Notifications

You are here

ห่วงโซ่คุณค่า

‘เนื้อสัตว์เพาะเลี้ยง’ อาหารแห่งอนาคตที่จะเข้ามาปฏ...

22 สิงหาคม 2024 85 อ่านข่าวนี้ 2 เดือนก่อน 0
แผนแม่บท : แผนแม่บท อุตสาหกรรมและ บริการแห่งอนาคต  
หมวดหมู่ : #4.1อุตสาหกรรมชีวภาพ 


โลกความมั่นคงทางอาหารกำลังขยับเข้ามาใกล้ขึ้นอีกขั้น เมื่อนักวิทยาศาสตร์สามารถเพาะเนื้อสัตว์จากห้องแล็บ มีรสชาติและเนื้อสัมผัสไม่ต่างจากเนื้อสำหรับบริโภค ช่วยลดพื้นที่ทำปศุสัตว์และการประมง กิจกรรมที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกรวมกัน 31% สาเหตุหลักของปรากฏการณ์โลกเดือด ลดการใช้ทรัพยากรน้ำและที่ดินได้มากกว่า 95% ทำให้แนวคิดการเพาะเนื้อสัตว์ในห้องแล็บเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ และกำลังถูกจับตาว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นอาหารทางเลือกแห่งอนาคต

ในปี 2024 เนื้อสัตว์เพาะเลี้ยงจากห้องแล็บได้ผ่านการตรวจสอบทางกฎหมายในหลายประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา อิสราเอล และเนเธอร์แลนด์ โดยเนเธอร์แลนด์เป็นประเทศแรกของโลกที่เริ่มเพาะเนื้อสัตว์นับตั้งแต่ปี 2013 นำทีมวิจัยโดย ดร.มาร์ก โพสต์ (Dr. Mark Post) จนสำเร็จออกมาเป็นเนื้อที่ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ารสชาติไม่ต่างจากเนื้อปกติ สิงคโปร์เป็นประเทศแรกที่อนุมัติการวางจำหน่ายเนื้อสัตว์จากห้องทดลองเมื่อปี 2020 โดยมีบริษัท Eat Just ของสหรัฐอเมริกาเป็นผู้เปิดตลาด นำเนื้อไก่ในรูปแบบนักเก็ตมาวางจำหน่าย แม้ว่าช่วงแรกที่วางขายจะมีราคาสูง แต่ปัจจุบันต้นทุนการผลิตเนื้อสังเคราะห์ลดลงค่อนข้างมาก เชื่อว่าเนื้อจากห้องทดลองจะมีราคาไม่ต่างจากเนื้อไก่ธรรมชาติในไม่ช้า โดยผู้บริโภคสามารถหาซื้อได้ตามร้านอาหารทั่วไปในสิงคโปร์ สำหรับประเทศไทย มีหลายหน่วยงานให้ความสนใจเช่นกัน หนึ่งในนั้นคือ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำทีมวิจัยโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.เจนภพ สว่างเมฆ จากศูนย์ Veterinary Stem Cell and Bioengineering Innovation Center (VSCBIC) ร่วมกับ บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) 

จากงานวิจัยตลอด 2 ปีของ ผศ.น.สพ.ดร.เจนภพ พบว่าเนื้อสัตว์จากการเพาะเลี้ยงในห้องแล็บนั้น นอกจากจะเป็นนวัตกรรมทางเลือกในการบริโภคเนื้อสัตว์แล้ว ยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม ในอนาคตเนื้อสัตว์จากห้องทดลองจะเป็นอาหารทางเลือกทดแทนเนื้อสัตว์ตามธรรมชาติ และประเทศไทยมีศักยภาพสู้กับนานาประเทศได้



ส่วนกระบวนการผลิตเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยงนั้น ขั้นแรกเริ่มจากการแยกสเต็มเซลล์ออกจากเซลล์ของเนื้อสัตว์ จากนั้นจึงใช้เซลล์ที่แยกออกมาเป็นแหล่งผลิตเนื้อเยื่อ เพื่อให้เกิดการเจริญเติบโตนอกร่างกายสัตว์ ใช้เวลาเพาะเลี้ยง 5-7 สัปดาห์ ขณะที่การทำปศุสัตว์ เช่น เนื้อวัว ใช้เวลาเลี้ยงนานถึง 112 สัปดาห์ การเกิดขึ้นของเนื้อสัตว์ในห้องแล็บจึงสามารถช่วยเพิ่มความมั่นคงทางอาหารได้ เนื่องจากในอนาคต คาดว่าในปี 2050 จำนวนประชากรโลกจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่า 9,000 ล้านคน และนั่นทำให้ความต้องการทางอาหารโดยเฉพาะเนื้อสัตว์ เพิ่มขึ้นจาก 280 ล้านตันในปี 2022 เป็น 570 ล้านตัน 

