ใช้ ‘ค่าย’ เป็นคลาส

13 สิงหาคม 2025
|
9 อ่านข่าวนี้
|
1


คนเรามักจะเรียนรู้ได้ดีที่สุดเมื่อมีสิ่งเหล่านั้นเป็นส่วนร่วมในชีวิต ไม่ใช่แค่การฟัง ไม่ใช่แค่การดู แต่ได้ลงมือและได้รู้สึกต่างหาก ในโลกที่หมุนเร็วด้วยเทคโนโลยี แต่ผู้คนกลับโหยหาความเข้าใจในตนเองมากกว่าเดิม การเรียนรู้จึงไม่อาจจำกัดอยู่เพียงในห้องสี่เหลี่ยมที่เต็มไปด้วยโต๊ะ เก้าอี้ และคำสั่งสอน เราขวนขวายเรียกหาอะไรที่มีชีวิตมากกว่านั้น การมีส่วนร่วม การทดลองทำ หรือแค่ได้สัมผัสกับสภาพแวดล้อมนั้นซึ่งบางครั้งมันอาจจะมาในรูปของเสียงเพลง วงดนตรีที่ซ้อมหลังเลิกเรียน หรือค่ายที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความตั้งใจของผู้ที่อยากผลักดัน

ในบริบทนี้ ทฤษฎีการเรียนรู้แบบมีประสบการณ์ (Experiential Learning Theory – ELT) ของ Kolb ได้กลายเป็นเสาหลักที่อธิบายว่าการเรียนรู้ที่แท้จริงเกิดขึ้นได้อย่างไร ELT ไม่ได้บอกให้เราท่องจำ แต่นำทางให้เรามีประสบการณ์ตรง (Concrete Experience) จากนั้นจึงสะท้อนคิด (Reflective Observation) เพื่อสร้างความเข้าใจใหม่ (Abstract Conceptualization) และลองนำกลับไปใช้ในสถานการณ์อื่น ๆ (Active Experimentation) วนเวียนเป็นวงจรที่ขับเคลื่อนด้วยชีวิตจริง และหนึ่งในพื้นที่ที่วงจรนี้เติบโตได้อย่างเป็นธรรมชาติ คือ ค่าย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เด็กจะได้เรียนรู้ผ่านร่างกาย ความคิด ความรู้สึก และความสัมพันธ์กับผู้อื่นอย่างแท้จริง

ค่ายไม่ใช่แค่พื้นที่ทำกิจกรรมบันเทิงเพียงอย่างเดียว ยังเป็นพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้เด็กได้พัฒนาทักษะทางสังคมอีกด้วย ตั้งแต่การสื่อสาร การทำงานเป็นทีม การฟังและการแสดงความเห็น ไปจนถึงการตัดสินใจ ค่ายหนึ่งค่ายสามารถออกแบบให้สอดแทรกทั้งทักษะทางร่างกาย วิชาการ ฝีมือ และอารมณ์ ผู้เข้าร่วมจะได้รู้จักตัวเองและผู้อื่นผ่านการเผชิญสถานการณ์ที่ไม่มีอยู่ในบทเรียน แต่เกิดขึ้นจริงในการอยู่ร่วมกันกับคนในสังคม ค่ายจึงเปรียบเสมือนสนามเด็กเล่นที่ผู้เข้าร่วมสามารถพลาดได้ เรียนรู้ได้ และเติบโตไปกับมัน

 เมื่อเรากำลังพูดถึง “ค่าย” ในฐานะพื้นที่ของการเรียนรู้ที่แท้จริง ค่าย Music Boost Camp คืออีกหนึ่งตัวอย่างที่น่าสนใจ ไม่ใช่เพราะมันเต็มไปด้วยกิจกรรมแปลกใหม่หวือหวา แต่เพราะมันลดเสียงรบกวนของการแข่งขันและเปิดพื้นที่ให้เด็ก ๆ ได้ฟังตัวเองอย่างแท้จริง ถึงแม้พวกเขาจะมีทักษะและความเก่งอยู่ในมือ แต่คำถามสำคัญในใจกลับไม่ใช่จะฝึกยังไงให้เก่งขึ้นกว่าเก่า แต่คือ “เราเป็นใครกันแน่ในโลกของดนตรี”

ซึ่งในภาษาของ Kolb นี่คือกระบวนการเรียนรู้ผ่านที่เกิดขึ้นจากการได้ใช้ชีวิตร่วมกับคนในวงการจริง ได้ทบทวนว่าตัวเองรู้สึกอย่างไรกับสิ่งที่พบ จากนั้นเมื่อตัวตนเริ่มถูกประกอบขึ้นจากชิ้นส่วนที่กระจัดกระจาย และในที่สุดคือเมื่อเด็กบางคนเริ่มค้นพบ ปรับปรุง เติมแต่ง หรือไม่ผิดเลยถ้าอยากลองทางใหม่ นี่คือค่ายในความหมายที่ไม่ใช่สถานที่ แต่คือช่วงเวลาหนึ่งของชีวิตที่เด็กได้หยุดคิดจริง ๆ ว่า เขาอยากเติบโตเป็นใครในโลกนี้


ข้อมูลอ้างอิง

  • วรรณี เจตจำจงนุช และเกียรติศักดิ์ แสงอรุณ. (2007). ค่ายการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตเยาวชน: โครงการ
  • บริการวิชาการในความร่วมมือของ คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และธนาคารอาคารสงเคราะห์. วารสารการศึกษาคณะศึกษาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • สุดาวรรณ เครื่อพานิช. (2012). การเรียนรู้ผ่านกระบวนการค่าย.
  • สืบค้นจาก https://www.moe.go.th/การเรียนรู้ผ่านกระบวนก%2F
  • Kolb, D.A. (1984). Experiential learning: Experience as the source of learning and development. Prentice Hall.
  • Schoolinks. (n.d.). Summer experiential learning: The benefits of summer camps for students. https://www.schoolinks.com/resource/summer-experiential-learning-the-benefits

0 ความคิดเห็น

Ask OKMD AI