21'st Century Skills

จาก 21st Century Skills สู่ทักษะแห่งอนาคต: เมื่อโลกไม่หยุดหมุน การเรียนรู้ต้องต่อยอด

24 กรกฎาคม 2025
|
129 read this
|
0 share this

จุดเริ่มต้นของทักษะในศตวรรษที่ 21 (21st Century Skills) รากฐานแห่งการเรียนรู้ยุคใหม่

ช่วงต้นทศวรรษในปีค.ศ.2000-2010 แนวคิด "21st Century Skills" ได้ถูกวางรากฐานโดยองค์กร Partnership for 21st Century Learning (P21) เพื่อกำหนดทักษะที่จำเป็นสำหรับผู้เรียนในศตวรรษใหม่ โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก (Partnership for 21st Century Learning, 2009) ได้แก่
- ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม (Learning & Innovation Skills) ประกอบด้วย การคิดเชิงวิพากษ์ (Critical Thinking) การคิดอย่างสร้างสรรค์ (Creativity) การทำงานร่วมกัน (Collaboration) และการสื่อสาร (Communication) หรือที่เรียกว่า 4Cs
- ทักษะสารสนเทศ สื่อ และเทคโนโลยี (Information, Media & Technology Skills)
- ทักษะชีวิตและอาชีพ (Life & Career Skills)
โดยทักษะเหล่านี้กลายเป็นพื้นฐานสำคัญของการออกแบบการศึกษายุคใหม่ทั่วโลก และยังคงมีบทบาทอย่างมากจนถึงปัจจุบัน

โลกไม่หยุดนิ่ง: ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นหลังจากปีค.. 2015
หลังจากปีค.ศ. 2015 เป็นต้นมา โลกเข้าสู่ยุคแห่งความไม่แน่นอน ทั้งในมิติของเทคโนโลยี ภูมิรัฐศาสตร์ ภัยพิบัติ และโรคระบาด ทำให้แนวคิด VUCA World ซึ่งเป็นแนวคิดที่ใช้ครั้งแรกโดยกองทัพสหรัฐอเมริกา เพื่ออธิบายโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ภายหลังการเกิดสงครามเย็น และถูกนำมาใช้ในการอธิบายสถานการณ์โลกยุคใหม่ และประยุกต์ใช้ในบริบทของการบริหารและการศึกษา VUCA World ประกอบด้วย 1) Volatility (ความผันผวน) เป็นการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว คาดเดาไม่ได้ เช่น เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว  2) Uncertainty (ความไม่แน่นอน) ถึงแม้จะมีข้อมูล แต่ไม่สามารถทำนายผลลัพธ์หรืออนาคตได้ชัดเจน 3) Complexity (ความซับซ้อน) เหตุการณ์หรือปัญหาต่าง ๆ มีหลายปัจจัยเชื่อมโยงกัน เช่น ปัญหาสิ่งแวดล้อมเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมผู้บริโภค ภูมิรัฐศาสตร์ และเทคโนโลยี และ 4) Ambiguity (ความคลุมเครือ) ข้อมูลที่ไม่ชัดเจน มีการตีความที่หลากหลาย (Bennett and Lemoine, 2014)

         เมื่อเกิดสถานการณ์โควิด ที่เริ่มต้นในช่วงปลายปีค.ศ.2019 เป็นโรคระบาดที่เปลี่ยนผ่านระบบการศึกษา เศรษฐกิจ และวิถีชีวิตของผู้คน ถือได้ว่าเป็น "Disruptive force" ที่ทำให้ VUCA กลายเป็นความจริงที่ทุกคนเผชิญ และเปิดเผย การแพร่ระบาดของ COVID-19 คือเหตุการณ์ Technology Disruption ที่พลิกโฉมการศึกษาไปอย่างถาวร ช่วงเวลาที่โรงเรียนทั่วโลกต้องปิดทำการ คือจุดที่เทคโนโลยีไม่ได้เป็นเพียง “เครื่องมือเสริม” อีกต่อไป แต่กลายเป็น “พื้นที่หลัก” ของการเรียนรู้ ผู้เรียนต้องพัฒนาทักษะ Digital Literacy, Self-Regulated Learning, และ Online Collaboration ครูต้องปรับตัวจากผู้สอนเนื้อหา ไปเป็นผู้ออกแบบประสบการณ์เรียนรู้ในโลกดิจิทัล การประเมินผล เป็นการประเมินจากกระบวนการ (Process-Oriented Assessment) และหลักฐานจากผลงานจริง

