ปีนี้นับเป็นปีแรกที่รัฐบาลไทยประกาศให้มีการจัดเทศกาลสงกรานต์รวมถึง 21 วัน ภายใต้ชื่องาน ‘Maha Songkran World Water Festival เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ 2567’ ทำให้คนไทยทั่วประเทศจะได้ฉลองปีใหม่ไทยอย่างชุ่มฉ่ำกับการสาดน้ำยาวนานกว่าทุกๆ ปี

โดยการขยายการจัดเทศกาลสงกรานต์ครั้งนี้ เป็นไปตามนโนบายของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ซึ่งมองเห็นจุดเด่นหลายประการของสงกรานต์ในการผลักดันสู่ซอตฟ์พาวเวอร์โลก ควบคู่กับโอกาสในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตยิ่งขึ้น ส่วนจุดเด่นและโอกาสดังกล่าว มีอะไรบ้างและน่าสนใจเพียงใด ไปติดตามกัน

สงกรานต์ เทศกาลแห่งความเป็นไทย และมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้   

จุดเด่นของสงกรานต์นั้น นอกจากเป็นเทศกาลฉลองปีใหม่ไทย อันแสดงถึงอัตลักษณ์ความเป็นไทยและธรรมเนียมปฏิบัติที่ดีงามสืบทอดกันมาหลายร้อยปี เช่น การทำบุญตักบาตร, การสรงน้ำพระ, การก่อเจดีย์ทราย, การรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่, การเล่นสาดน้ำอย่างสนุกสนาน ทำให้ครอบครัวได้มาอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว ยังได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก เป็น ‘มรดกโลกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ’ อย่างเป็นทางการ เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ.2566 ที่ผ่านมา อันถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ฯ ลำดับที่ 4 ของไทย ถัดจากศิลปะการแสดงโขน, ศาสตร์การนวดไทย และศิลปะการแสดงโนรา อีกด้วย

โดยเทศกาลสงกรานต์ จะแบ่งเป็นวันสำคัญ 3 วัน ได้แก่ วันที่ 13 เมษายน เป็นวันมหาสงกรานต์และวันผู้สูงอายุแห่งชาติ, วันที่ 14 เมษายน เป็นวันเนาและวันครอบครัว และวันที่ 15 เมษายน เป็นวันเถลิงศกหรือวันเริ่มต้นจุลศักราชใหม่  

ดังนั้น การขยายการจัดเทศกาลครั้งนี้ จึงเป็นการเฉลิมฉลองทั้งปีใหม่ไทย และความภาคภูมิใจในการขึ้นแท่นเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ฯ ที่หวังต่อยอดสู่การผลักดันให้สงกรานต์เป็นซอฟต์พาวเวอร์โลก และไทยติด 1 ใน 10 ประเทศสุดยอดเฟสติวัลให้ได้

สงกรานต์กับโอกาสทองของการกระตุ้นเศรษฐกิจ

สำหรับโอกาสในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากเทศกาลสงกรานต์โด่งดังและเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวอยู่แล้ว โดยปีที่ผ่านมา มีเม็ดเงินสะพัดจากการท่องเที่ยวในช่วงสงกรานต์สูงถึง 26,800 ล้านบาท รัฐบาลจึงมั่นใจมากว่าการขยายการจัดงานจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวปีนี้ให้คึกคักยิ่งขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ ด้วยการสร้างสรรค์รูปแบบงานต่างๆ ให้โดดเด่นและสะท้อนเอกลักษณ์ไทยชัดเจนขึ้น โดยร่วมมือกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนของภาครัฐและภาคเอกชน ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, กระทรวงวัฒนธรรม ผ่านเครือข่ายวัฒนธรรม 50 เขตในกรุงเทพมหานคร และ 76 จังหวัดทั่วประเทศ หรือบริษัทหลากหลายธุรกิจ เช่น โรงแรม ห้างสรรพสินค้า แบรนด์สินค้าชุมชน ฯลฯ ซึ่งคาดว่า จะสามารถกระตุ้นเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจแตะ 4.15 หมื่นล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ในช่วงเวลาเดียวกันกว่า 55% ทีเดียว (ข้อมูลจากศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี)

