Notifications

You are here

บทความ

Local Alike การท่องเที่ยวชุมชน ที่เปิดโอกาสให้ทุก...

14 ธันวาคม 2023 1837 อ่านข่าวนี้ 11 เดือนก่อน 8



นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไทยถึง 183 ล้านคน ภายในระยะเวลาเพียง 5 ปี (พ.ศ. 2558 - 2563) จากข้อมูลของสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) พบว่านักท่องเที่ยวต่าวชาติมีจำนวนเพิ่มขึ้น 4 - 8% ต่อปี (ราว 3 ถึง 5 ล้านคนต่อปี) โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มองว่าประเทศไทยค่าใช้จ่ายไม่สูง อาหารอร่อย กิจกรรมหลากหลายตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนหลากหลายกลุ่ม ส่งผลให้ใน 5 ปีดังกล่าว อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวสร้างรายได้ให้แก่ประเทศไทยสูงถึง 9.04 ล้านล้านบาท

ที่ผ่านมา การส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีเสมอ ไม่ว่าจะเป็นแคมเปญ “ปีท่องเที่ยวไทย” (Visit Thailand Year) ในปี พ.ศ. 2530 ที่กลายเป็นต้นแบบการตลาดด้านการท่องเที่ยวให้หลายประเทศเดินตาม ส่วนแคมเปญ Amazing Thailand ในปี 2541-2542 ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ประเทศไทยปรับตัวหลังวิกฤตทางการเงินในเอเชีย พ.ศ. 2540 และยังคงรักษาจำนวนนักท่องเที่ยวให้เพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง 

พัฒนาการท่องเที่ยวไทย

 ประเทศไทยเริ่มมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวครั้งแรก ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2467 มีการส่งเรื่องราวของประเทศไทยไปเผยแพร่ที่สหรัฐอเมริกา และก่อตั้งแผนกโฆษณาของการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อเผยแพร่ประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักของชาวต่างประเทศ และอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย หลังคณะราษฎรเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตย มีการนําเสนอ โครงการและแผนบํารุงอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแก่คณะรัฐมนตรี ต่อเนื่องมาจนถึง พ.ศ. 2503 จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ก่อตั้งองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (อ.ส.ท.) เพื่อเป็นหน่วยงานที่ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวโดยเฉพาะ

จนมาถึง พ.ศ. 2522 รัฐบาลจึงผลักดันให้เกิดพระราชบัญญัติการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และจัดตั้งหน่วยงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) อย่างเป็นการ เพื่อวางแผนพัฒนาการท่องเที่ยวและกำหนดมาตรฐานการบริการ ในปี พ.ศ. 2543 เริ่มมีแนวคิดและหลักการเกี่ยวกับการพัฒนาการท่องเที่ยวรูปแบบ Homestay เข้ามา มีการเพิ่มมูลค่าและยกระดับการท่องเที่ยวชุมชนอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศไทย

ไผ-สมศักดิ์ บุญคำ ผู้ก่อตั้ง Local Alike มองเห็นความไม่สัมพันธ์กันของรายได้จากการท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นในประเทศไทยในแต่ละปี แต่เม็ดเงินเหล่านั้นกลับมาไม่ถึงชุมชน จึงค่อย ๆ ทดลองพัฒนารูปแบบการท่องเที่ยวชุมชน จนกลายมาเป็น Local Alike กิจการเพื่อสังคมด้านการท่องเที่ยวชุมชนและวัฒนธรรม 

ทำอย่างชาวบ้าน

https://localalike.com/about-us/

Local Alike ใช้โมเดลที่เน้นชุมชนเป็นสำคัญ ให้เจ้าบ้าน พัฒนาตนเองจนมีความพร้อมที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยว จัดกิจกรรมแพ็กเกจการท่องเที่ยว ออกแบบประสบการณ์ที่คนในพื้นที่ได้ร่วมสร้างสรรค์อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังร่วมมือกับบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ เพื่อสร้างการท่องเที่ยวชุมชนที่เข้มแข็ง ตอบโจทย์โครงการเพื่อสังคมที่สร้างผลลัพธ์อย่างยั่งยืนของทั้งสองฝ่าย ตัวอย่างเช่น การทำงานร่วมกับโครงการ Journey D ของแอร์เอเชีย ด้วยการจัดเวิร์กช็อปให้กับผู้นำชุมชน และพัฒนาการให้บริการในด้านต่าง ๆ ปรับเปลี่ยนประสบการณ์การท่องเที่ยวภายในชุมชนให้มีมาตรฐานที่ดีขึ้น

