สำรวจธุรกิจและองค์กรทั่วโลก เสริมพลังด้านวัฒนธรรมด้วย AI

ยุคที่เทคโนโลยีก้าวไปไกล ธุรกิจได้นำเทคโนโลยี ‘AI’ มาผสานกับ ‘วัฒนธรรม’ เพื่ออนุรักษ์ ถ่ายทอด และสร้างสรรค์มิติใหม่ทางศิลปะ ภาษา และอัตลักษณ์ท้องถิ่น สร้างมูลค่าทางวัฒนธรรม ชวนคุณมาสำรวจธุรกิจที่นำ AI มาช่วยเสริมพลังให้วัฒนธรรมข้ามพรมแดนได้ไกล
ถามได้-ตอบได้กับ Ask Mona สตาร์ทอัพเพื่อสนับสนุนงานพิพิธภัณฑ์จากฝรั่งเศส
Ask Mona ใช้ AI ส่งเสริมการเข้าถึงวัฒนธรรม ศิลปะ และพิพิธภัณฑ์ โดยเฉพาะกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ ผ่านการใช้แชตบอตอัจฉริยะที่สามารถตอบคำถาม พูดคุย และแนะนำประสบการณ์ทางวัฒนธรรมในรูปแบบที่เข้าถึงง่ายและเป็นมิตรกับผู้ใช้
ซึ่งมาริยง คาร์เร ศิลปิน โปรแกรมเมอร์ ซีอีโอ และผู้ร่วมก่อตั้ง Ask Mona ได้เคยอธิบายถึงวิธีที่ AI กำลังเปลี่ยนแปลงประสบการณ์ของผู้เข้าชมในสถาบันทางวัฒนธรรมผ่านการโต้ตอบส่วนบุคคล โดยผู้ช่วย AI ‘Mona’ ที่พวกเขาสร้างขึ้นได้อย่างยอดเยี่ยม เพราะเริ่มได้ตั้งแต่ขั้นตอนก่อนการเยี่ยมชม การเยี่ยมชม และการซื้อของขวัญหลังเยี่ยมชมและสัมผัสประสบการณ์ ช่วยกระตุ้นการมีส่วนร่วม และช่วยให้ผู้เข้าชมถามคำถามและรับข้อมูลที่ครอบคลุมตามความต้องการได้จริง
เธอได้เน้นถึงความท้าทายในการควบคุมข้อมูลที่ป้อนเข้าสู่ระบบปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งนับเป็นปัญหาทั่วทั้งภาคส่วนรวมทั้งในงานด้านวัฒนธรรม Ask Mona ได้รับความไว้วางใจในการสนับสนุนงานองค์กรต่างๆ ในทุกอุตสาหกรรม ที่มากกว่า 150 แห่งทั่วโลกในปัจจุบัน ตั้งแต่เนื้อหาทางการศึกษาไปจนถึงคำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยความอัจฉริยะที่เพิ่มมากขึ้นของ AI ทั้งยังช่วยสนับสนุนการเรียนรู้ตลอดชีวิตและการเรียนรู้แบบเฉพาะบุคคล อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.askmona.ai
Art Recognition วิเคราะห์งานศิลป์ด้วย AI มิติใหม่การประมูล ในสวิตเซอร์แลนด์
เราจะมั่นใจได้แค่ไหนเมื่อ AI ทำหน้าที่ยืนยันว่างานศิลปะชิ้นที่อยู่ในมือคุณเป็นของแท้หรือของเทียม จากภาพที่ถูกจับโดยโทรศัพท์แล้วอัปโหลดให้ AI ช่วยตรวจ โดยเปรียบเทียบลายฝีแปรง สี โครงสร้างของภาพ และปัจจัยสำคัญอื่นๆ ที่น่าสนใจคือแนวทางนี้ได้มีการใช้งานจริงแล้ว โดยสถาบันประมูลบางแห่ง รวมถึง Germann Auction House ในเมืองซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตามรายงานจากบทความ First A.I.-Authenticated Artwork Sells Big at Auction in ‘Pivotal Test Case’ ธันวาคม ค.