ปี ค.ศ.2025 จะเป็นอีกปีหนึ่งที่โลกมีการเปลี่ยนแปลงหลากหลายด้าน โดยเฉพาะจากอิทธิพลของเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมอัจฉริยะ ซึ่งทำให้ทุกสิ่งสามารถติดต่อเชื่อมโยงถึงกันได้หมด ส่งผลให้เกิดเทรนด์ต่างๆ ที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนผ่านสู่โลกใหม่

โดยการคาดการณ์จากรายงานวิสัยทัศน์อุตสาหกรรมทั่วโลก ปี ค.ศ.2025 (Global Industry Vision-GIV2025) ชี้ให้เห็นถึงเทรนด์โลกในปี ค.ศ.2025 เอาไว้ 10 เทรนด์ ดังนี้

• เทรนด์ใช้ชีวิตกับหุ่นยนต์ (Living with Bots)
  เมื่อทุกสิ่งสามารถติดต่อเชื่อมโยงถึงกันได้หมด และอุปกรณ์อัจฉริยะมีการเติบโตอย่างทวีคูณ หุ่นยนต์ก็จะเข้ามีบทบาทในชีวิตสูงขึ้น จากการเป็นแค่อุปกรณ์ไปสู่การเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะ ซึ่งคาดว่า ในปี ค.ศ.2025 จะมีอัตราการใช้หุ่นยนต์ในครัวเรือน 14% โดยแบ่งหุ่นยนต์นี้ออกได้ประมาณ 4 ประเภท คือ
  - Nursing Bot หุ่นยนต์พยาบาล ช่วยในเรื่องของสังคมสูงอายุ การดูแลรักษาผู้ป่วยไข้
  - Companion Bot หุ่นยนต์เพื่อนมนุษย์ ช่วยเป็นเพื่อนหรือดูแลเลี้ยงเด็ก
  - Butler Bot หุ่นยนต์แม่บ้าน ช่วยทำงานบ้าน เช่น หุ่นยนต์ดูดฝุ่น หุ่นยนต์ล้างจาน หุ่นยนต์ทำอาหาร
  - Bionic Bot หุ่นยนต์เสริมอวัยวะ ซึ่งจะเข้ามาอยู่ในร่างกายหรือสวมกับร่างกายมนุษย์ เพื่อช่วยให้ใช้ชีวิตได้ดีขึ้น เช่น แว่นตาอัจฉริยะ ชุดใส่แล้วเดินเหินคล่องตัว 
  
  
• เทรนด์ซูเปอร์ไซต์ (Super Sight)
  จากความก้าวหน้าของเทคโนโลยี 5G, AR/VR (เทคโนโลยีผสานระหว่างโลกจริงกับโลกเสมือน/เทคโนโลยีโลกเสมือน), Machine Learning (การเรียนรู้ของเครื่อง) และเทคโนโลยีใหม่ๆ จะช่วยให้มนุษย์สามารถมองเห็นระยะทาง สัดส่วน พื้นผิว ได้ไกลและละเอียดกว่าที่เคย จึงเปิดมุมมองให้เห็นผู้คน สังคม วัฒนธรรม และธุรกิจที่หลากหลายมากขึ้น โดยคาดว่าจะมีบริษัทต่างๆ นำเทคโนโลยี AR/VR มาใช้เพิ่มขึ้นอีก 10% เช่น การใช้โดรนในการตรวจสอบพื้นผิวถนน การใช้หุ่นยนต์ในการตรวจสอบท่อใต้ดิน หรือการใช้ AR/VR ในการช่วยสร้างงานศิลปะที่สูญหายไป 
  
  
• เทรนด์ซีโรเสิร์ช (Zero Search)
  การทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ต่างๆ จะถูกขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและเซ็นเซอร์ที่มีความสามารถในการคาดการณ์ โดยผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องถาม การค้นหาในอนาคตจะไม่มีปุ่มกด และเครือข่ายสังคมส่วนบุคคลจะสร้างขึ้นได้อย่างง่ายดาย รวมถึงบริษัทหรือภาคอุตสาหกรรมต่างๆ จะได้ประโยชน์จากการบำรุงรักษา โดยไม่ต้องค้นหาข้อผิดพลาดด้วยตัวเอง ซึ่งคาดว่าเจ้าของอุปกรณ์อัจฉริยะ 90% จะใช้ผู้ช่วยส่วนตัวนี้ 
  
