ปักหมุด 5 แลนด์มาร์กประวัติศาสตร์ จากพิธีเปิดปารีส โอลิมปิก 2024
ผ่านไปแล้วอย่างยิ่งใหญ่ สำหรับพิธีเปิดมหกรรมกีฬา ‘ปารีส โอลิมปิก 2024’ ณ กรุงปารีส ซึ่งฝรั่งเศส-ประเทศเจ้าภาพได้สร้างความตราตรึง ด้วยการเปลี่ยนพื้นที่เปิดงานจากสนามกีฬาในร่ม มาเป็นแลนด์มาร์กกลางแจ้งตามจุดต่างๆ ของเมืองแทน ซึ่งนอกจากต้องการตอกย้ำแนวคิดการนำกีฬามาสู่เมืองแล้ว ยังเป็นโอกาสในถ่ายทอดประวัติศาสตร์และความงามของเมืองสู่สายตาชาวโลกอีกด้วย
โดยแลนด์มาร์กต่างๆ เหล่านี้ ล้วนมีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ฝรั่งเศส และถือเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นของประเทศมาช้านาน ซึ่ง OKMD จะขอปักหมุดที่ 5 แลนด์มาร์ก ต่อไปนี้
สะพานออสเตอร์ลิตซ์ (Austerlitz Bridge)
เป็นสะพานที่พาดผ่านแม่น้ำแซนและเชื่อมพื้นที่ 2 ฝั่งเข้าด้วยกัน ซึ่งฝรั่งเศสใช้เป็นจุดเริ่มต้นของพิธีเปิดโอลิมปิก ด้วยการจุดพลุดอกไม้ไฟสีน้ำเงิน ขาว แดง อันเป็นสีธงชาติของฝรั่งเศสอย่างตระการตา โดยประวัติของสะพานนี้ สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1801 และเสร็จสิ้นในปี ค.ศ.1805 เน้นใช้หินเป็นวัสดุหลักในการก่อสร้าง เพื่อให้มีความแข็งแรงสำหรับรองรับระบบคมนาคมในปารีส ต่อมายังเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมือง ที่สวยงามด้วยทิวทัศน์แม่น้ำแซน ส่วนชื่อสะพานมีที่มาจากชัยชนะของจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ในยุทธการออสเตอร์ลิตซ์ เมื่อปี ค.ศ.1805
แม่น้ำแซน (Seine River)
แม่น้ำสายหลักของปารีส ซึ่งขบวนเรือพาเหรดของนักกีฬาแต่ละชาติ เริ่มจากกรีซ และปิดท้ายด้วยฝรั่งเศส ได้ใช้ทยอยล่องเพื่อทักทายกับผู้ชมทั่วโลก ในระยะทางกว่า 6 กิโลเมตร ซึ่งไหลผ่านสะพานต่างๆ และขนาบข้างด้วยแลนด์มาร์กอื่นๆ ที่สวยงาม เช่น มหาวิหารนอเทรอดาม, พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์, หอไอเฟล ฯลฯ สลับกับการแสดงอย่างตื่นตาอีกหลายฉากทั้งบนแม่น้ำและริมแม่น้ำ ไม่ว่าจะเป็นฉากเรือที่มาพร้อมกับเสียงร้องเพลงโอเปร่าของสตรีท่านหนึ่ง หลังปรากฏภาพพระนางมารี อ็องตัวแน็ต ในสภาพศีรษะขาดจากการถูกประหารด้วยกิโยติน ณ อนุสรณ์สถานกงซีแยร์เฌอรี (เคยถูกใช้เป็นเรือนจำขังพระนาง) ระหว่างการแสดงชุด Litberty (หนึ่งในการแสดงจาก 12 ชุด) ซึ่งเชื่อมโยงถึงเหตุการณ์ปฏิวัติฝรั่งเศส เมื่อปี ค.ศ.1789 และคติของฝรั่งเศสที่ว่า ‘ถึงแม้คลื่นจะซัด แต่เรือลำนี้ไม่มีวันจม’, ฉากล้อเลียนภาพเขียน The Last Supper ของศิลปิน ลีโอนาร์โด ดาวินชี โดยคณะแดร็กควีน, ฉากนักกีฬาหญิงตัวแทนเซควานา เทพีแห่งแม่น้ำแซน สวมชุดเกราะที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากโยนออฟอาร์ค วีรสตรีของฝรั่งเศส ควบม้าเหล็กข้ามแม่น้ำเพื่อเชิญธงโอลิมปิกขึ้นสู่ยอดเสา หรือฉากล่องเรือเพื่อส่งต่อคบเพลิงจากหลากหลายนักกีฬาดังเจ้าของเหรียญโอลิมปิกครั้งที่ผ่านๆ มา
