Situational Awareness การรับรู้และเข้าใจสถานการณ์จริง

16 ธันวาคม 2025
|
41 อ่านข่าวนี้
|
0


ในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน การ “รับรู้” “เข้าใจ” และ “ตัดสินใจ” ในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและเหมาะสมถือเป็นทักษะสำคัญของบุคคลและองค์กรในศตวรรษที่ 21 Situational Awareness (SA) หรือ “การตระหนักรู้สถานการณ์” คือ กระบวนการรับรู้สภาพแวดล้อมรอบตัว เข้าใจความหมายของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และคาดการณ์ผลลัพธ์ที่จะตามมาได้อย่างมีสติ เป็นองค์ประกอบสำคัญของการตัดสินใจแบบเรียลไทม์ (Real-Time Decision Making) ที่จำเป็นทั้งในชีวิตประจำวันและในองค์กรธุรกิจยุคใหม่

คำนิยามและที่มาของ Situational Awareness

    Situational Awareness หมายถึง “การรับรู้ถึงองค์ประกอบต่าง ๆ ในสภาพแวดล้อม ภายในขอบเขตของเวลาและพื้นที่ ทำความเข้าใจองค์ประกอบเหล่านั้น และคาดการณ์ผลที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้” ตามนิยามของ ดร.ไมก้า เอนด์สลีย์ (Dr. Mica Endsley) ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกแนวคิดนี้ โดยเน้นย้ำว่า SA มีทั้งส่วนของการรับรู้ (Perception) การทำความเข้าใจ (Comprehension) และการคาดการณ์ (Projection) ซึ่งเป็นลำดับขั้นของการคิดและตัดสินใจในสถานการณ์จริง

ระดับของ Situational Awareness

    Situational Awareness ประกอบด้วย 3 ระดับหลัก ดังนี้

        • การรับรู้ (Perception)
การสังเกตและรับข้อมูลจากสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างมีสติ เช่น เห็น สดับฟัง หรือสัมผัสถึงสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นในขณะนั้น ๆ การรับรู้ที่ดีช่วยให้เราสามารถจับสัญญาณต่าง ๆ ได้รวดเร็ว

        • การทำความเข้าใจ (Comprehension)
การตีความหรือวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับ เพื่อให้เข้าใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีความหมายต่อตนเองหรือองค์กรอย่างไร อาจเกิดจากประสบการณ์ ความรู้ หรือการฝึกฝน

        • การคาดการณ์ (Projection)
การใช้ข้อมูลที่มีอยู่คาดการณ์เหตุการณ์หรือผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ เพื่อเตรียมรับมือหรือตัดสินใจล่วงหน้าได้อย่างถูกต้อง

    ผู้ที่มี SA ในระดับสูงจะไม่เพียงรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว แต่ยังสามารถเชื่อมโยงข้อมูลเหล่านั้นเป็นความหมายที่ลึกซึ้ง และคาดการณ์ผลลัพธ์ในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการตัดสินใจในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือในภาวะวิกฤต

ความสำคัญของ Situational Awareness

    SA มีบทบาทสำคัญในการลดความเสี่ยงและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นด้านการแพทย์ การบิน การควบคุมจราจรทางอากาศ การทหาร การจัดการเหตุการณ์วิกฤตในองค์กร หรือแม้แต่ในชีวิตประจำวัน เช่น การขับรถ การเดินทาง หรือการทำงานในสถานที่เสี่ยง
งานวิจัยระบุว่า การขาด Situational Awareness เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของอุบัติเหตุที่เกิดจากความผิดพลาดของมนุษย์ เช่น การบินตก อุบัติเหตุทางรถยนต์ หรือความผิดพลาดในการปฏิบัติงานในโรงงาน

ในแวดวงธุรกิจ SA ช่วยให้ผู้นำและพนักงานสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในตลาดที่รวดเร็ว ระบุโอกาสและภัยคุกคามได้ทันท่วงที รวมทั้งปรับเปลี่ยนกลยุทธ์หรือกระบวนการทำงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์จริงได้อย่างเหมาะสม