ศ. 2024 โดยแพลตฟอร์มออนไลน์ชั้นนำระดับโลกที่เกี่ยวกับตลาดศิลปะ และจากการยืนยันโดยคารินา โปโปวิชี ผู้ก่อตั้ง Art Recognition บริษัทสตาร์ทอัพสัญชาติสวิสที่ให้บริการตรวจสอบความถูกต้องด้วย AI เธอเสริมว่าบริษัทประมูลอื่นๆ ยังได้แสดงความสนใจจากการประมูลและสามารถปิดการขายในการประมูลครั้งที่ได้กล่าวมา ทำให้งานศิลปะ 3 ชิ้นของ Louise Bourgeois ตามด้วย Marianne von Werefkin และ Mimmo Paladino สามารถปิดการขายได้จริงในตลาด ทั้งยังทำให้ผลงานชิ้นหนึ่งที่ไม่มีใบรับรองความถูกต้องแบบดั้งเดิมจากผู้เชี่ยวชาญได้สิทธิ์เข้าประมูล ช่วยลดเวลาและต้นทุนในการตรวจสอบเบื้องต้น และได้รับความสนใจในวงการศิลปะระดับนานาชาติ
VOXReality การต่อยอดมรดกทางวัฒนธรรม ด้วย AR และ AI ในประเทศกรีซ
VOXReality คือ โครงการที่ได้รับทุนจาก European Commission ภายในกรอบ Horizon Europe มีเป้าหมายในการพัฒนาการวิจัยและโมเดล AI ใหม่ๆ เพื่อขับเคลื่อนประสบการณ์เชิงโต้ตอบ XR (Interactive XR Experience) ในอนาคต ที่ผู้ใช้สามารถ ‘มีส่วนร่วม’ และ ‘โต้ตอบได้แบบเรียลไทม์’ กับโลกเสมือน และเพื่อนำเสนอโมเดลเหล่านี้ส่งต่อสู่ตลาดยุโรปในวงกว้าง หนึ่งในนั้นคือการสำรวจว่าเทคโนโลยี Immersive ที่ทำให้รู้สึกเหมือนมีส่วนร่วมโดยตรงกับสภาพแวดล้อมดิจิทัล สามารถยกระดับการแสดงละครสดด้วยเนื้อหาเสริมแบบเรียลไทม์ได้อย่างไร โดยให้ความสำคัญกับการผสานหว่างศิลปะการแสดง (การแสดงสด) ศิลปะวรรณกรรม (บทละครและงานเขียนบทละคร) และมรดกทางวัฒนธรรมทั้งแบบจับต้องได้ (โรงละครและพื้นที่) และแบบจับต้องไม่ได้ (เรื่องราว พิธีกรรม และแนวทางการแสดง) โดยมีเป้าหมายคือการใช้ AR เพื่อยกระดับการแสดงละครเวทีโดยการซ้อนทับองค์ประกอบดิจิทัล เช่น ภาพ ข้อความ และเนื้อหาแบบอินเทอร์แอ็กทิฟ ลงบนเวทีสดโดยตรง นำมาซึ่งความท้าทาย เกิดเป็นละครเวทีที่ให้ประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยพลังและท่าเต้นที่เข้มข้น มีเนื้อหาเสริมปรากฏในเวลาและในสถานที่ที่เหมาะสม สมบูรณ์แบบ โดยไม่รบกวนจังหวะผู้ชมการแสดง
AI ใม่ใช่เรื่องใหม่ที่ The Met พิพิธภัณฑ์ศิลปะระดับโลก ในสหรัฐอเมริกา
บทความ Exploring Art with Open Access and AI: What's Next? ที่เผยแพร่ตั้งแต่ ค.ศ. 2019 โดย metmuseum.org ทำให้ทราบว่า The Met หรือ The Metropolitan Museum of Art หนึ่งในพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดในโลก ในนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา คือพิพิธภัณฑ์ที่มาก่อนกาล ในฐานะพิพิธภัณฑ์ที่นำ AI มาใช้ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมโยงและสัมผัสประสบการณ์ที่ทั้งลึกซึ้งและยิ่งใหญ่ของงานศิลปะในแบบ Open Access นอกจากนี้ที่ The Met ยังได้เคยจัดงานแฮ็กกาธอนที่ประสบความสำเร็จร่วมกับ Microsoft และ MIT พร้อมทั้งสนับให้ผู้เข้าร่วมสร้าง 5 ต้นแบบ ในการใช้ AI เพื่อสำรวจความเชื่อมโยงใหม่ๆ กับงานศิลปะในพิพิธภัณฑ์