โดยแม่น้ำแซนนี้ มีต้นสายอยู่ที่คอมมูนซูร์สแซน ใกล้กับเมืองดีฌง ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส และทอดตัวยาวผ่านหลายเมืองจนมาถึงปารีส ก่อนไหลลงสู่ช่องแคบอังกฤษ ด้วยระยะทางรวม 777 กิโลเมตร ซึ่งในอดีตแม่น้ำสายนี้ถือเป็นอู่ข้าวอู่น้ำและเส้นทางติดต่อค้าขายที่สำคัญของประเทศ รวมทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามและโรแมนติก แต่ภายหลังเกิดปัญหาแม่น้ำเน่าเสีย ทำให้ต้องยกเครื่องทำความสะอาดครั้งใหญ่ เพื่อฟื้นคืนความสวยงามของแม่น้ำจนพร้อมต้อนรับปารีส โอลิมปิก ในครั้งนี้
มหาวิหารนอเทรอดาม (Notre-Dame Cathedral)
เป็นแลนด์มาร์กตั้งอยู่ไม่ห่างจากแม่น้ำแซน ที่ปรากฏตัวในการแสดงชุด Synchronicity ว่าด้วยการบูรณะมหาวิหารจากเหตุการณ์ไฟไหม้ เมื่อปี ค.ศ.2019 และขั้นตอนการทำเหรียญโอลิมปิกอย่างวิจิตร ซึ่งแสดงถึงฝีมืออันประณีตของช่างฝรั่งเศส ซึ่งสำหรับมหาวิหารแห่งนี้ถือเป็นอัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมโกธิกยุคกลาง เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ. 1163 สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 7 และแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1345 ก่อนจะขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1991 โดยตัวมหาวิหารมีความสูงถึงยอด 69 เมตร กว้าง 69 เมตร และยาว 128 เมตร ภายในและภายนอกประดับประดาด้วยประติมากรรมและหน้าต่างกระจกสี นอกจากเคยเป็นที่ประทับของอาร์คบิชอปแห่งปารีสแล้ว ยังเป็นสถานที่ประกอบพิธีสำคัญทางศาสนาของชาวคริสต์ ตลอดจนเก็บรวบรวมวัตถุโบราณและงานศิลปะเกี่ยวกับศาสนา ซึ่งหลังจากบูรณะเสร็จสิ้น ก็จะกลับมาเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ชมความงามกันอีกครั้งในปลายปีนี้
พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Louvre Museum)
เป็นแลนด์มาร์กที่ฉายให้เห็นในฉากของการแสดงชุด Fraternity ที่บุรุษนิรนามผู้ถือคบเพลิงพาเข้าไปยังพื้นที่ภายใน อันเต็มไปด้วยประติมากรรมและรูปภาพประดับอยู่และสร้างให้มีชีวิตขึ้นมา โดยมีการเล่าเรื่องการหายไปของภาพเขียนโมนาลิซ่า โดยศิลปิน ลีโอนาร์โด ดาวินชี ซึ่งเกิดขึ้นจริงเมื่อปี ค.ศ.1911 ก่อนจะค้นพบและนำกลับคืนมาเก็บรักษาในพิพิธภัณฑ์ดังเดิม เมื่อปี ค.ศ.1913 อย่างมีอารมณ์ขันเอาไว้ด้วย เพราะตอนท้ายได้เฉลยว่าคนที่ขโมยไปก็คือเหล่าการ์ตูนมินเนี่ยน จากภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องดัง ซึ่งสร้างและกำกับโดยปิแอร์ คอฟฟิน ชาวฝรั่งเศสนั่นเอง ส่วนความสำคัญของพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ไม่เพียงเป็นพิพิธภัณฑ์เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในโลกเท่านั้น แต่ยังเก็บรักษาผลงานศิลปะระดับโลกไว้อย่างมากมายกว่า 35,000 ชิ้นอีกด้วย เช่น ภาพเขียนโมนาลิซ่า, รูปปั้นเทพีวีนัส, รูปปั้นเทพีไนกี้แห่งซาโมเทรซ ซึ่งแต่เดิมนั้น ที่นี่เคยเป็นพระราชวังหลวงมาก่อน สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์กาเปเซียง เมื่อปี ค.