“ร่างกายขาดหวานไม่ได้”
“น้ำตาลตก”
“กินคาวแล้ว ก็ต้องกินหวานต่อ”
คือ ตัวอย่างคำพูดที่อนุญาตให้พวกเรากินหวาน ให้เลือดดูดซึมน้ำตาล เพิ่มแรงในการเรียน การทำงาน และการใช้ชีวิต ยังไม่นับรวมกับร้านขนมหวาน ร้านชานมไข่มุกที่เพิ่มขึ้นในแต่ละวัน จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าน้ำหวานและของหวานจะกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญของมื้ออาหารสำหรับคนไทย
ยังมีข้อมูลน่าสนใจจากงานวิจัยเรื่อง ‘Sugar and Sugar Substitutes: Recent Developments and Future Prospects’ จาก Springers ก็ระบุว่า ในประเทศกำลังพัฒนามีการบริโภคน้ำตาลเพิ่มขึ้นมากในช่วง 200 - 300 ปีที่ผ่านมา โดยการบริโภคน้ำตาลต่อหัวในบางประเทศสูงถึง 100 ปอนด์ต่อปี ซึ่งคิดเป็นประมาณ 20% ของแคลอรีที่บริโภค "แล้วจะทำอย่างไร ให้เราได้กินหวานและสุขภาพดีไปพร้อม ๆ กัน"
คำตอบก็คือ การมองหาสารให้ความหวานทางเลือก หรือที่บางคนรู้จักว่าเป็น สารให้ความหวานรุ่นใหม่ (Next Generation Sweetener) หากมองในด้านวิชาการ ความหวานทางเลือกจะช่วยลดการบริโภคน้ำตาลในอาหารและเครื่องดื่ม มีแคลอรีต่ำ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวานและโรคอ้วน ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และยังมีรสชาติหวานใกล้เคียงกับน้ำตาล ทำให้ผู้บริโภคเพลิดเพลินกับการกินหวานได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสุขภาพ
- Singh, Ban and others. (2020). Sugar and Sugar Substitutes: Recent Developments and Future Prospects. Sugar and Sugar Derivatives: Changing Consumer Preferences. Springers. (39-75)
- Donald E. Pszczola. Why Today’s Sweetener ‘Rush’?. Food technology
- https://bisresearch.com/news/latest-trends-and-advances-in-next-generation-sugar-substitutes
- www.newfoodmagazine.com/article/130789/next-gen-sweeteners/