ในที่สุดพิพิธภัณฑ์แกรนด์อียิปต์ (The Grand Egyptian Museum) พิพิธภัณฑ์ระดับโลกแห่งใหม่ ก็ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ.2567 ไปเรียบร้อยแล้ว ท่ามกลางความยิ่งใหญ่ตระการตา สมกับการรอคอยมายาวนานนับ 20 ปี แม้ในช่วงแรกของการเปิดนี้จะเป็นแบบจำกัดจำนวนผู้เข้าชมก็ตาม 

โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ มีแนวคิดในการก่อสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2545 และเป็นโครงการขนาดยักษ์ของอียิปต์ ที่มีความตั้งใจในการก่อสร้างให้เป็นพิพิธภัณฑ์ทางโบราณคดีที่สมบูรณ์ที่สุด รัฐบาลอียิปต์จึงทุ่มงบประมาณก่อสร้างมูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์ ในการเนรมิตขึ้นมา บนพื้นที่ลาดชันกว่า 480,000 ตารางเมตร ด้วยลักษณะอาคารสวยงามโอ่อ่าที่ดึงเอาจุดนำสายตาของยอดพีระมิดทั้งสามมาเป็นตัวตั้งในการออกแบบ และตัวอาคารส่วนใหญ่ตั้งอยู่ใต้ดิน ซึ่งออกแบบโดย Heneghan Peng Architects บริษัทสถาปนิกในเมืองดับลิน ไอร์แลนด์ เพื่อหลีกเลี่ยงแสงอาทิตย์ในการดูแลรักษาวัตถุโบราณที่จะนำมาเก็บไว้ที่นี่ รวมถึงไม่เป็นการรบกวนภูมิทัศน์โดยรอบด้วย

นอกจากนั้น เดิมทีพิพิธภัณฑ์แกรนด์อียิปต์ยังเคยมีชื่อเรียกว่า พิพิธภัณฑ์กีซา (Giza Museum) เพราะตั้งอยู่ในเมืองกีซา ห่างจากมหาพีระมิดกีซา (Great Pyramid of Giza) หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกเพียงแค่ 2 กิโลเมตรเท่านั้น ทำให้สามารถมองออกไปเห็นมหาพีระมิดนี้ รวมถึงโลงศพ รูปปั้น และสมบัติของฟาโรห์ตุตันคาเมน (King Tutankhamun) ได้ในเวลาเดียวกัน คนทั่วโลกจึงต่างปักหมุดที่จะเข้าชมอย่างจดจ่อ

แต่สำคัญเหนืออื่นใดก็คือ พิพิธภัณฑ์แกรนด์อียิปต์ถือเป็นพิพิธภัณฑ์วัตถุโบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลก เนื่องจากภายในได้รวบรวมวัตถุโบราณล้ำค่าทางประวัติศาสตร์เก่าแก่กว่า 100,000 ชิ้น เอาไว้ให้ชมอย่างตื่นตาตื่นใจ ซึ่งหลายชิ้นไม่เคยจัดแสดงที่ไหนมาก่อน ภายใต้การจัดแสดงที่แบ่งออกเป็น 12 ห้อง และแต่ละห้องมีวัตถุโบราณแสดงไม่ต่ำกว่า 15,000 ชิ้น สำหรับบอกเล่าเรื่องราวอารยธรรมอียิปต์โบราณยุคต่างๆ ที่ผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่และสื่อมัลติมีเดียในการนำเสนออย่างน่าสนใจ เพื่อให้เกิดความเพลิดเพลิน รวม 4 ยุคด้วยกัน ได้แก่

• Pre-Dynasty / Old Kingdom ยุคอาณาจักรเก่าแก่ อายุ 3,100 ปีก่อนคริสตกาล ควบคู่กับยุค The Old Kingdom  หรือยุคก่อสร้างพีระมิด
• Middle Kingdom ยุคอาณาจักรกลาง
• New Kingdom ยุคอาณาจักรใหม่ สมัยฟาโรห์ตุตันคาเมนและฟาโรห์รามเสส
• Graeco-Roman ยุคกรีกโรมัน 

โดยก่อนจะเข้าสู่ห้องจัดแสดงดังกล่าว บริเวณจุดทางเข้าพิพิธภัณฑ์จะมีสวนประติมากรรมและรูปปั้นขนาดใหญ่ของฟาโรห์รามเสสที่ 2 ซึ่งเป็นฟาโรห์ผู้มีบทบาทในการพัฒนาอียิปต์ จากนั้นเมื่อเข้ามาห้องโถงภายในก็จะได้พบกับบันไดทอดยาวเรียงรายไปด้วยรูปปั้นเหล่ากษัตริย์ เทพเจ้า และโบราณวัตถุมากมาย ที่ขุดพบในสุสานของฟาโรห์ตุตันคาเมน กษัตริย์อียิปต์ผู้โด่งดังและมั่งคั่งที่สุด จำนวนกว่า 5,400 ชิ้น ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากทองคำแท้ เสื้อผ้า หรือรองเท้า ฯลฯ โดยฮาเวิร์ด คาร์เตอร์ (Howard Carter) นักโบราณคดีชาวอังกฤษ เมื่อปี พ.ศ.2465 พร้อมกับการบอกเล่าเรื่องราวชีวิตประจำวันของฟาโรห์และการใช้ชีวิตหลายพันปีในยุคนั้น และหลังจากซึมซับกับอารยธรรมอียิปต์โบราณในยุคต่างๆ อย่างเต็มอิ่มแล้ว ต้องไม่พลาดชมความงามอลังการของพีระมิดกีซาจากมุมมองภายในพิพิธภัณฑ์แกรนด์อียิปต์แห่งนี้ดังระบุไว้ตอนต้น รวมถึงเสาโอเบลิสก์ (Hanging Obelisk) แห่งแรกของโลก ที่ติดตั้งไว้ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ด้วย 

จึงกล่าวได้ว่า พิพิธภัณฑ์แกรนด์อียิปต์แห่งนี้ ไม่เพียงเป็นพิพิธภัณฑ์วัตถุโบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้อารยธรรมโบราณที่ควรค่าแก่การศึกษาอย่างยิ่ง ในโอกาสเปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการ เลยสร้างความตื่นเต้นยินดีให้กับคนทั่วโลก

#GrandEgyptianMuseum #GEMGrandOpening #พิพิธภัณฑ์แกรนด์อียิปต์ #พิพิธภัณฑ์วัตถุโบราณที่ใหญ่ทีสุดในโลก #แหล่งเรียนรู้อารยธรรมโบราณสุดยิ่งใหญ่ #แหล่งเรียนรู้ #knowledgeportal #okmd #กระตุกต่อมคิด 

ข้อมูลอ้างอิง : https://en.m.wikipedia.org/wiki/Grand_Egyptian_Museum, https://thestandard.co/the-grand-egpytian-museum, https://www.style-stay.com/travel/the-grand-egyptian-museum/, www.cntraveler.com 

ภาพอ้างอิง : เฟซบุ๊ก Grand Egyptian Museum, www.wikipedia.org