ในยุคแห่งการดิ้นรนทำงานและมุ่งสร้างฐานะอันมั่นคง ก่อให้เกิดเทรนด์การเงินที่น่าสนใจและหลากหลาย อย่างเช่น เทรนด์ FIRE Movement ที่กำลังนิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งทำงานแล้วโหมเก็บเงินอย่างหนัก เพื่อจะได้มีอิสรภาพทางการเงินไวๆ
โดยเทรนด์ FIRE Movement นี้ ย่อมาจาก Financial Independence, Retire Early Movement เคยเกิดขึ้นในอดีตมาแล้ว และว่ากันว่า มีจุดเริ่มต้นจากหนังสือ Your Money or Your Life เขียนโดยวิกกิ โรบิน (Vicki Robin) กับโจ โดมิงเกซ (Joe Dominguez) กูรูด้านการเงิน เมื่อปี ค.ศ.1992 ที่กล่าวถึงแนวคิดของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการมีอิสรภาพทางการเงินไวๆ ด้วยการวางแผนออมเงินอย่างเข้มข้น และลงมือเก็บเงินอย่างหนัก จะได้มีเงินมากพอที่จะเกษียณตั้งแต่อายุน้อยๆ ไม่ต้องรอจนถึงอายุ 60 ปี
บางคนจึงเรียกเทรนด์นี้ว่า เทรนด์คนรุ่นใหม่เก็บเงินไฟลุก สอดคล้องกับคำว่า FIRE
ดังนั้น คนรุ่นใหม่กลุ่มนี้จะให้ความสำคัญกับการใช้เงินอย่างรอบคอบ ประหยัด ตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป พร้อมกับหารายได้เพิ่มขึ้นจากช่องทางต่างๆ ทั้งการทำงานเสริมและการลงทุน เพื่อจะเก็บเงินให้ได้มากๆ ในเวลาอันรวดเร็ว แล้วเลิกทำงานก่อนวัยเกษียณ เพื่อไปใช้ชีวิตตามใจปรารถนา
หลักการของการเก็บเงินตามเทรนด์ FIRE Movement
ประกอบด้วย
- การหารายได้ให้ได้มากที่สุด
- การเก็บออมอย่างหนัก ประมาณ 50-70% ของรายได้ หรือจนกว่าจะมีเงินออมอย่างน้อย 25 เท่าของรายจ่ายต่อปี ตามกฎ 25X และจะนำเงินออกมาใช้หลังเกษียณไม่เกินปีละ 4% ตามกฎ 4% ของการวางแผนการเงิน
- การนำเงินไปลงทุนอย่างเต็มที่ เพื่อให้สามารถเก็บเงินได้ตามเป้าหมาย
วิธีการจัดการให้สำเร็จโดยเร็ว
จากหลักการเก็บเงินไฟลุกข้างต้น หากต้องการให้สำเร็จโดยเร็ว ก็มีวิธีการจัดการได้ ดังนี้
- ควบคุมค่าใช้จ่าย ด้วยการลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น พร้อมกับจดบันทึกรายรับรายจ่าย เพื่อให้เห็นภาพว่าแต่ละเดือนใช้เงินไปกับอะไรบ้าง หากใช้ไปกับสิ่งไหนที่ไม่จำเป็นก็พยายามลดสิ่งนั้นลง และมีวินัยในการใช้เงินอย่างเคร่งครัด
- ลงทุนให้เงินเติบโต ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในกองทุนรวม ตราสารหนี้ หุ้น หรืออสังหาริมทรัพย์ ซึ่งแต่ละประเภทจะมีความเสี่ยงแตกต่างกัน จึงต้องศึกษาข้อมูลให้เข้าใจก่อนการลงทุนทุกครั้ง
- เพิ่มแหล่งรายได้ โดยนอกจากงานประจำแล้ว ควรหางานเสริมอื่นๆ ทำตามความถนัดด้วย เพื่อจะช่วยให้มีเงินเก็บเร็วมากขึ้น
จึงเห็นได้ว่า เทรนด์ FIRE Movement เหมาะกับคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง เพราะเป็นกลุ่มคนที่ขยับตัวไว คิดไว ทำไว ชอบวางแผนเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น และต้องการใช้ชีวิตอย่างอิสระ
กลุ่มย่อยในเทรนด์ FIRE Movement
เทรนด์นี้ยังมีการแบ่งย่อยตามแนวทางของการเก็บเงินออกเป็น 4 กลุ่มอีกด้วย ได้แก่
- Fat FIRE กลุ่มที่ให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตตามปกติ แต่ต้องการเร่งเก็บเงิน โดยใช้กลยุทธ์การลงทุนเชิงรุก คือเน้นนำเงินเก็บมาลงทุนเพื่อให้เงินเติบโตอย่างรวดเร็ว
- Lean FIRE กลุ่มที่เน้นรัดเข็มขัดด้วยการประหยัดค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน เพื่อให้สามารถเก็บเงินได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ และไปให้ถึงเป้าหมายไวๆ
- Barista FIRE กลุ่มที่มีรายได้จากการลงทุนครอบคลุมค่าใช้จ่ายได้ทั้งหมด ทำให้สามารถลาออกจากงานประจำได้ แต่ก็ยังคงหางานเสริมทำเพื่อสร้างรายได้เพิ่มขึ้น
- Coast FIRE กลุ่มที่มีการวางแผนเก็บเงินและลงทุนไปเรื่อยๆ โดยไม่แบ่งออกมาใช้จ่ายก่อน เพื่อจะมีเงินเก็บมากพอสำหรับนำไปลงทุนต่อในระยะยาว และบรรลุอิสรภาพทางการเงินก่อนวัยเกษียณ
- อาจทำให้รู้สึกกดดันจนไม่มีความสุข เพราะการใช้ชีวิตอย่างประหยัดเกินไป งดกิจกรรมสังสรรค์ต่างๆ ไม่ดูหนัง ฟังเพลง หรือท่องเที่ยวพักผ่อนบ้าง ย่อมนำมาซึ่งความเครียด
- ต้องเสี่ยงลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูง จึงจำเป็นต้องคอยติดตามสถานการณ์การลงทุนตลอดเวลา เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด ซึ่งจะทำให้กดดันและเครียดหนักได้เช่นกัน
- ต้องวางแผนใช้จ่ายเงินหลังเกษียณอย่างรอบคอบมากๆ เพราะการเกษียณไว ทำให้ขาดรายได้ประจำก่อนเวลาอันควร ซึ่งอาจส่งผลให้เงินร่อยหรอลงเรื่อยๆ และไม่เพียงพอไปจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต หากไม่วางแผนการใช้จ่ายเงินให้ดีๆ