หลังจากสถานการณ์ COVID-19 ทำให้เกิดแนวคิด BANI World เป็นแนวคิดที่ถูกเสนอโดย Jamais Cascio ในปีค.ศ. 2020 ซึ่งใช้อธิบายสถานการณ์โลกยุคใหม่ ภายหลังการระบาดของ COVID-19 สะท้อนถึงความเปราะบางและซับซ้อนยิ่งขึ้นของสังคม ประกอบด้วย  1) Brittle (เปราะบาง) แม้ระบบที่ดูเหมือนมั่นคง แต่กลับล่มได้ง่ายเมื่อเจอแรงกระแทก เช่น ระบบสาธารณสุขที่ประสบปัญหาการรับมือกับสถานการณ์ COVID-19 2) Anxious (ความวิตกกังวล) เมื่อผู้คนเต็มไปด้วยความไม่มั่นใจกับอนาคต ทำให้เกิดความเครียดสะสม และ Burnout ได้ง่าย 3) Nonlinear (ไม่เป็นเส้นตรง) โดยที่สาเหตุและผลลัพธ์ไม่สัมพันธ์กันตรง ๆ เช่น ข่าวปลอมเรื่องวัคซีนแพร่เร็วกว่าองค์ความรู้ทางการแพทย์ 4) Incomprehensible (ยากที่จะเข้าใจ) ปัญหาหรือข้อมูลที่ซับซ้อนเกินไปจนเราไม่สามารถวิเคราะห์ได้ชัดเจน เช่น การวิเคราะห์พฤติกรรม AI หรือข้อมูล big data

แนวคิด VUCA จึงเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงโลกผันผวน ไม่แน่นอน ซับซ้อน และคลุมเครือ จากนั้นได้รับการต่อยอดเป็น BANI ซึ่งอธิบายโลกหลังโควิด ที่ไม่ได้ซับซ้อนอย่างเดียว แต่เปราะบางและเข้าใจยากจนต้องการทักษะที่ลึกกว่าเดิมในการรับมือ ในบริบทเช่นนี้ 21st Century Skills จึงไม่ใช่เป้าหมายสุดท้ายของการเรียนรู้ แต่เป็นรากฐานและจุดเริ่มต้นที่ต้องมีการปรับตัว ต่อยอดอย่างลึกซึ้ง ต่อเนื่อง และยืดหยุ่นมากขึ้น 

เมื่อทักษะ 4Cs ไม่เพียงพออีกต่อไป ทักษะแห่งอนาคตจึงเกิดขึ้น
ถึงแม้ 4Cs ยังคงเป็นรากฐานที่สำคัญ แต่โลกปัจจุบันต้องการทักษะที่ลึกและหลากหลายขึ้น ตัวอย่างเช่น
1.
ทักษะการเข้าใจความซับซ้อน (Sensemaking & Systems Thinking) ช่วยให้เข้าใจปัญหาในภาพรวม จากสาเหตุที่หลายมิติเชื่อมโยงกัน และเอื้อต่อการทำงานข้ามบริบท
2. ทักษะการอยู่ร่วมกับ AI อย่างมีจริยธรรม (AI Ethics & Human-AI Collaboration) เป็นความสามารถในการใช้และทำงานร่วมกับเทคโนโลยี AI อย่างรับผิดชอบ เข้าใจผลกระทบทางจริยธรรม เช่น ความเป็นส่วนตัว อคติของอัลกอริทึม และผลต่อแรงงาน พร้อมทั้งรู้วิธีใช้ AI เพื่อเสริมศักยภาพมนุษย์ ไม่ใช่แทนที่มนุษย์
3. ทักษะการจัดการอารมณ์และความยืดหยุ่นในตัวเอง (Emotional Agility, Mental Resilience) เป็นความสามารถในการรับมือกับความเครียด ความเปลี่ยนแปลง และความไม่แน่นอนได้อย่างยืดหยุ่น รู้จักเข้าใจและปรับอารมณ์ตนเอง ไม่จมกับความล้มเหลว และสามารถลุกขึ้นมาเรียนรู้ใหม่ได้เสมอ
4. ทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิตในบริบทใหม่ (Unlearning & Relearning) การเรียนรู้แบบ active learning และการปรับตัวแบบ Resilience เป็นสิ่งสำคัญที่ก่อให้เกิดการเรียนรู้ที่ไม่มีที่สิ้นสุด (Matrix Report, 2025; Panda International, 2025; World Economic Forum, 2025) 