กิจกรรมเทศกาลสงกรานต์ รับความชุ่มฉ่ำ 21 วัน ผลักดันสู่ซอฟต์พาวเวอร์โลก 

จากโอกาสที่จะผลักดันเทศกาลสงกรานต์สู่ซอฟต์พาวเวอร์และกระตุ้นเศรษฐกิจไทยได้ ปีนี้ รัฐบาลจึงวางกำหนดการจัดงานตั้งแต่วันที่ 1-21 เมษายน โดยทยอยจัดทั่วประเทศ ประเดิมวันแรก-วันที่ 1 เมษายน ที่จังหวัดเชียงใหม่ และวันสุดท้าย-วันที่ 21 เมษายน ที่จังหวัดชลบุรีและสมุทรปราการ พร้อมกำหนดให้มีวันหยุดสงกรานต์ 5 วัน ได้แก่ วันที่ 12-16 เมษายน เพื่อส่งเสริมคนไทยและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้สามารถไปร่วมกิจกรรมฉลองเทศกาลได้อย่างเต็มอิ่ม โดยจะมีการเผยแพร่เทศกาลในหลากหลายรูปแบบกับพันธมิตรสื่อมวลชนทั้งในประเทศและระดับโลก เช่น CNN และ BBC ด้วย

สำหรับพื้นที่หลักในการจัดกิจกรรมนั้น คือในกรุงเทพฯ และ 5 จังหวัดใหญ่ ได้แก่ เชียงใหม่, ขอนแก่น, ชลบุรี, สมุทรปราการ และภูเก็ต ตลอด 21 วันของเดือนเมษายน   

โดยในกรุงเทพฯ นั้น กิจกรรมจะจัดอย่างอลังการ ในระหว่างวันที่ 11-15 เมษายน ศกนี้ ที่บริเวณท้องสนามหลวงและถนนราชดำเนินกลาง ด้วยขบวนพาเหรดสงกรานต์ที่ยิ่งใหญ่กว่า 20 ขบวน เช่น ขบวนพาเหรดจาก 16 จังหวัด, ขบวนพาเหรดซอฟต์พาวเวอร์ 4 สาขา ได้แก่ เทศกาล, แฟชั่น, เกม, ภาพยนตร์และซีรีส์, ขบวนการแสดงศิลปวัฒนธรรมจากนักแสดงและผู้ร่วมขบวนกว่า 1,000 คน เพื่อนำเสนอความวิจิตรตระการตา แสดงถึงเอกลักษณ์วัฒนธรรมไทยที่มีชื่อเสียงเป็นที่ประจักษ์ พร้อมกันนี้ ยังมีการจัดทำบทเพลงสงกรานต์ 4 ภาษา ประกอบด้วย ภาษาไทย, อังกฤษ, จีน และฝรั่งเศส เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวรับรู้ถึงคุณค่าของเทศกาลสงกรานต์ไทย และสนับสนุนสู่การสร้างเป็นซอฟต์พาวเวอร์โลก

ส่วนกิจกรรมในจังหวัดอื่นๆ ที่จัดอย่างอลังการไม่แพ้กัน อาทิเช่น งานป๋าเวณีปี๋ใหม่เมืองเจียงใหม่, ประเพณีป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง เชียงราย, งานสลุงหลวง กลองใหญ่ ปีใหม่เมืองนครลำปาง, สงกรานต์ภูเก็ต 2567, หาดใหญ่ มิตไนท์ สงกรานต์, ประเพณีสุดยอดสงกรานต์อีสาน เทศกาลดอกคูนเสียงแคน และถนนข้าวเหนียว ขอนแก่น, ประเพณีก่อพระทรายวันไหลบางแสน ชลบุรี, ประเพณีสงกรานต์พระประแดง สมุทรปราการ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นครั้งใหญ่ ซึ่งจะสามารถผลักดันให้เทศกาลสงกรานต์เป็นซอฟต์พาวเวอร์โลกได้สำเร็จตามรัฐบาลคาดหวังหรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไป   

ข้อมูลอ้างอิง
https://th.m.wikipedia.org
www.thaigov.go.th/infographic/contents/details/7839
www.thairath.co.th/news/local/2770083
www.ttbbank.com/th/newsroom/detail/ttba-songkran-festival-2024
www.prachachat.net/tourism/news-1535207
www.thaipost.net/news-update/554498/