นับจากนั้น The Met ได้ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับ AI และการเรียนรู้ของ Machine Learning ต่อเนื่องร่วมกันกับ Microsoft โดยเฉพาะการได้ร่วมมือกับทีม Applied AI ในโครงการ Art Explorer ที่โดดเด่นในการแนะนำโครงข่ายงานศิลปะที่มีลักษณะคล้ายกัน มีการปรับปรุงระบบแท็ก เพิ่มแท็กคำสำคัญให้กับวัตถุมากกว่า 275,000 ชิ้นในคอลเลกชัน การดึงข้อมูลประวัติศิลปินจากแหล่งข้อมูลออนไลน์มาเขียนใหม่ด้วย AI ที่เกิดขึ้นก่อนโลกจะรู้จักกับ ChatGPT โดย OpenAI ที่เปิดตัวครั้งแรก วันที่ 30 พฤศจิกายน ค.ศ. 2022 ที่มี Microsoft เป็นพันธมิตรหลักทางกลยุทธ์และผู้ลงทุนรายใหญ่ของ OpenAI
ShengShu Technology จาก AI เพื่อความบันเทิงสู่งานอนุรักษ์ ในสาธารณรัฐประชาชนจีน
ShengShu Technology คือ สตาร์ทอัพจากจีนที่พัฒนาเครื่องมือ Generative AI เช่น Vidu‑1.5 ที่สามารถสร้างวิดีโอจากภาพนิ่งไม่กี่ภาพ (Image‑to‑Video) โดยนับตั้งแต่ ChatGPT เปิดตัว Sora ที่มีความสามารถสร้างวิดีโอจากข้อความใน ค.ศ. 2024 ซึ่งเป็นนวัตกรรมบุกเบิก บริษัทเทคโนโลยีจีนหลายแห่งได้ก้าวเข้ามาเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างรวดเร็วรวมถึง Vidu ของ ShengShu Technology ที่ได้รับความนิยมแพร่หลาย กลายเป็นเครื่องมือในหมู่ครีเอเตอร์ระดับโลกที่ผลิตคอนเทนต์ นำไปสู่คลิปวิดีโอที่สนุกสนาน และเปี่ยมจินตนาการ เช่น คลิปอีลอน มัสก์ขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าในเสื้อแจ็กเกตสไตล์จีน
ในแง่การอนุรักษ์ วิศวกร AI ของ ShengShu ได้ใช้ประโยชน์จากแบบจำลองขนาดใหญ่หลายรูปแบบที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง วิเคราะห์ข้อมูลจิตรกรรมฝาผนังโบราณจำนวนมาก จากพระราชวังหย่งเล่อในมณฑลซานซี ซึ่งเป็นวัดเต๋าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน ที่กล่าวได้ว่าจิตรกรรมฝาผนังของวัดอายุ 800 ปีแห่งนี้ประสบปัญหา เช่น มีฝุ่น สีซีดจาง และการเสื่อมสภาพ ยังไม่นับรวมขนาดอันใหญ่โต รูปแบบที่โดดเด่น และความซับซ้อนอันวิจิตรบรรจง ทำให้การบูรณะมีความซับซ้อนอย่างมาก วิศวกรได้ฝึกฝน AI ด้วยข้อมูลศิลปะจิตรกรรมฝาผนัง ทำให้ AI เข้าใจงานจิตรกรรม ตั้งแต่การใช้สีไปจนถึงเทคนิคใช้พู่กันที่นำไปสู่การฟื้นฟู
จากกรณีศึกษาที่กล่าวมา เห็นได้ว่าการโอบรับและนำ AI มาช่วยเสริมพลังให้วัฒนธรรม ยิ่งเมื่อผนวกรวมกับความคิดสร้างสรรค์ กลยุทธ์ทางการตลาด แผนด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ ยิ่งนำมาซึ่งประโยชน์ จึงจำเป็นอย่างยิ่งในการสนับสนุนด้านการวิจัยและพัฒนา การส่งต่อความรู้ เพื่อพร้อมสำหรับการแข่งขันในโลก AI
ข้อมูลอ้างอิง :
- art-recognition.com
- askmona.ai
- chinadaily.com.cn
- metmuseum.org
- voxreality.eu