เยี่ยมๆ มองๆ เมืองที่มีต้นไม้มากที่สุดในโลก
ต้นไม้ในเมืองนับว่ามีคุณค่าอเนกอนันต์ต่อเมือง
เพราะนอกจากช่วยฟอกอากาศให้กับเมืองแล้ว ยังช่วยลดอุณหภูมิของพื้นผิวถนน
ลดความร้อนจากปรากฏการณ์เกาะความร้อน (คือการที่แสงแดดกระทบกับพื้นดิน
อาคารบ้านเรือนในช่วงกลางวัน ทำให้มีการสะสมความร้อนและถ่ายเทออกสู่อากาศรอบๆ
เมื่อรวมตัวกันในปริมาณที่มากขึ้น ก็จะกลายเป็นเกาะความร้อน)
และเสริมสร้างระบบนิเวศที่สมดุลอีกด้วย
ต้นไม้จึงใช้เป็นดัชนีชี้วัดคุณภาพของเมืองได้อย่างดี
โดยเมืองไหนที่มีต้นไม้เยอะ ย่อมบ่งชี้ว่าเมืองนั้นเป็นเมืองที่มีคุณภาพ
เหมาะกับการอยู่อาศัย ส่งผลให้เมืองจำนวนมากหันมามุ่งเน้นการพัฒนาเมืองให้เป็นเมืองสีเขียว
ซึ่งจากการสำรวจของสำนักวิจัยต่างๆ ก็พบว่า
มีหลายเมืองประสบผลสำเร็จในการเพิ่มต้นไม้หรือพื้นที่สีเขียวให้มากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
โดยการสำรวจเหล่านี้ วัตถุประสงค์โดยตรงก็เพื่อจะสร้างความตระหนักรู้ในคุณค่าของต้นไม้ในเมือง
และช่วยให้เมืองต่างๆ วางแผนผังเมืองที่ดีในอนาคตได้ ส่วนโดยอ้อมก็ต้องยอมรับว่าสร้างความมีหน้ามีตาให้กับเมืองที่ติดอันดับมีต้นไม้สูงสุด
แต่มีหน้ามีตาอย่างนี้ ถือว่าดี
เพราะจะได้แข่งกันปลูกต้นไม้ให้เขียวชอุ่มไปทั้งโลก
สำหรับการสำรวจเมืองที่มีต้นไม้มากที่สุดในโลก หนึ่งในการสำรวจหรือจัดอันดับที่ได้รับการยอมรับจากประเทศต่างๆ ก็คือ การสำรวจใน Treepedia ของ Senseable City Lab แห่งสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts Institute of Technology - MIT) โดยล่าสุด สถาบันแห่งนี้ได้ร่วมมือกับ World Economic Forum (WEF) สร้างเว็บไซต์แผนที่ Treepedia ขึ้นมา เพื่อดึงข้อมูลจาก Google Street View มาคำนวณและประมวลผล ในการหาดัชนีมุมมองสีเขียวหรือปริมาณต้นไม้ในเมือง ปรากฏว่าผลจากการสำรวจ เมืองที่มีต้นไม้มากที่สุดในโลก 10 อันดับแรก ล้วนน่าสนใจ เรียงลำดับ ดังนี้
- เมืองแทมปา รัฐฟลอริดา
เป็นเมืองที่มีต้นไม้มากที่สุดในโลก อันดับหนึ่ง เมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันตกของรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา มีสัดส่วนของต้นไม้อยู่ที่ 36.1 % ต่อความหนาแน่นของประชากร 1,283 /km2 สาเหตุหนึ่งน่าจะมาจากนโยบายผลักดันเมืองให้เป็น Green Tampa ด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการกำจัดของเสียและรีไซเคิล การผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ รวมทั้งการเพิ่มพื้นที่สีเขียว การดูแลจัดการสวนสาธารณะ ป่า และเส้นทางสีเขียวอย่างจริงจัง
- เมืองสิงคโปร์
เป็นเมืองที่มีต้นไม้มากที่สุดในโลก อันดับสอง เมืองนี้มีสัดส่วนของต้นไม้อยู่ที่ 29.3% ต่อความหนาแน่นของประชากร 7,797/km2 เป็นเมืองที่ได้รับการโหวตเรื่องการจัดการสิ่งแวดล้อมได้ดีมาโดยตลอด และเป็นเมืองต้นแบบการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งผลจากการดำเนินนโยบาย Green City ของอดีตนายกรัฐมนตรี ลี กวน ยู เมื่อ 50 กว่าปีก่อน ทำให้ปัจจุบันสิงคโปร์เป็นเมืองสีเขียว ที่มีสวนสาธารณะมากมายกระจายอยู่ทั่วไป และพื้นที่สาธารณะมีเส้นทางเชื่อมโยงถึงพื้นที่สีเขียวทั้งโดยทางเดินและทางจักรยานอย่างสะดวกและปลอดภัย
