AI กับนิยามใหม่ของคำว่า ‘ศิลปวัฒนธรรม’

17 พฤศจิกายน 2025
|
4 อ่านข่าวนี้
|
0


        เชื่อว่าคุณผู้อ่านจำนวนหนึ่งเวลาเห็นงานศิลปะที่สร้างจาก AI แล้วอาจรู้สึกว่า AI ยังไม่สามารถผลิตงานศิลปะที่น่าสนใจออกมาได้ แต่หากเราลองนึกย้อนไปถึงสมัยที่กล้องถ่ายรูปเพิ่งถือกำเนิด ยุคนั้นกล้องถ่ายรูปมีขนาดใหญ่และใช้งานยาก คนส่วนใหญ่ที่ใช้จึงไม่ใช่ศิลปิน และงานที่ออกมาก็ไม่ได้มีความสุนทรียะ หรือไม่ได้สวยงามมากนัก เป็นแนว Portrait เป็นส่วนใหญ่ กว่าที่รูปถ่ายจะเริ่มมีความสวยงามเข้ามาเกี่ยวข้องก็ต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่ เมื่อกล้องถ่ายรูปมีขนาดเล็กลงใช้งานง่ายขึ้น ศิลปินบางส่วนจึงเริ่มหันมาใช้กล้องถ่ายรูปในการสร้างสรรค์ผลงานต่างๆ งานที่ออกมาจึงมีความน่าสนใจมากขึ้น

        เรื่องนี้คล้ายกับการผลิตงานศิลปะโดยใช้ AI ในยุคปัจจุบัน เนื่องจากศิลปินส่วนใหญ่ยังไม่ได้ให้การยอมรับมากนัก ผลงานจำนวนมากที่ออกมาจาก Hobbyist หรือ Programmer เลยอาจมีเรื่องของสุนทรียะที่ค่อนข้างจำกัด หาก AI Art ใช้งานง่ายขึ้น และศิลปินให้การยอมรับมากขึ้นกว่านี้ เมื่อนั้นแล้วงานที่ออกมาอาจน่าสนใจกว่านี้ก็เป็นได้

        คุยกันถึงเรื่องนี้แล้วก็พาลให้นึกถึงเรื่องการที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทผลักดันพวก Artistic Movement หรือการเคลื่อนไหวทางศิลปะในยุคก่อน

        ในช่วงกลางศตวรรษที่ 18 ก่อนที่กล้องถ่ายรูปจะถูกใช้งานอย่างแพร่หลายมี Artistic Movement หนึ่งที่เรียกว่า Realism ได้ถือกำเนิดขึ้น โดยศิลปินกลุ่ม Realist มุ่งเน้นไปที่การวาดภาพเพื่อสะท้อนความจริงที่อยู่เบื้องหน้า ไม่ว่าจะเป็นภาพวิวทิวทัศน์ธรรมชาติ หรือภาพที่เก็บรายละเอียดชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนทั่วไป

        เมื่อเวลาผ่านไปการใช้กล้องถ่ายรูปเป็นที่แพร่หลายในสังคม งานของศิลปิน Realist กลุ่มนี้ก็ได้รับผลกระทบโดยตรง เนื่องจากต่อให้คุณวาดภาพได้เหมือนจริงแค่ไหนก็ไม่มีทางที่จะสู้รูปถ่ายที่ออกมาจากกล้องได้อยู่ดี

        สิ่งนี้ก่อให้เกิดการตั้งคำถามว่า งานศิลปะที่เน้นการเก็บรายละเอียดความเป็นจริง จะมีสภาวะอย่างไรในยุคที่ผู้คนสามารถสร้างภาพเหมือนจริงได้ในราคาถูก และรวดเร็ว

        ศิลปินจำนวนหนึ่งรับรู้ได้ถึงแรงกดดันนี้ จึงพยายามสร้างสรรค์ผลงานแบบใหม่ออกมา โดยเปลี่ยนจากการเก็บรายละเอียดความจริงที่อยู่เบื้องหน้า ไปเน้นการถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกในมุมมองที่แปลกใหม่ รวมไปถึงการถ่ายทอดแนวคิดที่เป็นนามธรรมมากขึ้น ซึ่งในที่สุดก็ก่อให้เกิดการเคลื่อนไหวทางศิลปะยุคใหม่อย่าง Impressionism, Cubism, Surrealism และ Expressionism ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม

        เราอาจมองได้ว่าการมาของเทคโนโลยีภาพถ่าย เป็นการ Democratize การสร้างภาพเหมือนจริงให้กับปุถุชนธรรมดา เนื่องจากงาน Portrait ในยุคก่อนเป็นงานที่มีคนเพียงหยิบมือเดียวบนยอดพีระมิดแห่งทรัพยากรสามารถเอื้อมถึง สำหรับคนเดินดินทั่วไปแค่อาหารที่จะกินในแต่ละมื้อยังไม่แน่นอน ไม่ต้องพูดถึงการที่เขาจะจ้างศิลปินมาเพื่อมาวาดภาพ Portrait ให้กับตนเองและครอบครัว

        มองกลับมาในยุคปัจจุบัน เทคโนโลยีอย่าง Generative AI ก็มีส่วนช่วยในการ Democratize การสร้างสรรค์งานศิลปะไม่ต่างจากยุคก่อน หากเราเชื่อมโยงผลกระทบที่กล้องถ่ายรูปมีต่อการเคลื่อนไหวทางศิลปะในอดีตเข้ากับบริบทของปัจจุบัน จะเป็นไปได้ไหมที่เทคโนโลยีอย่าง Generative AI จะส่งแรงกระเพื่อม ก่อให้เกิดการเคลื่อนไหวทางศิลปะแบบใหม่ในอนาคตอันใกล้?

        ในวันที่คนธรรมดาที่ไม่ได้มีความสามารถในการวาดภาพอย่างสวยงาม แต่เขาเหล่านั้นมีสารหรือ Message ที่น่าสนใจต้องการจะสื่อ การมีอยู่ของ Generative AI จะเข้ามาช่วยปลดล็อกความสามารถให้กับคนกลุ่มนี้ และเมื่อถึงวันที่เทคโนโลยีนี้เป็นที่ใช้งานอย่างแพร่หลาย ในวันที่เครื่องมือแห่งการสร้างสรรค์นี้อยู่ในมือของพวกเราทุกคน นิยามของคำว่า ‘ศิลปะ’ รวมไปถึงวิธีการสื่อสารก็อาจจะเปลี่ยนไป

        การมาของเทคโนโลยีในแต่ละยุค ล้วนผลักดันให้ศิลปินสรรหาสิ่งที่ต้องการจะสื่อ รวมไปถึงวิธีการสื่อสารที่เปลี่ยนไป ในยุคที่ผู้คนสามารถสร้างสรรค์งานศิลปะได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว ศิลปินจะต้องมีการปรับตัวอย่างไร สารที่ต้องการจะสื่อ รวมไปถึงวิธีการสื่อสารจะเปลี่ยนไปในรูปแบบไหน น่าสนใจว่าอีกไม่นานเราจะมีโอกาสได้เห็นการเคลื่อนไหวทางศิลปะใหม่ๆ อะไรออกมาบ้าง


0 ความคิดเห็น

Ask OKMD AI