โอกาสใหม่ในยุคดิจิทัล AI กับการพัฒนาทักษะอาชีพของผู้พิการ และการพัฒนาระบบสรรหาทรัพยากรบุคคล

12 พฤศจิกายน 2025
|
8 อ่านข่าวนี้
|
0


        AI มีศักยภาพมหาศาลในการสนับสนุนผู้พิการที่กำลังหางาน ทั้งการพัฒนาทักษะสำหรับประกอบอาชีพเพื่อผู้พิการ และการเพิ่มโอกาสในการได้งานที่เหมาะสมกับข้อจำกัดและความสามารถจากการปรับปรุงระบบการสรรหาบุคลากรบุคคล ทั้งหมดขับเคลื่อนด้วย AI

ผู้พิการสามารถนำ AI มาปรับใช้เพื่อพัฒนาทักษะตนเอง

         รายงานองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ระบุว่า ในยุค AI ผู้พิการต้องเผชิญกับการมีส่วนร่วมในกำลังแรงงานที่ลดลง การขาดการเข้าถึงการฝึกอบรมอาชีพ และอคติในการสรรหาบุคลากรและความก้าวหน้าในอาชีพ จึงเป็นเหตุผลว่าเพราะเหตุใด AI จึงเหมาะสมที่จะนำมาปรับใช้เพื่อพัฒนาทักษะของผู้พิการมากขึ้น

ซึ่งผู้พิการสามารถนำไปประยุกต์หรือฝึกฝนในแนวทางต่อไปนี้

        1. ใช้ AI เพื่อค้นหาหลักสูตรเรียนฟรี หลักสูตรเรียนฟรีสำหรับผู้พิการ เช่น IBM SkillsBuild แพลตฟอร์ม AI แนะนำอาชีพและคอร์สเรียนฟรี ที่มีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นผู้ที่ต้องการเปลี่ยนอาชีพ เยาวชน ผู้ขาดโอกาส รวมถึงผู้พิการ ดำเนินการโดย IBM ร่วมกับหน่วยงานการศึกษาและองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรทั่วโลก และ AI Skills 4 Accessibility ของ Microsoft หลักสูตรออนไลน์ระยะสั้นที่ออกแบบมาเพื่อชุมชนผู้พิการ โดยมีเนื้อหาพื้นฐานเกี่ยวกับ AI การใช้งานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เครื่องมือเข้าถึงของ Microsoft ได้แก่ Seeing AI, Immersive Reader, Copilot และอีกมาก หลังจบยังจะได้รับ Microsoft Achievement Badge ที่นำไปแสดงใน LinkedIn ได้

       2. ใช้ AI ช่วยสร้างโอกาสสมัครงาน เริ่มได้ตั้งแต่การใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลส่วนตัวหรือ AI Career Recommendation ที่จะบอกถึงทักษะ ความสนใจ ไปจนถึงงานที่เหมาะกับรูปแบบความพิการ จากนั้นสร้างประวัติการทำงานอัตโนมัติจากทักษะและประวัติการทำงานที่มี และยังสามารถใช้ AI Chatbot หรือระบบจำลองสัมภาษณ์ (Mock Interview) ช่วยให้ผู้พิการฝึกตอบคำถามสัมภาษณ์งานได้อย่างมั่นใจ ซึ่งเกิดเป็นข้อดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้พิการออทิสติกหรือทางการพูดให้สามารถฝึกในพื้นที่ที่ปลอดภัยก่อนสัมภาษณ์จริง นอกจากนี้ AI ที่นำมาใช้กับการแปลเสียงเป็นข้อความ หรือจากข้อความเป็นเสียงจะช่วยให้การสื่อสารกับนายจ้างและผู้ร่วมงานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งยังสามารถเรียนรู้ภาษาในเวลาเดียวกัน

