สำรวจกระบวนการผลิตและจำหน่ายหนังสือจากต้นน้ำถึงปลายน้ำ
กว่าจะมาเป็นหนังสือในมือคนอ่าน หลายคนอาจสงสัย มีกระบวนการผลิตและจำหน่ายอย่างไร และใครเป็นผู้ขับเคลื่อนอยู่เบื้องหลัง ดังนั้น เพื่อให้เห็นภาพในกระบวนการดังกล่าว เราจะพาไปสำรวจกันว่า จากต้นน้ำถึงปลายน้ำมีใครบ้างที่ทำให้หนังสือเล่มหนึ่งๆ เกิดขึ้นอย่างสวยงาม น่าอ่าน และไปวางอยู่บนชั้นในร้านหนังสือ
1. นักเขียน
เป็นจุดเริ่มต้นแรกของหนังสือทุกเล่ม เพราะหากไม่มีนักเขียน ต้นฉบับหรือผลงานเขียนสำหรับนำมาจัดพิมพ์ก็ไม่เกิดขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นต้นฉบับที่เขียนเสร็จแล้ว จึงมีการนำเสนอให้สำนักพิมพ์ซึ่งเป็นผู้จัดพิมพ์พิจารณาในการพิมพ์ ส่วนในกรณีงานแปล นักแปลก็จะเป็นสะพานในการถ่ายทอดต้นฉบับจากนักเขียนต้นทางออกมาเป็นภาษาต่างๆ ซึ่งการเลือกสรรนักแปลมาแปลนั้น สำนักพิมพ์จะมีการพิจารณาอย่างรอบคอบและเหมาะสม เพื่อให้งานที่แปลออกมาสมบูรณ์ตรงตามต้นฉบับมากที่สุด
2. บรรณาธิการ
เป็นหัวใจสำคัญของสำนักพิมพ์ ที่มีหน้าที่ในการเลือกสรร กลั่นกรอง นำเสนอ และตรวจสอบต้นฉบับของนักเขียนอย่างละเอียดลออ เพื่อให้ต้นฉบับนั้นสมบูรณ์ ชวนอ่าน ตอบโจทย์รสนิยมในตลาด (เนื่องจากการผลิตหนังสือต้องคำนึงถึงโอกาสทางธุรกิจ พิมพ์ออกมาแล้วขายได้ด้วย) เมื่อตรวจสอบแล้วอาจมีคำแนะนำให้นักเขียนแก้ไข เพื่อให้ต้นฉบับมีความสมบูรณ์ครบถ้วนยิ่งขึ้น ก่อนนำไปจัดพิมพ์เป็นหนังสือ โดยบางสำนักพิมพ์อาจมีผู้จัดการสำนักพิมพ์อีกหนึ่งตำแหน่ง มาช่วยงานบรรณาธิการในด้านการวิเคราะห์การตลาดและโอกาสในการขายหนังสือ ด้วยว่าการตรวจสอบต้นฉบับ ทั้งความถูกต้องของเนื้อหาและอรรถรสของภาษา เป็นความรับผิดชอบที่บรรณาธิการต้องลงลึกในรายละเอียดและใช้เวลานานพอสมควร
3. ผู้จัดการสำนักพิมพ์
นอกจากสนับสนุนการทำงานของบรรณาธิการบางส่วนแล้ว ยังทำหน้าที่ในการดูแลความเรียบร้อยของสำนักพิมพ์ และประสานงานด้านต่างๆ โดยเฉพาะกับโรงพิมพ์ สายส่ง จัดจำหน่าย และร้านหนังสือ รวมถึงทำการส่งเสริมการตลาดและประชาสัมพันธ์หนังสือให้ประสบความสำเร็จ นอกจากนั้น สำนักพิมพ์ที่มีขนาดใหญ่ก็อาจมีตำแหน่งเลขานุการขึ้นมาอีกตำแหน่งหนึ่ง เพื่อช่วยประสานงานยิบย่อยหรือจุกจิกภายในและภายนอกสำนักพิมพ์ ให้มีความสะดวกรวดเร็วขึ้น
4. นักวาดภาพประกอบ
สำหรับหนังสือที่มีภาพประกอบ บรรณาธิการจะเลือกสรรนักวาดภาพประกอบมาทำหน้าที่นี้ โดยการส่งต้นฉบับไปให้อ่าน และอธิบายแนวคิดเบื้องต้นของภาพประกอบที่ต้องการ เพื่อให้นักวาดภาพประกอบสามารถถ่ายทอดภาพออกมาสอดคล้องทั้งกับต้นฉบับและแนวคิดของสำนักพิมพ์ อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่สำนักพิมพ์มักเปิดโอกาสให้นักวาดภาพประกอบถ่ายทอดภาพออกมาตามจินตนาการหรือความคิดสร้างสรรค์ จากการอ่านต้นฉบับด้วยตนเองมากกว่า
5. นักออกแบบปกและรูปเล่ม
หรือฝ่ายศิลปกรรม (หัวหน้าฝ่ายเรียกว่า อาร์ตไดเรกเตอร์) จะทำหน้าที่ในการออกแบบปกและรูปเล่ม ตามเนื้อหาต้นฉบับและบุคลิกของหนังสือ โดยต้องมีการออกแบบและจัดวางอย่างสวยงามสร้างสรรค์ โดยเฉพาะปกซึ่งเป็นตัวแทนบอกเล่าเนื้อหาข้างในทั้งหมด หากสามารถดึงดูดใจให้คนอ่านหยิบขึ้นมาดูได้ จะถือเป็นความสำเร็จอย่างยิ่ง นอกจากนั้น เมื่อเปิดดูรูปเล่มข้างในแล้ว ก็ต้องจัดวางดูดี น่าอ่าน และอ่านง่ายด้วย
