ปั้นดิน จนเป็นดาว

07 กุมภาพันธ์ 2024
|
1598 อ่านข่าวนี้
|
11

 

            จากเครื่องใช้สามัญที่ใช้ในครัวเรือน สู่งานศิลป์ที่เป็นที่ต้องการของนักสะสม เครื่องปั้นดินมอญเกาะเกร็ด เป็นงานหัตถกรรมที่เป็นมรดก ทางภูมิปัญญาที่มีมานานกว่า 200 ปี โดยบรรพบุรุษ เชื้อสายมอญที่อพยพเข้ามาอาศัย อยู่ในประเทศไทยบริเวณเกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ตอนปลาย หลังจากตั้งรกรากได้ระยะหนึ่ง จึงนำวิชาความรู้ในการทำเครื่องปั้นดินเผา มายึดทำเป็นอาชีพหลักในการดำรงชีพ เพราะพื้นที่บริเวณเกาะเกร็ดนั้นมีดินเหนียวคุณภาพดี เหมาะสำหรับการทำเครื่องปั้นดินเผาที่มีความทนทาน แข็งแกร่ง เกาะเกร็ดจึงกลายเป็นแหล่งผลิตเครื่องปั้นดินเผาที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในประเทศไทย 

            จากหลักสิบสู่หลักแสน เครื่องปั้นดินเผาใส่ไอเดียเพิ่มมูลค่ากับเครื่องปั้นดินมอญ โดย ครูจ๊อด พงษ์พันธุ์ ไชยนิล ทายาทรุ่นที่ 5 ของตระกูลปั้นดินเผาเก่าแก่บนเกาะเกร็ด 

            บรรพบุรุษเชื้อสายมอญได้นำวิชาความรู้ในการทำเครื่องปั้นดินเผามายึดเป็นอาชีพหลักในการดำรงชีพ เนื่องจากพื้นดินบริเวณนี้เป็นดินเหนียว โดยสันนิษฐานว่าพื้นที่ดินบริเวณนี้ผ่านการเหยียบย่ำจากโคกระบือมาก่อน จึงทำให้ดินมีความเหนียว จับกันเป็นก้อน ไม่ร่วนซุย เหมาะแก่การนำมาปั้น เพื่อทำเป็นเครื่องใช้ในครัวเรือน 

            แรกเริ่มชาวมอญทำเครื่องปั้นดินเผาไว้ใช้เองภายในครัวเรือน แต่เมื่อมีมากขึ้นเรื่อยๆ จากเครื่องใช้กลายเป็นปัจจัยแลกเปลี่ยนและสินค้าเพื่อการค้าขาย ในเวลาต่อมา มีวัสดุครัวเรือนที่สามารถทดแทนเครื่องปั้นดินมอญ ปัจจุบันความนิยมจึงลดลง แต่ในปี พ.ศ. 2535 มีการจัดงานประกวดเครื่องปั้นดินเผาประจำจังหวัดขึ้น คุณย่าซึ่งเป็นรุ่นที่ 3 ได้นำเครื่องปั้นดินเผาไปประกวดและชนะรางวัลมากมาย ในงานประกวดประเภทของเล็ก จึงเริ่มนำเครื่องปั้นดินมอญชิ้นเล็กๆ  มาจัดจำหน่ายเป็นของที่ระลึก ครูจ๊อดในวัย 11 ปี รับหน้าที่ในการเป็นลูกมือของคุณย่าตั้งแต่นั้นมา ด้วยความชื่นชอบในงานศิลปะและการเขียนลายไทย 

            จึงลองแกะสลักลวดลายไทยบนเครื่องปั้นดิน เมื่อได้เรียนต่อในวิทยาลัยช่างศิลป์ ลาดกระบัง หลังเรียนจบ ได้เอาความรู้ด้านองค์ประกอบเชิงศิลป์และศิลปะไทยแขนงต่างๆ เข้ามาผสมผสาน กลายเป็นวิธีการปั้นดินแบบใหม่ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยใช้เทคนิคการสลักซี่แบบฟันปลาบนชิ้นงาน เพื่อทำเป็นฝา ซึ่งมีตำแหน่งการปิดที่พอดี และนำลวดลายเดิมของเครื่องปั้นดินมอญ มาเพิ่มความละเอียดซับซ้อนของลวดลาย เพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับชิ้นงาน และใช้เทคนิคการลงสีอะคริลิกสีทอง และลงลวดลายไทยด้วยสีดำ ตัดสลับกับสีทอง ให้มีความใกล้เคียงกับลายรดน้ำของไทย ซึ่งทำให้เกิดชิ้นงานที่มีคุณค่าและมูลค่ามากขึ้น จากงานปั้นดินหลักสิบ ต่อยอดจนกลายเป็นงานหัตถกรรมหลักแสน ที่กลายเป็นที่ต้องการของเหล่านักสะสม

 

            แต่เดิมการปั้นในกลุ่มชาวมอญเป็นการปั้นเครื่องใช้ในครัวเรือนจำพวกอ่าง กระถาง ครก ซึ่งมักเป็นงานชิ้นใหญ่ เพราะใช้ช่างฝีมือที่เป็นผู้ชาย ใช้แรงเยอะ แป้นหมุนช้า จึงได้ชิ้นงานที่มีขนาดใหญ่ หากช่างฝีมือเป็นผู้หญิงการหมุนของรอบแป้นจะเร็ว ซึ่งใช้แรงน้อยกว่า ชิ้นงานที่ได้ จะออกมามีขนาดเล็ก เช่น ผอบกระแจะจันทน์ และของชำร่วยชิ้นเล็กๆ 

            องค์ความรู้จะอยู่ได้อย่างยั่งยืน หากอาศัยความอดทน การใฝ่เรียนรู้ และการเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ ให้องค์ความรู้นี้สามารถส่งต่อและถ่ายทอด โดยไม่หยุดการต่อยอดและพัฒนา ครูจ๊อดมุ่งมั่นที่จะสืบทอดงานหัตถกรรมเครื่องปั้นดินมอญ ซึ่งเป็นมรดกภูมิปัญญาของบรรพบุรุษให้คงอยู่ ด้วยการหยิบยกเทคนิคมากมายมาสร้างความงามและเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร จนทำให้งานเครื่องปั้นดินมอญที่ผลิตออกมาซ้ำๆ กลายเป็นของที่มีชิ้นเดียวในโลก 

            ติดตามคลิป "เคล็ดที่ไม่ลับ งานปั้นดินมอญโดย ครูจ๊อด พงษ์พันธุ์ ไชยนิล" ได้ที่ :

https://fb.watch/q1GdedLYYz/

https://www.youtube.com/watch?v=3njyol2N0rA&t=63s


#ครูจ๊อดพงษ์พันธุ์ไชยนิล #เครื่องปั้นดินมอญ #ภูมิปัญญาท้องถิ่น #เกาะเกร็ด #เครื่องปั้นดินเผา




0 ความคิดเห็น

Ask OKMD AI