าจีนเล็กน้อย เติมน้ำเปล่าลงในกระทะนิดหนึ่ง
- ตักใส่จาน โรยปลาสลิดทอดกรอบ
8. ข้าวผัดปลาสลิด
เมนูเอาใจคุณหนูๆ ที่เบื่อข้าวผัดหมูของมามี้ มื้อนี้เปลี่ยนมาเป็นข้าวผัดปลาสลิดดูไหม ข้าวที่ดีและเหมาะจะทำข้าวผัดต้องหุงสวย เรียงเม็ด ยิ่งถ้านำไปแช่เย็นไว้สักคืนหนึ่งจะยิ่งผัดอร่อย และเชฟจีนเคยแนะนำว่า ข้าวผัดที่ดีต้องมีกลิ่นไหม้กระทะเตะจมูกเล็กน้อย ส่วนปลาสลิดที่ใช้ ถ้ากรอบกรุบจะยิ่งอร่อยมากยิ่งขึ้น
ส่วนประกอบ
- ข้าวสวย
- น้ำตาล
- เกลือ
- ผงปรุงรส
- ไข่ไก่
- แครอท
- หอมหัวใหญ่
- ต้นหอมซอย
- ปลาสลิด
วิธีทำ
- นำข้าวสวย 1 ถ้วย โรยด้วยเกลือครึ่งช้อนชา น้ำตาล 2 ช้อนชา ผงปรุงรส 2 ช้อนชา
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน รอจนกระทะและน้ำมันร้อนได้ที่ ตอกไข่ไก่ลงไป ยีไข่จนสุก ใส่ข้าวสวยลงไป พร้อมผัก จากนั้นผัดจนข้าวสวยเปลี่ยนสีเป็นหลือง ใส่ปลาสลิดทอดกรอบลงไปผัด
- ตักใส่จานโรยต้นหอมซอย โรยปลาสลิดเพิ่มเติมตกแต่งส่วนบนอีกนิดหน่อย
9. ยำขนมจีนปลาสลิด
เอาใจสายแซ่บอีกสักเมนู เพราะยำขนมจีนที่ดีต้องนัวน้ำปลาร้า และไม่รู้ทำไมปลาร้ากับเส้นขนมจีนจึงเข้ากันแบบสุดๆ แนะนำว่าปลาร้าที่ดีต้องหอมชื่นใจ ง่ายสุดคือซื้อน้ำปลาร้าปรุงสำเร็จที่มีวางขายอยู่หลายหลากยี่ห้อ เลือกที่อร่อยถูกใจมากที่สุด หรือใครจะต้มน้ำปลาร้าเองก็ได้นะ แต่.ระวังกลิ่นจะตลบอบอวล
ส่วนประกอบ
- น้ำปลาร้า
- ขนมจีน
- พริกป่น
- ข้าวคั่ว
- ถั่วฝักยาวซอย
- หอมแขกซอย
- หมูยอ
- มะนาว
- ปลาสลิด
วิธีทำ
- น้ำปลาร้าปรุงรส 1 ทัพพี เติมน้ำมะนาวลงไป พร้อมข้าวคั่วและพริกป่น ปริมาณตามชอบ ความกลมกล่อมของน้ำปลาร้าจะช่วยให้เมนูนี้อร่อยแบบสุดๆ
- ใส่ขนมจีนลงไปพอประมาณ อย่าเยอะมาก เพราะตัวขนมจีนจะดูดน้ำปลาร้าจนแห้งได้ คลุกเคล้าจนเข้ากันดีแล้ว...
- ใส่ถั่วฝักยาวซอย หอมแขกซอย และหมูยอ หลายร้านนิยมใส่ชิ้นเนื้อปลาทู แต่เราเลือกโรยท็อปปิ้งด้วยปลาสลิดทอดกรอบ
10. ตำซั่วปลาสลิด
ส้มตำกลายเป็นอาหารประจำชาติไทยไปแล้ว เพราะเป็นที่นิยมในทุกภาคทั่วประเทศ ไม่ใช่เฉพาะแต่ภาคอีสานอันเป็นถิ่นกำเนิดของเมนูฮอตฮิตนี้ ส้มตำถูกแบ่งออกเป็นหลายประเภท ทั้งตำไทย ตำปลาร้า ตำกะปิ ตำมั่ว ตำซั่ว ฯลฯ วันนี้เลือกทำตำซั่วเพราะมีเส้นขนมจีน เข้ากันได้ดีกับปลาสลิดทอดกรอบ
ส่วนประกอบ
- มะละกอ
- กระเทียมไทย
- พริกขี้หนูสวน พริกแดงจินดา
- ถั่วฝักยาว
- มะเขือเทศสีดา
- มะเขือเหลือง (ถ้ามี)
- มะกอก (ถ้ามี)
- น้ำปลาร้าปรุงรส
- น้ำตาลมะพร้าว
- ขนมจีน
- ปลาสลิด
วิธีทำ
- ตำกระเทียมจนแหลก ใส่พริกขี้หนูสวนและพริกแดงจินดาปริมาณตามความกล้าหาญ ตำจนแหลก
- ใส่ถั่วฝักยาว มะเขือเทศสีดา ถ้ามีมะเขือเหลืองและมะกอกให้ฝานแต่เปลือกใส่ลงไปด้วย
- เติมน้ำปลาร้าปรุงรสลงไปในครก ถ้าคนอีสานแท้ๆ จะไม่ชอบน้ำตาลเลย หรือหาน้ำตาลมะพร้าวมาดับเค็มปลาร้าสักหน่อย
- บีบมะนาวลงไป ปรุงรสตามชอบ ชอบเปรี้ยวใส่เยอะ ไม่ชอบเปรี้ยวใส่น้อย
- ใส่เส้นมะละกอ ตามด้วยขนมจีน
- ตักใส่จาน โรยปลาสลิดทอดกรอบไว้ด้านบนให้ดูเด่น
ปลาสลิดเป็นได้มากกว่าปลาสลิด ตรงที่เราสามารถประยุกต์เอาไปทำเมนูอะไรก็อร่อยไปเสียทั้งหมด โดยเฉพาะเมนูไทยพื้นๆ เพียงแค่โรยปลาสลิดลงไป จานธรรมดาก็ดูมีคุณค่า ถือเป็นการยกระดับความน่ากิน ชวนน้ำลายสอ ปลาสลิดกรอบอร่อย ปลาสลิดดีงาม ปลาสลิดโดนใจ...มื้อนี้ลองจัดเต็มกับเมนูปลาสลิดกันดูไหม