6. นักพิสูจน์อักษร
เป็นผู้ตรวจความถูกต้องของการเขียนต้นฉบับทั้งหมดอย่างละเอียด ทั้งการสะกดคำ วรรคตอน และย่อหน้า หากพบประโยคไหนจุดใดเขียนผิด ก็จะทำหน้าที่ในการแก้ไขให้ถูกต้อง ซึ่งจะต้องตรวจกันหลายรอบ ตั้งแต่เป็นต้นฉบับกระดาษหรือไฟล์ดิจิทัล หลังออกแบบปกและจัดวางรูปเล่ม จนถึงขั้นตอนส่งเข้าโรงพิมพ์ ยิงเพลทออกมาเป็นปรู๊ฟ ก็ต้องตรวจปรู๊ฟด้วย เพื่อให้หนังสือเขียนถูกต้องที่สุด ซึ่งการพิสูจน์อักษรอาจยึดตามหลักพจนานุกรมฉบับล่าสุด ประกอบกับฉบับอื่นๆ แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับแต่ละสำนักพิมพ์
7. โรงพิมพ์
เป็นผู้มีหน้าที่ในการจัดพิมพ์หนังสือออกมาเป็นเล่ม โดยหลังจากออกแบบปก จัดวางรูปเล่ม และพิสูจน์อักษรเรียบร้อยอย่างดีแล้ว ก็จะส่งเข้าโรงพิมพ์ โดยสำนักพิมพ์จะเลือกกระดาษปกและเนื้อในก่อน จากนั้นโรงพิมพ์จึงนำไฟล์งานไปทำการแยกสี-ยิงเพลทออกมาเป็นปรู๊ฟ เพื่อให้สำนักพิมพ์ตรวจสอบความถูกต้องของขนาด สี และตัวหนังสืออีกรอบ ก่อนจัดพิมพ์เป็นเล่มหนังสือตามกำหนดเวลา
8. สายส่งและจัดจำหน่าย
เป็นผู้ทำหน้าที่ในการนำหนังสือเล่มจากโรงพิมพ์ไปส่งตามหน้าร้านหนังสือต่างๆ ทั่วประเทศ โดยส่วนใหญ่สำนักพิมพ์มักจะเลือกสายส่งและจัดจำหน่าย ที่มีความสามารถในการกระจายหนังสือได้ดีและทั่วถึง มีความเชี่ยวชาญเฉพาะสำหรับการกระจายหนังสือแต่ละประเภท และเมื่อครบเวลาในการกระจายหนังสือตามสัญญา ก็จะต้องขนส่งหนังสือกลับมาคืนให้กับสำนักพิมพ์ ส่วนระบบการฝากจำหน่าย มีทั้งแบบขายฝากและขายขาด หากเป็นระบบขายฝาก สายส่งและจัดจำหน่ายจะรายงานยอดขายจากหน้าร้านหนังสือทั้งหมดเป็นรายเดือน แล้วจ่ายรอบแรกตามยอดขายจริง เมื่อครบเวลา 3 เดือน หรือแล้วแต่เงื่อนไขของแต่ละแห่ง จากนั้นก็จะจ่ายทุกๆ เดือน จนกว่าจะครบเวลาตามสัญญา ปกติจะอยู่ที่การฝากจำหน่ายไม่เกิน 2 ปี แต่หากเป็นระบบขายขาด จะมีการจ่ายเงินล่วงหน้าบางส่วนให้กับสำนักพิมพ์ก่อน แต่ก็จะคิดค่าสายส่งและจัดจำหน่ายสูงกว่าราคาทั่วไป ซึ่งปัจจุบันระบบขายขาดไม่ค่อยจะมีแล้ว
9. ร้านหนังสือ
เป็นสุดท้ายปลายน้ำของกระบวนการผลิตหนังสือ โดยหลังจากได้รับหนังสือจากสายส่งและจัดจำหน่ายแล้ว ก็จะทำการนำเสนอหนังสือให้กับคนอ่าน โดยหนังสือใหม่มักถูกนำไปจัดวางบนโต๊ะ ชั้น หรือตู้กระจกที่เห็นเด่นชัดที่สุดในร้านหนังสือ เพื่อให้คนอ่านมองเห็นง่าย ซึ่งจะส่งผลให้หนังสือมีโอกาสขายได้และขายดี ดังนั้น บางครั้งสำนักพิมพ์จึงอาจจะเสนอเงื่อนไขเป็นเปอร์เซ็นต์พิเศษให้กับร้านหนังสือ ในการจัดวางหนังสือของตนให้เด่นชัดยาวนานขึ้น เพื่อกระตุ้นยอดขายมากยิ่งขึ้นก็ได้
จากกระบวนการทั้งหมดนี้ แสดงให้เห็นว่า หนังสือแต่ละเล่มกว่าจะมาถึงมือคนอ่าน ต้องผ่านการเดินทางหลายขั้นตอนจากหลายๆ คน หลายๆ ส่วน การอุดหนุนหนังสือหนึ่งเล่ม จึงไม่ได้เป็นเพียงการส่งเสริมความรู้ให้กับตนเองเท่านั้น แต่ยังเป็นการสนับสนุนทุกคนทุกส่วน ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำให้ดำรงอยู่ได้ในอุตสาหกรรมหนังสือด้วย
#นักเขียนนักแปล #บรรณาธิการ #ผู้จัดการสำนักพิมพ์ #นักวาดภาพประกอบ #นักออกแบบปกและรูปเล่ม #นักพิสูจน์อักษร #โรงพิมพ์ #สายส่งและจัดจำหน่าย #ร้านหนังสือ #กระตุกต่อมคิด #okmd #knowledgeportal