Situational Awareness กับการตัดสินใจแบบ Real-Time

    การตัดสินใจในเวลาจริง (Real-Time Decision Making) เป็นกระบวนการที่ต้องใช้ข้อมูลที่ได้รับในขณะนั้น ร่วมกับประสบการณ์และความเข้าใจในสถานการณ์ เพื่อสรุปแนวทางที่เหมาะสมที่สุดในเวลาอันจำกัด SA จึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการวางกลยุทธ์และตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน โดยเฉพาะในสถานการณ์ฉุกเฉินที่ “ทุกวินาทีมีค่า” เช่น การระงับเหตุเพลิงไหม้ การช่วยชีวิตผู้ป่วยฉุกเฉิน หรือการรับมือกับวิกฤตทางธุรกิจ

ในองค์กรผู้นำที่มี SA สูงสามารถรับรู้ถึงเทรนด์ใหม่ ๆ ในตลาด การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค กลยุทธ์ของคู่แข่ง รวมถึงปัญหาภายในองค์กรได้อย่างรวดเร็ว แล้วนำข้อมูลเหล่านั้นมาปรับแผนงานและทรัพยากรให้สอดคล้องกับสถานการณ์จริง เป็นการสร้างความคล่องตัวและความยืดหยุ่นให้กับธุรกิจในระยะยาว

วิธีพัฒนาทักษะ Situational Awareness

    • ฝึกสังเกตและรับข้อมูลจากสภาพแวดล้อมรอบตัว
พัฒนาทักษะการสังเกตทั้งในชีวิตประจำวันและการทำงาน เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดฝัน

    • ฝึกวิเคราะห์และตีความข้อมูล
เรียนรู้จากประสบการณ์เดิมและพัฒนาความรู้ใหม่ ๆ เพื่อสามารถเชื่อมโยงและเข้าใจความหมายของข้อมูลที่ได้รับ

    • ฝึกคาดการณ์ผลลัพธ์
นำข้อมูลที่มีมาคิดต่อยอดว่า สิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปคืออะไร จะเกิดผลกระทบอะไรบ้าง และควรปรับตัวอย่างไร

    • ฝึกตัดสินใจภายใต้ความกดดัน
ฝึกฝนการตัดสินใจในสถานการณ์จำลองหรือทำงานร่วมกับทีมเพื่อรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

    • อัพเดตข้อมูลตลอดเวลา
ในยุคดิจิทัล การใช้เทคโนโลยีและข้อมูลเรียลไทม์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ SA ได้อย่างมีนัยสำคัญ

    Situational Awareness คือทักษะพื้นฐานสำคัญสำหรับผู้นำและบุคลากรในองค์กรยุคใหม่ ที่จะช่วยให้ “เห็น” “เข้าใจ” และ “คาดการณ์” สถานการณ์รอบตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นรากฐานของการตัดสินใจแบบเรียลไทม์ที่ทันท่วงทีและเหมาะสม สามารถลดความเสี่ยง เพิ่มผลลัพธ์ที่ดี และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน

    การปลูกฝังและพัฒนาทักษะ SA จึงไม่ใช่เพียงเรื่องของกลุ่มอาชีพเฉพาะทาง แต่เป็น “ทักษะชีวิต” ที่ทุกคนควรฝึกฝนและนำไปใช้ในชีวิตประจำวันและในองค์กร เพื่อรับมือกับโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และพร้อมเติบโตได้ในทุกสถานการณ์




แหล่งอ้างอิง :

                    • Wikipedia: Situation awareness

                    • Sophony: การตระหนักรู้สถานการณ์ (Situation Awareness) คืออะไร

                    • BlackBerry: What Is Situational Awareness?

                    • Forbes: Driving Performance Through Situational Awareness

                    • CTRL Disrupt: Situational Awareness

                    • FusionRisk: The Power of Situational Awareness in Business Continuity and Crisis Management


0 ความคิดเห็น

Ask OKMD AI