เด็ก ๆ จะได้ดูอะไรหลัง 100 ปี Disney ทิศทางธุรกิจปี 2024 สนุกนำ ประเด็นสังคมตาม

10 มกราคม 2024
|
1695 อ่านข่าวนี้
|
15



แม้ว่าผู้คนปัจจุบันจะเป็นผู้บริโภคหัวก้าวหน้า แต่การตามพฤติกรรมผู้บริโภคให้ทันคู่กับสร้างแรงกระเพื่อมทางสังคมและสร้างความสำเร็จด้านรายได้ไปพร้อมกันไม่ใช่เรื่องง่าย แม้แต่ธุรกิจสร้างสรรค์เพื่อความบันเทิงอย่างดิสนีย์ที่มีประสบการณ์มายาวนานก็ยังต้องปรับตัวตามผู้บริโภคที่ไม่แน่นอนและเปลี่ยนไป ซึ่งการทดลองแนวคิดใหม่ในแต่ละครั้งเท่ากับการเดิมพันด้วยเงินลงทุนจำนวนมหาศาล


ค.ศ. 2023 ปีที่ดิสนีย์สร้างความสุขให้แก่เด็ก ๆ และครอบครัวครบรอบ 100 ปี นับเป็นปีที่ธุรกิจบันเทิงยักษ์ใหญ่อย่างดิสนีย์ต้องเผชิญความท้าทายนี้อย่างมาก และเช่นเดียวกันที่ในทุกความคาดหวังมีความกดดันและความเสี่ยงที่จะผิดหวังซ่อนอยู่ โดยเฉพาะเมื่อรายงานผลประกอบการในไตรมาสสุดท้ายแสดงว่ารายได้ในปีครบรอบศตวรรษนี้ไม่เป็นไปตามคาดเท่าที่ควร ทั้งยังได้รับเสียงวิจารณ์อย่างมากจากความพยายามขับเคลื่อนประเด็นสังคมมากเกินไปในภาพยนตร์ โดยเฉพาะกรณี The Little Mermaid ปี 2023 ฉบับคนแสดงจริง ที่ถูกตีความใหม่ให้นักแสดงผิวสีรับบทเงือกน้อยแอเรียลเพื่อแสดงถึงความหลากหลายและเท่าเทียม แตกต่างจากรูปลักษณ์ดั้งเดิมใน The Little Mermaid ปี 1989 ที่เงือกน้อยแอเรียลมีผิวขาว ผมสีแดงสลวย


หากถอดบทเรียนในเรื่องความเท่าเทียมที่ผู้คนพูดถึงทั่วโลก ดิสนีย์สามารถทำได้ยอดเยี่ยม แต่สำหรับตัวละครหลักที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้วในอดีต ผู้ชมยังคงคาดหวังให้มีภาพใกล้เคียงกับฉบับดั้งเดิม


ไม่ว่ายุคไหน แม้แต่ Disney ต้องทบทวนวิธีสร้างสรรค์


ความจริงดิสนีย์ค่อย ๆ ได้รับเสียงชื่นชมเรื่อยมาเรื่องการปฏิวัติตัวละครเจ้าหญิง ที่ก่อนหน้านี้ผู้ชมทั่วโลกตั้งคำถามว่า “เจ้าหญิงดิสนีย์พึ่งพาเจ้าชายมากไปหรือไม่” หรือ “เด็กผู้หญิงทั่วโลกจะเติบโตด้วยแนวคิดแบบใดได้บ้าง” ภาพลักษณ์ของเจ้าหญิงยุคใหม่ค่อย ๆ เริ่มเปลี่ยนไปมาตลอดหลายทศวรรษ เป็นเจ้าหญิงที่พึ่งพาตนเองได้ มีความคิดแตกต่าง ฉายภาพความหลากหลายทางด้านวัฒนธรรมและเชื้อชาติ โดยมีหลายตัวอย่าง เช่น เจ้าหญิงจัสมินผิวสีน้ำผึ้งเชื้อสายอาหรับใน Aladdin ปี 1992, ตัวละครโพคาฮอนทัสจากชนเผ่าพื้นเมืองอเมริกาใน Pocahontas ปี 1995, เจ้าหญิงวีรสตรีของชาวจีนแผ่นดินใหญ่ใน Mulan ปี 1998, เจ้าหญิงเทียนาชาวแอฟริกัน-อเมริกันจาก The Princess and the Frog ปี 2009, ลูกสาวหัวหน้าชนเผ่าพื้นเมืองบนเกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกนามโมอานา จาก Moana ปี 2016 และตัวละครชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จาก Raya and the Last Dragon ปี 2021 เป็นต้น ยังไม่รวมแอนน์ บุญช่วย (Anne Boonchuay) ตัวละครลูกครึ่งไทย-อเมริกันจากการ์ตูนแอนิเมชัน Amphibia ปี 2019-2022 ทางช่องดิสนีย์ เหล่านี้ยิ่งแสดงให้เห็นว่าพวกเขาคือผู้นำทางความคิดและมีวิสัยทัศน์อย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตาม ความกล้าหาญและการอ้าแขนรับความหลากหลายในการทดลองที่มากขึ้น (อย่างหักโหม) และด้วยหลายปัจจัยทำให้ ค.ศ. 2023 ไม่ง่ายเลย ทำให้บ็อบ ไอเกอร์ (Bob Iger) ซีอีโอดิสนีย์คนปัจจุบันออกมาสื่อสารไปยังผู้ชมทั่วโลกซึ่งเป็นผู้ปกครองของเด็ก ๆ และผู้ถือหุ้นในแนวทางที่ว่า ใน ค.ศ. 2024 ลำดับการเล่าเรื่องของดิสนีย์จะให้ความสำคัญกับความสนุกเป็นหลัก ลดประเด็นสังคมให้สำคัญเป็นลำดับถัดมา โดยไม่ทิ้งแนวคิดที่เด็ก ๆ ควรจะได้เรียนรู้จากภาพยนตร์


