8 ทักษะครูที่สำคัญที่สุดในปี 2024

หากถามว่าทักษะของครูที่สำคัญที่สุด หรือ Most Important Teacher Skills ในปี 2024 ควรเป็นอย่างไร คำตอบจากแหล่งข้อมูลเกี่ยวข้องมีหลากหลาย โดยมักมุ่งเน้นไปที่ความรู้และความสามารถด้านเทคโนโลยี เช่นเดียวกับ Teal เว็บไซต์ส่งเสริมด้านการพัฒนาตนเองเพื่อการทำงานไปจนถึงยกระดับความมั่นใจว่าทุกคนควรได้ทำงานที่มีความหมายสอดคล้องกับเป้าหมายและค่านิยมที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง และผู้ให้บริการ AI Resume Builder ที่จัดให้ความรู้ด้านเทคโนโลยีเป็นทักษะที่ควรมีควบคู่ไปกับ 8 ทักษะต่อไปนี้ที่จะส่งผลดีต่อผู้เรียน

• “ความสามารถทางวัฒนธรรมและการไม่แบ่งแยก”
  ห้องเรียนเปรียบเสมือนจักรวาลเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย นักการศึกษาจำเป็นต้องส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่นักเรียนทุกคนรู้สึกมีคุณค่า เป็นทักษะที่เกี่ยวกับการรับรู้และยกย่องความแตกต่าง ปรับวิธีสอนให้สอดคล้องกับวัฒนธรรม จัดการกับอคติ สร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่มีส่วนร่วมและเท่าเทียมกันมากขึ้น เพื่อเตรียมนักเรียนให้เติบโตในสังคมโลก

• “การบูรณาการเทคโนโลยีและความรู้ด้านดิจิทัล”
  จะไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป และเป็นทักษะที่มากกว่าการใช้เครื่องมือดิจิทัล โดยผู้สอนต้องมีความรู้ด้านดิจิทัลที่แข็งแกร่งเพื่อนำเทคโนโลยีมารวมไว้ในกลยุทธ์การสอนอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังเกี่ยวข้องกับการประเมินทรัพยากรดิจิทัลอย่างมีวิจารณญาณ ส่งเสริมการเป็นพลเมืองดิจิทัลในผู้เรียน ครูที่เชี่ยวชาญด้านนี้จะยังมีคุณสมบัติดึงดูดผู้เรียนที่ตื่นตัวอีกด้วย

• “ความรู้แบบสหวิทยาการและการประยุกต์”
  เป็นทักษะที่ช่วยให้ครูสร้างการเชื่อมโยงระหว่างวิชาต่าง ๆ ทำให้การเรียนรู้มีความสอดคล้องและเกี่ยวข้องกันมากขึ้น เกี่ยวข้องกับการใช้ความรู้สาขาวิชาต่าง ๆ เพื่อแก้ปัญหา คิดอย่างมีวิจารณญาณ และส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ครูที่นำแนวทางสหวิทยาการมาใช้จะช่วยเพิ่มประสบการณ์ทางการศึกษาของนักเรียน และช่วยให้ผู้เรียนพัฒนาความเข้าใจโลกแบบองค์รวม

• “ความฉลาดทางอารมณ์และสุขภาวะที่ดีของผู้เรียน”
  สุขภาวะด้านอารมณ์ของผู้เรียนสำคัญพอ ๆ กับความสำเร็จทางวิชาการ นักการศึกษาจึงต้องเชี่ยวชาญในการรับรู้และตอบสนองต่อความต้องการทางอารมณ์ของผู้เรียน ต้องสามารถจัดการอารมณ์ของตนเองได้ และส่งเสริมสภาพแวดล้อมในห้องเรียน เป็นทักษะเกี่ยวกับการสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น ความเห็นอกเห็นใจ และช่วยให้นักเรียนพัฒนาการควบคุมตนเอง

• “นวัตกรรมการประเมินและผลตอบรับ”
  นักการศึกษาต้องออกแบบการประเมินที่วัดความก้าวหน้าของนักเรียนได้แม่นยำและให้ข้อเสนอแนะที่สร้างสรรค์ โดยมุ่งเน้นการเรียนรู้แบบเฉพาะบุคคลมากขึ้น ทักษะนี้เกี่ยวข้องกับการใช้การประเมินรายทาง การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสำหรับการตอบรับแบบเรียลไทม์ และการส่งเสริมการประเมินตนเองในกลุ่มผู้เรียน ช่วยให้นักเรียนเป็นเจ้าของการเติบโตของตนเอง