ฝ่ายสรรหาทรัพยากรบุคคลสามารถใช้ AI ช่วยได้มาก

       สำหรับองค์กรหรือภาคธุรกิจที่เปิดรับผู้พิการเข้ามาร่วมงาน ฝ่ายสรรหาทรัพยากรบุคคลสามารถใช้ AI เข้ามาช่วยปรับระบบให้มีประสิทธิภาพได้เช่นกัน

       1. ใช้ AI ช่วยลดอคติด้วยการออกแบบ AI Resume Screening หากระบบออกแบบมาอย่างรอบคอบจะช่วยให้เกิดการประเมินคุณค่าจากความสามารถ แทนรูปลักษณ์หรือวิธีสื่อสาร สามารถสนับสนุนการจ้างงานผู้พิการได้บนหลักความเท่าเทียม เช่น มีการออกแบบให้ลดข้อมูลส่วนบุคคลอย่าง ชื่อ เพศ อายุ และความพิการ เพื่อป้องกันอคติแบบไม่รู้ตัวที่อาจเกิดขึ้น โดยมีหนึ่งตัวอย่างที่น่าศึกษา คือ โครงการ Optimizing Diversity with Disability ของศูนย์วิจัยการออกแบบเชิงบูรณาการ (IDRC) ในประเทศแคนาดา เพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องมือคัดกรอง AI จะไม่ยึดการใช้ข้อมูลเดิมที่ไม่ครอบคลุมกลุ่มผู้พิการ

       2. ใช้ AI เปิดโอกาสให้แหล่งงานเข้าถึงผู้พิการได้มากขึ้น Capito และ U31 เป็นบริษัทที่มีฐานอยู่ในประเทศออสเตรียและประเทศฝรั่งเศสตามลำดับ ทั้งสองบริษัทเสนอส่วนเสริมเบราว์เซอร์และส่วนเสริมของแอปพลิเคชันเดสก์ท็อปโดยใช้การประมวลผลภาษาธรรมชาติ เพื่อรองรับการแปลเนื้อหาที่เขียนเป็นภาษาปกติโดยอัตโนมัติ ช่วยให้ ‘ทุกคน’ เข้าใจได้ง่าย และส่งเสริมการเข้าถึงเนื้อหาสำหรับผู้พิการ เช่นเดียวกับแชตบอตที่พัฒนาโดย Zammo.ai สหรัฐอเมริกา ที่ออกแบบเพื่อให้ผู้พิการทางสายตาและผู้ที่มีความหลากหลายของระบบประสาทเข้าถึงเว็บไซต์หางาน เช่น LinkedIn หรือ Indeed ตามข้อมูล Using AI to Support People with Disability in the Labour Market, Opportunities and Challenges โดย OECD ARTIFICIAL INTELLIGENCE PAPERS พฤศจิกายน ค.ศ. 2023 No. 7

ในประเทศไทย AI สามารถสนับสนุนโอกาสการทำงานอย่างไร

       เช่นเดียวกันกับนานาประเทศที่ให้ความสำคัญกับผู้พิการ ประเทศไทยมีหลายแนวทางในการนำ AI มาสนับสนุนด้านอาชีพทั้งในขั้นตอนยกระดับความรู้ ตอบโจทย์แนวคิดการเรียนรู้ตลอดชีวิตและช่วยในการจับคู่งานกับผู้พิการ

       • การสนับสนุนความรู้ด้าน AI ที่ช่วยสร้างโอกาสให้ผู้พิการ ประเทศไทยมีนโยบายสนับสนับสนุนให้ผู้พิการใช้ AI ในการยกระดับโอกาสตนเองท่ามกลางการแข่งขันที่สูงขึ้น ซึ่งหนึ่งตัวอย่างคือภารกิจที่กองส่งเสริมสิทธิและสวัสดิการคนพิการ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ที่ได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ Empowering Abilities with AI: เปิดโลก Generative AI เพื่อศักยภาพไร้ขีดจำกัดของคนพิการในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2568 เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และการใช้งาน Generative AI พัฒนาศักยภาพและมุมมองในการทำงาน สร้างเครือข่ายและการแลกเปลี่ยน รวมทั้งส่งเสริมการพัฒนาและโอกาสการจ้างงาน ซึ่งผู้เข้าร่วมประกอบด้วยผู้พิการ ผู้ดูแล ผู้สังเกตการณ์ วิทยากร สถานประกอบการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เน้นเพิ่มขีดความสามารถผ่านการ Upskill และ Reskill โดยความร่วมมือระหว่างกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ และ Vulcan Coalition

       นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ประเทศไทยยังได้เคยจัดการแข่งขัน AI for Accessibility Hackathon 2019 ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2562 เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจในด้านการพัฒนาเทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ต่างๆ ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการหาโซลูชั่น เพื่อช่วยขจัดอุปสรรคและสร้างความเท่าเทียม

       • การใช้ AI ช่วยสร้างโอกาสจับคู่งานที่เหมาะสมให้กับผู้พิการ ทั้งภาครัฐและเอกชนไทยได้ประยุกต์นำ AI มาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกให้คนพิการในการเข้าถึงการจ้างงานได้ง่ายขึ้น และสร้างอาชีพที่มั่นคงมากขึ้น เช่น การที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้ลงนาม MOU ในโครงการ เชื่อมคน เชื่อมงาน เพื่อคนพิการอย่างยั่งยืน ร่วมกับภาคีเพื่อสร้างแพลตฟอร์มหางานสำหรับคนพิการอย่าง JobFinFin ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2567 ทั้งยังได้ถูกออกแบบให้เป็นมิตรกับผู้พิการด้านการมองเห็น มีการใช้งานด้วยเสียง ช่วยให้คนพิการหางานได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยยังคงมีตัวอย่างสตาร์ทอัพที่โดดเด่นคือ Vulcan Coalition แพลตฟอร์ม AI ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้พิการทำงานได้อย่างมีศักยภาพ มีฟีเจอร์จับคู่ จัดการสมัครงานอัตโนมัติ แจ้งสถานะ พิมพ์เอกสาร ส่งถึงผู้สมัครผ่านโปรแกรมอ่านหน้าจอ

        แม้จะยังคงมีความกังวลเรื่องคติในการจ้างงานจาก AI ที่ฝึกฝนอย่างไม่เหมาะสม และการถูก AI แย่งงานในบางตำแหน่งอาชีพ อย่างไรก็ดี ปัจจุบัน AI มีบทบาทสำคัญในทั้งการสร้างโอกาสให้ตนเองและการส่งเสริมการจ้างงานสำหรับผู้พิการได้อย่างมากในตลาดแรงงาน มากกว่านั้นเมื่อมองในมิติที่กว้างขึ้น การใช้งาน AI ยังเป็นแนวโน้มที่ดีในการว่าจ้างงานในหลายประเทศที่ก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัย

การใช้งานอัลกอริทึมเพื่อการจับคู่ผู้พิการและงาน 

        แพลตฟอร์มจับคู่งานที่พัฒนาโดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแวนเดอร์บิลต์ ในสหรัฐอเมริกา ใช้ข้อมูลการเคลื่อนไหวดวงตาของผู้สมัครที่เป็นออทิสติก (เก็บรวบรวมไว้ขณะที่ผู้สมัครกำลังเล่นเกมไขปริศนา) เพื่อระบุจุดแข็งทางปัญญาและคาดการณ์ประเภทงานที่พวกเขาจะประสบความสำเร็จมากที่สุด ในทำนองเดียวกันอัลกอริทึมการจับคู่ที่พัฒนาโดย Cogmap.ai ได้ใช้ข้อมูลความสามารถในการทำงานอัตโนมัติของผู้สมัคร (เก็บรวบรวมไว้ขณะที่ผู้สมัครกำลังเล่นเกมสั้นๆ) นำไปสู่การจับคู่งานที่ดีขึ้น

ข้อมูลอ้างอิง

- blogs.microsoft.com

- dep.go.th

- digileaders.com

- m-society.go.th

- newswit.com

- oecd.org

- skillsbuild.org

- undp.org


0 ความคิดเห็น

Ask OKMD AI