โลกยุคใหม่ไม่ได้ต้องการคนที่รู้ทุกอย่าง แต่ต้องการคนที่พร้อมเรียนรู้และปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ โดยมีกระบวนการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะแห่งอนาคต ดังนี้
1. การลงมือทำจริง (Experiential Learning) เป็นการเรียนรู้จากการลงมือทำ ช่วยสร้างความเข้าใจและการนำไปใช้ได้อย่างลึกซึ้ง
2. การตั้งคำถามและสำรวจ (Inquiry-Based Learning) สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เป็นการฝึกการคิดวิเคราะห์ การคิดสร้างสรรค์
3. การเรียนรู้จากการทำโครงการ (Project-Based Learning) ทั้งในและนอกห้องเรียน ช่วยเสริมความเข้าใจที่ลึกซึ้ง การสื่อสาร รวมถึงการทำงานเป็นทีมได้เป็นอย่างดี
4. การเรียนรู้ร่วมกัน (Collaborative Learning) สร้างเครือข่ายความคิด และการทำงานร่วมกันในสภาพแวดล้อมจริง
5. การสะท้อนคิด (Reflective Practice) สำรวจความคิดและอารมณ์ เข้าใจเหตุผลที่มาที่ไปของการตัดสินใจ

ทักษะแห่งอนาคตจึงเป็นการต่อยอดจาก 4Cs โดยเน้นทักษะที่เป็นการผสานรวมระหว่าง Soft skill กับ Technical skill ผ่านวิธีการเรียนรู้เชิงปฏิบัติที่เชื่อมโยงกับโลกแห่งความจริงและเทคโนโลยี


ทักษะในศตวรรษที่ 21 ไม่ได้ล้าสมัย แต่เป็นรากฐานของการเติบโตในศตวรรษนี้
การเรียนรู้ในโลกที่มีแต่ความไม่แน่นอน ไม่ใช่การวิ่งตามทุกกระแส แต่คือการยืนหยัดบนรากฐานที่มั่นคงของ 21st Century Skills แล้วค่อย ๆ เติบโต ยืดหยุ่น และแตกยอดสู่ทักษะแห่งอนาคตอย่างมีกลยุทธ์
โรงเรียนและครูไม่ควรจำกัดบทบาทของการศึกษาไว้ที่ "การเรียนเพื่อรู้" เท่านั้น แต่ต้องนำพาผู้เรียนไปสู่ "การเรียนรู้เพื่อรับมือและสร้างความหมายในโลกที่ไม่แน่นอน" ผ่านการออกแบบการเรียนรู้ที่บูรณาการทั้งทักษะ เทคโนโลยี และคุณค่าชีวิตได้อย่างสมดุล

“คนที่สามารถปรับตัว และยืดหยุ่นได้ในทุกสถานการณ์ ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่เก่งที่สุด แต่เป็นคนที่เติบโตได้เสมอ ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนไปอย่างไร"


รายการอ้างอิง
Bennett, N. and Lemoine, G.J. (2014). What VUCA Really Means for You. [Harvard Business Review]. https://hbr.org/2014/01/what-vuca-really-means-for-you 

Cascio, J. (2020). Facing the Age of Chaos. [Medium]. https://medium.com/@cascio/facing-the-age-of-chaos-b00687b1f51d

Matrix Report. (2025). Skills Outlook 2025: Preparing the Workforce for a Transformative Future. [Matrixmag]. https://matrixmag.com/skills-outlook-2025-preparing-the-workforce-for-a-transformative-future/

Panda International. (2025). The Skills Shaping the Future: Insights from the World Economic Forum’s 2030 Outlook. [Panda-int]. https://www.panda-int.com/insights/the-skills-shaping-the-future-insights-from-the-world-economic-forum-s-2030-outlook/ 

Partnership for 21st Century Learning. (2009). P21 Framework Definitions. [ERIC]. https://eric.ed.gov/?id=ED519462

Schleicher, A. (2020). The Impact of COVID-19 on Education: Insights from Education at a Glance 2020. [OECD]. https://web-archive.oecd.org/2020-09-08/562941-the-impact-of-covid-19-on-education-insights-education-at-a-glance-2020.pdf

World Economic Forum. (2025). The Future of Jobs Report 2025. https://www.weforum.org/publications/the-future-of-jobs-report-2025/

Ask OKMD AI