• “การอำนวยความสะดวกการเรียนรู้ร่วมกัน”
  การเรียนการสอนปัจจุบันและจากนี้ไปต้องการการทำงานเป็นทีมและความสามารถในการทำงานข้ามเครือข่าย เป็นทักษะที่เกี่ยวกับการออกแบบกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้แบบเชื่อมโยง (Peer-to-Peer) สอนการแก้ปัญหาข้อขัดแย้ง ชี้แนะนักเรียนในการแก้ปัญหาร่วมกัน การสร้างวัฒนธรรมนี้จะช่วยเตรียมพร้อมทักษะการทำงานเป็นทีมและการสื่อสารที่จำเป็นสำหรับอาชีพในอนาคต

• “กลยุทธ์การสอนแบบปรับเปลี่ยนได้”
  ครูต้องสามารถปรับการสอนให้ตรงกับความต้องการที่แตกต่างกันของผู้เรียน ทักษะนี้เกี่ยวข้องกับเทคนิคการสอนที่แตกต่าง การตอบสนองต่อความคิดเห็นของนักเรียน และการติดตามการวิจัยทางการศึกษา ครูที่มีทักษะในการปรับการสอนของตนจะต้องแน่ใจว่านักเรียนทุกคนสามารถเข้าถึงและมีส่วนร่วมกับหลักสูตรได้ โดยไม่คำนึงถึงรูปแบบการเรียนรู้หรือความสามารถของผู้เรียน

• “การพัฒนาวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง”
  เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลกยุคนี้ นักการศึกษาจะต้องเป็นผู้เรียนรู้ตลอดชีวิต อัปเดตความรู้ด้านการสอนอย่างต่อเนื่อง และรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มและเทคโนโลยีทางการศึกษาล่าสุดเพื่อไม่ให้ตกเทรนด์ ซึ่งทักษะนี้เกี่ยวกับการไตร่ตรองตนเอง การแสวงหาโอกาสการเรียนรู้ทางวิชาชีพ และการประยุกต์ใช้ข้อมูลเชิงลึกใหม่ ๆ ในการฝึกสอน นอกจากนี้ครูที่มุ่งมั่นในการพัฒนาตนเองจะมีความพร้อมในการสร้างแรงบันดาลใจที่คล้ายคลึงกันให้แก่ตัวผู้เรียน

นอกจากนี้ยังมีการจัดอันดับทักษะสำคัญแต่มักได้รับการประเมินต่ำไปจนถึงถูกมองข้าม หรือ Most Underrated Skills สำหรับการทำหน้าที่ครูผู้สอน โดยมีอย่างน้อย 3 ทักษะดังนี้

• “ความสามารถทางวัฒนธรรม”
  หรือ Cultural Competence ที่ได้กล่าวถึงไปแล้วในฐานะทักษะสำคัญ น่ายินดีที่ทักษะนี้ถูกมองเห็นมากขึ้นไปจนถึงโดดเด่นในปี 2024 ที่นอกจากเปิดรับความแตกต่างหลากหลายแล้วยังหมายถึงการตระหนักถึงความสำคัญของวัฒนธรรมที่ต่างกัน

• “การฟังอย่างกระตือรือร้น”
  หรือ Active Listening ที่เป็นมากกว่าการฟังคำพูดของนักเรียน แต่ยังเกี่ยวข้องกับการทำความเข้าใจอารมณ์และความคิดที่ซ่อนอยู่ของผู้เรียน สอดคล้องกับที่โรบิน เอบราฮัมส์ (Robin Abrahams) และบอริส กรอยส์เบิร์ก (Boris Groysberg) จาก Harvard Business School อธิบายว่าการฟังอย่างกระตือรือร้นนั้นมี 3 แง่มุม ได้แก่ การรับรู้ อารมณ์ และพฤติกรรม ดังนั้นครูที่เชี่ยวชาญทักษะนี้จะสามารถตอบสนองความต้องการของนักเรียนได้ดีขึ้น ส่งเสริมบรรยากาศและการสื่อสารแบบเปิดกว้าง
  

• “ความยืดหยุ่น”
  หรือ Resilience การคงความแน่วแน่และรักษาทัศนคติเชิงบวกเป็นความสามารถและเป็นทักษะอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะเมื่อเผชิญกับความท้าทายและอุปสรรค ทักษะนี้จะช่วยให้นักการศึกษาปรับตัวเข้ากับความล้มเหลวและเดินหน้าต่อได้แทนที่จะละความพยายาม เป็นทักษะที่เป็นแบบอย่างด้านความเพียรพยายามของผู้เรียนได้ ช่วยรักษาความหลงใหลด้านการสอนในระยะยาว

#Education #Educator #Teaching #Teacher #LifelongLearning #การศึกษา #นักการศึกษา #การสอน #ครู #การเรียนรู้ตลอดชีวิต

• ข้อมูลอ้างอิง : www.tealhq.com และ hbr.org

• ภาพอ้างอิง : freepik.com