- เมืองแวนคูเวอร์
เป็นเมืองที่มีต้นไม้มากที่สุดในโลก อันดับสาม เมืองนี้เป็นเมืองท่าชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐบริติชโคลัมเบีย ในแคนาดา เพิ่งได้รับการจัดอันดับล่าสุด เป็น 1 ใน 10 เมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก ประจำปีนี้ด้วย มีสัดส่วนของต้นไม้อยู่ที่ 25.9% ต่อความหนาแน่นของประชากร 5,249/km2 ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้แวนคูเวอร์มีต้นไม้หนาแน่นขนาดนี้ มาจากการขับเคลื่อนนโยบายการสร้างพื้นที่สีเขียวในเมืองเพิ่มขึ้น ด้วยการปลูกต้นไม้ 150,000 ต้นในเมือง และการทำให้ประชากรเมืองมีเวลาเดินเท้าอย่างน้อย 5 นาทีในพื้นที่สีเขียวนั่นเอง
- เมืองซาคราเมนโต รัฐแคลิฟอร์เนีย
เมืองหลวงของรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐเอเมริกา เป็นเมืองที่มีต้นไม้มากที่สุดในโลก อันดับสี่ โดยมีสัดส่วนของต้นไม้อยู่ที่ 23.6% ต่อความหนาแน่นของประชากร 1,800/km2 เมืองนี้แต่เดิมเป็นเมืองการค้าและการขนส่งที่สำคัญ ส่วนปัจจุบันเป็นเมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมสุขภาพ นอกจากนั้นเคยได้รับการจัดเป็นเมืองที่มีความหลากหลายมากที่สุดในอเมริกา โดยนิตยสาร Time เมื่อปี ค.ศ.2020 ส่วนแนวคิดเกี่ยวกับเมืองสีเขียว หรือ Sac-to-Zero นั้น มีการริเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.2017 ประกอบกับชาวเมืองให้ความสำคัญกับการรักษาต้นไม้ทุกต้น ทำให้เป็นเมืองที่มีต้นไม้เยอะมาก
- เมืองแฟรงก์เฟิร์ต
เมืองที่มีชื่อเสียงของเยอรมนี ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำไมน์ เป็นเมืองที่มีต้นไม้มากที่สุดในโลก อันดับห้า เมืองนี้ขึ้นชื่อเรื่องการให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชากรเมืองเป็นอย่างมาก โดยมีการผลักดันการเพิ่มพื้นที่สีเขียวเข้าไปในนโยบายพัฒนาเมืองที่น่าอยู่และยั่งยืน ที่เรียกว่า Frankfurt 2030 และจากผลสำรวจล่าสุดแฟรงก์เฟิร์ตมีสัดส่วนของต้นไม้อยู่ที่ 21.5% ต่อความหนาแน่นของประชากร 3,000/km2
- เมืองเจนีวา
เมืองแห่งศูนย์กลางทางการเงินและการทูตของสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่บริเวณต้นแม่น้ำโรน ซึ่งไหลออกจากทะเลสาบเจนีวา เมืองนี้เป็นเมืองที่มีต้นไม้มากที่สุดในโลก อันดับหก ที่เพิ่งได้รับการจัดอันดับเป็น 1 ใน 10 เมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก ประจำปี ค.ศ.2022 เช่นเดียวกับแวนคูเวอร์ นอกจากนั้นยังได้ชื่อว่าเป็น เมืองแห่งสวนสาธารณะ อีกด้วย โดยมีสัดส่วนของต้นไม้อยู่ที่ 21.4% ต่อความหนาแน่นของปประชากร 12,000/km2
- เมืองอัมสเตอร์ดัม