มีอะไรน่าสนใจเมื่อ Disney ก้าวเข้าสู่ปีที่ 101


เมื่อพิจารณาภาพยนตร์ที่จะฉายใน ค.ศ. 2024 ที่ยืนยันแล้วจำนวน 7 เรื่อง ได้แก่ The First Omen, Kingdom of the Planet of the Apes, Inside Out 2, Deadpool 3, Alien: Romulus, The Amateur และ Mufasa: The Lion King (ตามข่าวอัปเดตจากบทความของ screenrant.com 30 ธันวาคม ค.ศ. 2023) ซึ่งรายชื่อเหล่านี้รวมภาพยนตร์จากสตูดิโอในเครือของดิสนีย์รวมถึง Marvel และ Pixar แล้ว ก็ถือว่ามีจำนวนน้อยกว่าที่แฟน ๆ คาดการณ์ ทั้งนี้ส่วนใหญ่ยังเป็นภาคต่อ ซึ่งหมายความว่าดิสนีย์ไม่ได้เริ่มต้นปีด้วยโปรเจกต์ที่สร้างความฮือฮา แต่ค่อย ๆ พัฒนา สอดคล้องกับแนวทางการกลับมามุ่งเน้นคุณภาพ ไม่เน้นปริมาณ หลังลุยผลิตสื่อจำนวนมากเพื่ออุตสาหกรรมภาพยนตร์และสู้ศึกสตรีมมิง


ปัจจุบันรายได้ของดิสนีย์ประกอบด้วยธุรกิจ 3 ส่วน ได้แก่ 1. “Disney Entertainment” ธุรกิจสื่อและสตรีมมิงทั้งหมดของดิสนีย์ 2. “Sports” แพลตฟอร์มวิดีโอออนดีมานด์ด้านกีฬาและสถานีโทรทัศน์ ESPN 3. “Disney Experiences” ธุรกิจสวนสนุก โรงแรม รีสอร์ต เรือสำราญ สินค้าของใช้ ของที่ระลึก และเกม อ้างอิงข้อมูลสรุปย่อจาก Thairath Money ที่ทำให้เห็นอาณาจักรของดิสนีย์ว่า “ไม่ได้มีแค่การ์ตูน”


ในช่วงที่เร่งเรียกทั้งความมั่นใจและรายได้กลับมาให้ดิสนีย์ ไอเกอร์ได้แบ่งปัน 4 แนวทางหลักที่ครอบคลุมสาขาธุรกิจของตนเองรอบด้าน ประกอบด้วย 1. การบรรลุผลกำไรที่มีความสำคัญและยั่งยืนในธุรกิจสตรีมมิง 2. การปรับปรุงผลผลิตและเศรษฐศาสตร์ของสตูดิโอภาพยนตร์ 3. การสร้าง ESPN ให้เป็นแพลตฟอร์มกีฬาดิจิทัลระดับแนวหน้าของโลก และ 4. การขับเคลื่อนการเติบโตในธุรกิจประสบการณ์


เชื่อว่าแฟน ๆ ตัวจริงทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างพากันเอาใจช่วยให้ดิสนีย์มีผลงานที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามในยุคที่โลกบันเทิงเต็มไปด้วยความท้าทาย


#Disney #TheLittleMermaid #NotMyMermaid #NotMyArial #Princess #Entertainment #ดิสนีย์ #ความเท่าเทียม #เจ้าหญิงดิสนีย์


ข้อมูลอ้างอิง : screenrant.com, allears.net, techsauce.co, www.vogue.co.th, www.thairath.co.th และ www.bbc.com
ภาพอ้างอิง : disney.co.th





0 ความคิดเห็น

Ask OKMD AI