กว่า 7 ปีที่ผ่านมา Local Alike ผ่านประสบการณ์ด้านการจัดการท่องเที่ยวชุมชนมาอย่างยาวนาน เข้าไปทำงานร่วมกับชุมชนมากกว่า 100 ชุมชน 46 จังหวัดของประเทศไทย สร้างงานที่เพิ่มรายได้เสริมให้คนในชุมชนกว่า 2,000 งาน ร่วมมือกับบริษัทและหน่วยงานรัฐกว่า 50 แห่ง  และนำพานักท่องเที่ยว 32,000 คน จากทั่วโลกมาพบปะชุมชนเจ้าบ้าน คิดเป็นมูลค่าด้านการท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 54 ล้านบาท 

ฝ่าวิกฤตการท่องเที่ยว

บทความวิจัยการพัฒนาศักยภาพของวิสาหกิจเพื่อสังคมด้านการท่องเที่ยวในประเทศไทย โดย วิมลมาลย์ สวัสดีและอาแว มะแส อธิบายว่า เงื่อนไขความสำเร็จส่วนใหญ่ของวิสาหกิจเพื่อสังคมด้านการท่องเที่ยวคือ ภาวะผู้นำและวัฒนธรรมองค์กรที่มีการร่วมมือ มีพันธมิตรที่เชื่อมโยงเป็นเครือข่าย เป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่ความยั่งยืน รวมถึงผู้ถือหุ้นมีความมั่นคงทางการเงินจะคอยสนับสนุนการดำเนินงานของวิสาหกิจได้อย่างต่อเนื่อง

Local Alike ได้พิสูจน์ให้เห็นพลังของความร่วมมือ และเครือข่ายพันธมิตรที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ทำให้แม้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยจะทรุดหนักจากการปิดประเทศในระหว่างการระบาดของโควิด 19 แต่ Local Alike ก็ยังผ่านพ้นวิกฤตมาได้ด้วยการปรับตัวจากทรัพยากรที่พวกเขามีอยู่ในมือ

การเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายการท่องเที่ยวชุมชน ทำให้ Local Alike ได้คลุกคลีกับผลิตภัณฑ์จากชุมชนทุกภูมิภาคทั่วไทย ในช่วงเวลาที่ผู้คนไม่อาจเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างเคย พวกเขาจึงคิดหาวิธีนำผลิตภัณฑ์ชุมชนจากแต่ละท้องถิ่นส่งตรงให้ผู้บริโภคถึงบ้าน

Local Aroi (โลเคิล อร่อย) เป็นบริการอาหารพื้นบ้าน แนบประสบการณ์ความอร่อยแบบท้องถิ่นให้เหมือนกับได้ไปนั่งชิมรสชาติจากแหล่งกำเนิดของเมนู บอกเล่าวิถีชีวิต วัฒนธรรมของต้นตำรับผ่านจานอาหาร โดยออกแบบบริการจัดเลี้ยง เวิร์กช็อปสอนทำอาหาร ตามแต่ความเหมาะสมของแต่ละสถานที่และความต้องการของผู้จัดงาน ส่งเสริมให้ชุมชนได้มีทักษะการประกอบอาหารอย่างมืออาชีพ ให้มีศักยภาพในการจัดเลี้ยงอาหารนอกสถานที่อีกด้วย

Local Alot (โลเคิล อะล็อต) เป็นผลิตภัณฑ์ชุมชน ที่ถูกพัฒนาให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดและได้มาตรฐานสากล เพื่อให้เกิดการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นและชุมชนอย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ Local Alike ยังร่วมมือกับกลุ่มดุสิตธานี เพื่อแลกเปลี่ยนแนวคิดระหว่างพนักงานที่มีองค์ความรู้ด้านการบริการระดับสากล และคนในชุมชนที่เปิดรับนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังมีการจัดทำแพ็กเกจ Dusit Local Explorer กับโรงแรมในเครือดุสิตทุกแห่งทั่วประเทศ โดย 70% ของรายได้จะเข้าสู่ชุมชนโดยตรง อีก 30% Local Alike นำไปพัฒนาการท่องเที่ยวชุมชนอื่น ๆ ต่อไป

ความสำเร็จของ Local Alike จึงไม่ใช่ยอดขายที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด แต่เป็นความเหนียวแน่นของเครือข่ายผู้ประกอบการท่องเที่ยวชุมชนที่เกาะเกี่ยวกันไว้ในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดครั้งหนึ่งของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เพื่อให้ทุกคนสามารถเอาตัวรอดได้ด้วยพลังความคิดสร้างสรรค์ที่ยังคงไว้ซึ่งคุณค่าที่ตนเองยึดถือมาโดยตลอด


ข้อมูลอ้างอิง


URL อ้างอิง:

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เราใช้คุกกี้ (Cookie) เพื่อใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพเว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ นโยบายคุกกี้
ยอมรับ