  
• เทรนด์ถนนที่มีรูปแบบเฉพาะ (Tailored Streets)
  โดยการคมนาคมหรือระบบเดินทางจะเชื่อมโยงผู้คนกับยานพาหนะ และโครงสร้างพื้นฐานเข้าด้วยกัน ทำให้การจราจรไม่แออัด และสามารถตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินได้อย่างรวดเร็ว การใช้ชีวิตจึงราบรื่นยิ่งขึ้น ซึ่งคาดการณ์ว่า ยานพาหนะประมาณ 15% จะมีการนำเทคโนโลยี Cellular Vehicle-to-Everything (รถยนต์หรือยานพาหนะในการเดินทางสามารถสื่อสารกับทุกสิ่งรอบข้างได้) มาใช้ เพื่อการเดินทางที่ไหลลื่นกว่าเดิม 
  
  
• เทรนด์ทำงานกับหุ่นยนต์ (Working with Bots)
  นอกจากหุ่นยนต์จะเข้ามามีบทบาทในชีวิตมากขึ้นแล้ว ในโลกของการทำงาน หุ่นยนต์ยังจะเข้ามาแทนที่การทำงานที่ซ้ำๆ มีความเสี่ยง และต้องการความแม่นยำสูง เพื่อช่วยยกระดับการทำงานหรือการผลิตให้ดีขึ้น โดยคาดว่า ปี ค.ศ.2025 นี้ ในอุตสาหกรรมจะมีอัตราส่วนหุ่นยนต์ต่อมนุษย์อยู่ที่หุ่นยนต์ 103 เครื่องต่อพนักงานทุกๆ 10,000 คนทีเดียว
  
  
• เทรนด์ความคิดสร้างสรรค์แต่งเสริม (Augmented Creativity)
  โดยระบบ AI Cloud จะเข้ามาช่วยลดข้อจำกัดและช่องว่างในการทดลองทางวิทยาศาสตร์ การพัฒนานวัตกรรมและศิลปะ เพื่อให้ทุกคนสามารถใช้ความคิดสร้างสรรค์ได้มากขึ้นอย่างทั่วถึง ซึ่งคาดว่าจะมีองค์กรขนาดใหญ่นำ AI มาใช้เป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจมากถึง 97% 
  
  
• เทรนด์การสื่อสารแบบต่อเนื่อง (Prictionless Communication)
  จะเกิดการสื่อสารแบบไร้รอยต่อระหว่างบริษัทกับลูกค้า โดยใช้การวิเคราะห์ข้อมูลด้วย AI และ Big Data เข้ามาช่วยในการประสานงานและลดช่องว่างทางด้านภาษา เพื่อให้เกิดความเข้าใจข้อมูลที่ตรงกันและสร้างความเชื่อใจมากขึ้น โดยคาดว่า 86% ขององค์กรจะนำประโยชน์จาก AI และ Big Data ของตนเองมาใช้อย่างเต็มที่ 
  
  
• เทรนด์เศรษฐกิจการอยู่ร่วมกัน (Symbiotic Economy)
  จะเกิดการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้บนแพลตฟอร์มที่มีพื้นฐานเดียวกันในบริษัทต่างๆ เพื่อให้เกิดการประสานงานและความร่วมมือกัน รวมถึงการแบ่งปันข้อมูลกัน เพื่อให้สภาพแวดล้อมในการทำงานพัฒนาขึ้น อันนำไปสู่ผลิตผลที่มากขึ้น โดยคาดว่าแต่ละบริษัทจะมีการใช้เทคโนโลยี Cloud และแอปพลิเคชันทางธุรกิจอยู่บน Cloud 85%
  
  
• เทรนด์การติดตั้งใช้งาน 5G อย่างรวดเร็ว (5Gs Rapid Rollout )
  จะมีการติดตั้งการใช้งาน 5G ที่ช่วยให้เกิดการเชื่อมต่อไร้สายเร็วกว่ายุคก่อนๆ จึงเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับธุรกิจและการใช้งานส่วนบุคคล ซึ่งคาดว่า ปี ค.ศ.2025 ประชากร 58% ของโลกจะสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีนี้ได้
  
  
• เทรนด์กำกับดูแลด้านดิจิทัลทั่วโลก (Global Digital Governance)
  จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีดิจิทัลจะนำมาซึ่งมาตรฐานด้านการแบ่งปันข้อมูลและการนำข้อมูลไปใช้ โดยคาดว่าจะมีปริมาณข้อมูลทั่วโลกสูงถึงปีละ 1 ล้านล้านกิกะไบต์

#trends2025 #10megatrends #GIV2025 #เทรนด์2025 #10เทรนด์โลกที่ต้องจับตามอง #knowledgeportal #okmd #กระตุกต่อมคิด 

ข้อมูลอ้างอิง :
https://cio.economictimes.indiatimes.com/news/strategy-and-management/hauwei-predicts-10-megatrends-for-2025/70599987, www.tiscowealth.com/trust-magazine/Issue-61/global-trend-61.html