ยกป่ามาไว้ในเมือง ที่ ‘สวนป่าเบญจกิติ’ สวนสาธารณะแห่งใหม่ใจกลางกรุง

25 ธันวาคม 2023
|
162 อ่านข่าวนี้
|
12


คนกับป่าผูกพันกันมายาวนาน เพราะป่าคือแหล่งกำเนิดความหลากหลายทางธรรมชาติ ที่สร้างระบบนิเวศที่สมดุลให้แก่ทุกชีวิต หรือพูดง่ายๆ ป่าเป็นทั้งแหล่งต้นน้ำ อาหาร ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค ที่ช่วยให้คนมีชีวิตอยู่ได้

การมีป่า จึงหมายถึง การมีชีวิต

ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นคนเมืองหรือคนนอกเมือง ต่างก็ต้องการพื้นที่ป่าด้วยกันทั้งสิ้น โดยเฉพาะคนเมืองที่อยู่อาศัยกันอย่างหนาแน่น การยกป่ามาไว้ในเมือง จะช่วยให้คนมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น สุขภาพแข็งแรง และยังช่วยกอบกู้ฟื้นฟูเมืองและสิ่งแวดล้อม จากวิกฤต Climate Change หรือสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงได้อีกด้วย

ป่าในเมือง จึงเป็นปอดขนาดใหญ่ที่หลายๆ เมืองให้ความสำคัญมากขึ้น โดยคำว่า ป่าในเมือง จะหมายถึง พื้นที่สีเขียวที่มีความหลากหลายของชนิดพันธุ์ และคนสามารถเข้าใช้ประโยชน์ได้อย่างสะดวกสบาย ร่มรื่น นั่นคือต้องมีต้นไม้ใหญ่เป็นองค์ประกอบหลัก แต่รูปแบบของป่าจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับความต้องการใช้ประโยชน์ของเมืองนั้นๆ

สำหรับกรุงเทพฯ เมืองหลวงที่มีสัดส่วนพื้นที่สีเขียวน้อยแสนน้อย ก็มีการตื่นตัวเกี่ยวกับการจัดสรรโครงการป่าในเมืองมากขึ้นเช่นกัน โดยการพัฒนาเป็นลักษณะสวนป่าในสวนสาธารณะหลายแห่ง อาทิเช่น ที่สวนลุมพินี สวนรถไฟ สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เป็นต้น

และล่าสุดคือ ที่สวนป่าเบญจกิติ ที่มีการยกป่ามาไว้ที่นี่ เป็นลักษณะป่าในเมืองที่มีความพิเศษหลากหลายประการ ซึ่งตอนนี้กำลังได้รับความนิยมจากประชาชนคนกรุงอย่างล้นหลาม จึงนับเป็นเรื่องที่น่ายินดี และตอกย้ำให้เห็นว่า คน ป่า เมือง มีความสำคัญต่อกันและกัน

โดยหากจะกล่าวย้อนถึงความเป็นมาของ สวนป่าเบญจกิติ ก็ต้องบอกว่า เริ่มมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2535 เมื่อโรงงานยาสูบแห่งประเทศไทย ได้น้อมเกล้าถวายที่ดินบริเวณโรงงานยาสูบเก่าขนาด 450 ไร่ บนถนนรัชดาภิเษก ที่อยู่ติดกับศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สำหรับจัดทำเป็นสวนสาธารณะ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 5 รอบ และสวนแห่งนี้ได้รับพระราชทานชื่อว่า สวนเบญจกิติ

จากนั้นกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง และกองทัพบก ก็ได้ร่วมกันดำเนินการพัฒนาสวนทันที แบ่งเป็นส่วนของสวนน้ำ 130 ไร่ สวนระยะที่หนึ่ง 61 ไร่ และสวนป่าเบญจกิติ ซึ่งเป็นสวนระยะที่สองและสาม ครอบคลุมพื้นที่ 259 ไร่ ซึ่งปัจจุบันได้เปิดบริการอย่างเป็นทางการทุกส่วนแล้ว เพียงแต่สวนป่าเบญจกิติ เพิ่งเปิดให้เข้าชมเมื่อไม่นานนี้ โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของสวนเบญจกิติ

ที่สำคัญ เป็นสวนป่าและสวนสาธารณะแห่งใหม่ใจกลางกรุงที่สมบูรณ์ที่สุด ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของสวนเบญจกิติ และสามารถเดินเชื่อมต่อไปยังสวนลุมพินีได้ด้วย