เมืองหลวงของเนเธอร์แลนด์ ที่ได้ฉายาว่า เมืองหลวงของจักรยานโลก เพราะผู้คนเป็นมิตรกับจักรยานมากที่สุดในโลก และยังได้รับการจัดอันดับเป็นเมืองน่าอยู่และประชากรมีสุขภาพดีที่สุดในโลกบ่อยๆ นอกจากนั้นเมืองยังสะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย สิ่งแวดล้อมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยคลองสวยงาม ต้นไม้เขียวชอุ่ม สวนสาธารณะมีมากกว่า 30 แห่ง ซึ่งเป็นผลมาจากแผนพัฒนาเมืองที่เน้นเพิ่มพื้นที่ให้กับคน ลดพื้นที่รถยนต์ ไม่ถมคลองหรือทำลายสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการขี่จักรยานและการเดินเท้า โดยมีโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้ออำนวย สำหรับสัดส่วนของต้นไม้อยู่ที่ 20.6% ต่อความหนาแน่นของประชากร 4,908/km2 จัดเป็นเมืองที่มีต้นไม้มากที่สุดในโลก อันดับเจ็ด
- เมืองซีแอตเทิล
อยู่ที่รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เป็นเมืองที่มีต้นไม้มากที่สุดในโลก อันดับแปด โดยมีสัดส่วนของต้นไม้อยู่ที่ 20% ต่อความหนาแน่นของประชากร 3,151/km2 ซึ่งก่อนหน้านี้เมืองนี้ก็ได้มีการส่งเสริมการปลูกต้นไม้และเรียกคืนพื้นที่สวนจำนวนมากกลับสู่เมือง ตามเป้าหมาย The Green Seattle Partnership ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และอาสาสมัครหลายพันคนด้วย จนได้รับการยอมรับว่าเป็นเมืองที่ยั่งยืนที่สุดในอเมริกา
- เมืองโตรอนโต
เมืองที่ใหญ่ที่สุดในแคนาดา และเป็นหนึ่งในไม่กี่เมืองของอเมริกาเหนือที่เหมาะกับการหลบภัยโลกร้อนอย่างยิ่ง เนื่องจากมีต้นไม้และสวนสาธารณะอยู่รอบเมืองมากมาย โดยจัดเป็นเมืองที่มีต้นไม้มากที่สุดในโลก อันดับเก้า ด้วยสัดส่วนของต้นไม้ที่ 19.5% ต่อความหนาแน่นของประชากร 4,150/km
- เมืองไมอามี
เมืองทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ใหญ่เป็นอันดับเจ็ดของประเทศ และขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองตากอากาศและอาบแดดระดับโลก ด้วยภูมิประเทศที่ถูกขนาบด้วยทะเลสองฟากฝั่งเกิดเป็นหาดทรายขาวโค้งเว้าสวยงามยาว 7 ไมล์ อีกทั้งยังเป็นเมืองที่ได้รับการโหวตจากนิตยสารฟอบส์ให้เป็นเมืองที่สะอาดที่สุดในอเมริกา เมื่อปี ค.ศ.2008 โดยวัดจากคุณภาพอากาศ ปริมาณพื้นที่สีเขียว น้ำประปา ระบบกำจัดขยะ และความสะอาดตามถนนหนทางอีกด้วย จึงไม่น่าแปลกที่เมืองนี้จะเป็นเมืองที่มีต้นไม้มากที่สุดในโลก อันดับสิบ โดยมีสัดส่วนของต้นไม้อยู่ที่ 19.4% ต่อความหนาแน่นของประชากร 4.770/km2
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านป่าในเมืองขององค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ ก็ได้ออกมาตอกเตือนว่า นอกจากให้ความสำคัญกับปริมาณต้นไม้แล้ว ต้องให้ความสำคัญกับการเข้าถึงต้นไม้ด้วย โดยทำให้ผู้คนได้รับรู้กับการมีต้นไม้ ได้เห็น ได้สัมผัสต้นไม้ในเมืองที่เขาอาศัยมากที่สุด เมืองจึงจะมีคุณภาพอย่างแท้จริง
ข้อมูลอ้างอิง : http://senseable.mit.edu/treepedia