ศ.1190 มีลักษณะรูปทรงเป็นพีระมิดแก้ว ต่อมาเมื่อพระราชวงศ์หลวงย้ายไป จึงมีการตกแต่งและปรับเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เปิดให้สาธารณชนเข้าชมได้ เมื่อปี ค.ศ.1793 และด้วยความสวยงาม อลังการ เปี่ยมคุณค่า ทำให้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ของปารีสกลายเป็นสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในโลก
หอไอเฟล (Eiffel Tower)
หนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญที่ฝรั่งเศสเนรมิตอย่างงดงามที่สุดในพิธีเปิดโอลิมปิกช่วงท้าย หลังจากมีการเชิญธงโอลิมปิกขึ้นสู่ยอดเสา, การกล่าวเปิดงานโดยประธานาธิบดีแอมานุแอล มาครง ของฝรั่งเศส, การเดินพาเหรดขบวนธงชาติของเหล่านักกีฬาแต่ละประเทศ, การส่งต่อคบเพลิงให้กับซีเนดีน ซีดาน นักฟุตบอลทีมชาติฝรั่งเศสดีกรีแชมป์โลก ณ ลานทรอกาเดโรแล้ว ก็มีการส่งต่อไปยังนักกีฬาเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกอีกหลายคน ก่อนจบลงที่เท็ดดี้ ไรเนอร์ และมารี-โฮเซ่ เปเรซ นักกีฬาโอลิมปิกฝรั่งเศสชายหญิง 2 คนสุดท้าย ซึ่งเป็นผู้นำไปจุดลงบนกระถางบอลลูนขนาดยักษ์ ที่ตั้งอยู่ในบริเวณสวนตุยเลอรี แล้วปล่อยให้ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้ายามค่ำ ในห้วงเวลาเดียวกับเสียงร้องเพลงอมตะ L’Hymne a l’amour อันทรงพลังของเซลีน ดิออน นักร้องดังก็กระหึ่มขึ้นจากหอไอเฟลที่วางตัวอยู่ด้านหลังสวน ท่ามกลางการแสดงแสงสีบนหออย่างยิ่งใหญ่ สร้างความประทับใจให้กับคนทั่วโลก โดยการปรากฏตัวของเซลีนในโอลิมปิกครั้งนี้ ถือเป็นการกลับมาร้องเพลงในรอบ 4 ปี หลังป่วยด้วยโรคคนแข็ง ซึ่งเพลงที่เธอขับร้องเป็นเพลงของเอดิต ปียัฟ นักร้องผู้เป็นตำนานของฝรั่งเศส ส่วนสถานที่หอไอเฟลก็เป็นตัวแทนของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ ศิลปะ และสถาปัตยกรรมของฝรั่งเศส ที่ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1889 เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของงานแสดงสินค้าโลก และได้รับการยกย่องให้เป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์แห่งฝรั่งเศส เมื่อปี ค.ศ.1964 อีกทั้งยังเคยเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลกมาก่อนด้วย
#okmd #knowledgeportal #parisolympics2024 #landmarksofparis #austerlitzbridge #seineriver #notredamecathedral #louvremuseum #eiffeltower #knowledgePortal #okmd #กระตุกต่อมคิด
ข้อมูลอ้างอิง : https://th.wikipedia.org, https://en.wikipedia.org, https://en.m.wikipedia.org/wiki/2024_Summer_Olympics_opening_ceremony, https://www.lpm.org/news.2024-07-28/major-musical-moments-during-the-olympic-opening-ceremony-in-paris#, https://en.m.wikipedia.org/wiki/Hymne_%C3%A0_I%27amour, https://www.pptvhd36.com/sport/news/229312, https://wikipedia/Austerlitz.JPG