สำหรับความพิเศษของสวนป่าเบญจกิติแห่งนี้ จะอยู่ที่การนำแนวคิดของ ป่าในเมือง มาใช้ในการออกแบบและวางผังภูมิสถาปัตย์ และมีการพัฒนาพื้นที่ทั้งหมดในเชิงอนุรักษ์เพื่อรักษาสถาปัตยกรรมเดิมเอาไว้ โดยได้รับการออกแบบจาก บริษัทสถาปนิกชุมชนและสิ่งแวดล้อม อาศรมศิลป์ จำกัด ภายใต้การแบ่งพื้นที่เป็น 3 ส่วนหลักๆ ได้แก่ หนึ่ง-พื้นที่ทางธรรมชาติ ประกอบด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำกับพื้นที่สีเขียว พื้นที่ชุ่มน้ำมีบึง 4 บึงที่รองรับน้ำได้ถึง 128,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งสามารถดึงมาใช้ในช่วงฤดูแล้งเพื่อประหยัดน้ำสำหรับรดและดูแลสวนได้เป็นอย่างดี พร้อมช่วยบำบัดน้ำเสียด้วยวิธีธรรมชาติด้วย ส่วนพื้นที่สีเขียวมีต้นไม้เดิม 1,733 ต้น และต้นไม้ลงใหม่อีก 7,1555 ต้น โดยใช้พรรณไม้ที่เป็นพืชท้องถิ่นเดิมในกรุงเทพฯ กว่า 300 ชนิด มาจัดเป็นสวนแบบวนเกษตรที่มีทั้งพรรณไม้พื้นบ้านและพรรณไม้ชายน้ำ ทำให้พื้นที่ส่วนนี้เป็นพื้นที่การเรียนรู้เรื่องพรรณไม้ในระบบนิเวศที่แตกต่างกันไปและน่าสนใจอย่างยิ่ง 

สอง-พื้นที่เส้นทางสำหรับออกกำลังกาย แบ่งเป็นทางเดินลัดเลาะในธรรมชาติ 5.8 กิโลเมตร เส้นทางวิ่ง 2.8 กิโลเมตร และเส้นทางจักรยาน 3.4 กิโลเมตร ซึ่งส่วนนี้จะโดดเด่นด้วยทางเดินสกายวอล์ก รวมระยะทาง 1.6 กิโลเมตร โดยระหว่างทางเต็มไปด้วยบรรยากาศสวยงามโรแมนติก ขณะที่ทางเดินลัดเลาะในธรรมชาติ ก็โดดเด่นไม่น้อยหน้ากัน เพราะให้ประโยชน์ทั้งเดินออกกำลังกายและศึกษาพรรณไม้น้ำจืดชนิดต่างๆ รวมถึงระบบนิเวศของสิ่งมีชีวิตในแหล่งน้ำอย่างใกล้ชิดไปในตัว

และสาม-พื้นที่อาคาร ที่มีการปรับปรุงโกดังเก็บใบยาสูบและโรงงานผลิตยาสูบ เป็นอาคารกีฬาในร่มและอาคารพิพิธภัณฑ์ ที่รองรับคนได้มากถึง 3,000 คน มีแปลงนาสาธิตและอัฒจันทร์รองรับการจัดกิจกรรมได้กว่า 15,000 คนทีเดียว

นอกจากนั้นพื้นที่ของสวนป่า อย่างที่รู้คือเดิมเป็นที่ตั้งของโรงงานยาสูบแห่งประเทศไทย หลังจากรื้อถอนอาคารโรงงานเพื่อดำเนินการพัฒนาเป็นสวน จึงเกิดเศษวัสดุมากมาย ดังนั้นแทนที่จะทิ้งให้เสียของ ก็ได้มีการนำมาใช้ใหม่ในงานก่อสร้างโครงสร้างในสวน เช่น อิฐโครงสร้างของอาคารนำมาใช้ในการทำระบบทางเดินน้ำในส่วนของคลองระบายน้ำ หรือเศษคอนกรีตทั่วไปนำมาทุบให้เล็กลง เพื่อทำหน้าที่เป็นเหมือนหินธรรมชาติรองรับน้ำไหลบ่าบนผิวดิน ป้องกันการกัดเซาะและทำให้ฐานแน่น ฯลฯ

เรียกว่า เป็นสวนป่าที่ออกแบบให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเป็นมิตรกับชาวเมืองในทุกมิติ

เพราะฉะนั้น เมื่อได้เข้าไปสัมผัสกับสวนป่าเบญจกิติแห่งนี้แล้ว ทุกคนจึงรู้สึกเหมือนกับเดินอยู่ในป่าจริงๆ เพียงแต่เป็นป่าที่ยกเอามาไว้ในเมืองเท่านั้นเอง... 


ข้อมูลอ้างอิง : www.wikipedia.org

0 ความคิดเห็น

Ask OKMD AI