นอกจากนี้ ยังช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมไม่ให้แปดเปื้อน ลดอุณหภูมิของโลกให้ต่ำลง เพราะกระบวนการผลิตเนื้อสัตว์ในห้องทดลอง ส่งผลกระทบน้อยกว่ากิจกรรมอื่น ทั้งลดพื้นที่ในการทำฟาร์ม ลดการใช้ทรัพยากรน้ำและที่ดิน ลดความจำเป็นของเกษตรกรในการใช้ยาปฏิชีวนะกับการปศุสัตว์ รวมถึงลดการฉีดฮอร์โมนเร่งโตในสัตว์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อร่างกายมนุษย์ Krung Thai COMPASS คาดว่า ในปี 2030 ตลาดเนื้อสัตว์จากห้องทดลอง จะมีมูลค่าอยู่ที่ 2.5 พันล้านบาท หรือราว 3% ของมูลค่าตลาดเนื้อสัตว์ของไทย ซึ่งจะอยู่ที่ 84.5 พันล้านบาทของเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยง อ้างอิงจาก OECD-FAO Agricultural Outlook 

McKinsey & Company บริษัทที่ปรึกษาธุรกิจระดับโลกเผยว่า ตั้งแต่ปี 2025 - 2030 มูลค่าตลาดเนื้อสัตว์จากห้องแล็บของโลก จะเติบโต 82% CARG หรือมีมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นจาก 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 35 พันล้านบาท) เป็น 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 70 หมื่นล้านบาท) อย่างไรก็ตาม หลายประเทศยังคงคัดค้าน เนื่องจากมองว่าการเพาะเลี้ยงเนื้อสัตว์ในห้องทดลองนั้นอาจอันตรายต่อสุขภาพมนุษย์ เช่น อิตาลี ฝรั่งเศส ออสเตรีย และโรมาเนีย โดยออกกฎหมายห้ามผลิตและจำหน่ายเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยง เพราะกังวลถึงความปลอดภัยด้านสุขภาพ ปกป้องวัฒนธรรมการกิน และขจัดภัยคุกคามต่อวัฒนธรรมการทำการเกษตรแบบดั้งเดิม 

การผลิตเนื้อสัตว์จากห้องทดลองอาจดูเป็นเรื่องใหม่ และหลายคนไม่วางใจที่จะหันมาลองชิม แต่จากรายงานของ The Guardian ผู้ที่ได้ชิมเนื้อสัตว์สังเคราะห์ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เนื้อสัมผัสไม่ต่างจากเนื้อสัตว์จริง ๆ และยังมีความนุ่มมากกว่าปกติ นับเป็นความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ที่ทำให้เห็นว่า ความมั่นคงทางอาหารอาจไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป



แหล่งอ้างอิง :
  • Anay Mridul. (23 January 2024). Cultivated Meat Regulation: Where Are We? UK, Israel & Australia Forge Ahead, US & EU Fall Behind. เข้าถึงได้จาก https://www.greenqueen.com.hk/cultured-lab-grown-meat-regulation-uk-israel-australia-us-eu-approval/
  • Chalathip. (1 August 2022). อาหารแห่งอนาคต มนุษย์อาจต้องกิน Lab-grown meat เนื้อเพาะเลี้ยงจากห้องแล็บ. เข้าถึงได้จาก https://workpointtoday.com/future-of-food-lab-grown-meat/
  • Clara Rodríguez Fernández. (13 April 2022). Cultured Meat Is Coming Soon: Here’s What You Need to Know. เข้าถึงได้จาก https://www.labiotech.eu/in-depth/cultured-meat-industry/
  • Elena Valeriote. (18 May 2023). Italy’s Ban on Cultured Meat Raises Questions About Innovation Versus Tradition. เข้าถึงได้จาก https://modernfarmer.com/2023/05/italys-ban-on-cultured-meat/
  • Mitch. (28 February 2024). Lab-Grown Meat in 2024 and beyond: is it ready yet? เข้าถึงได้จาก https://labgrownmeat.com/lab-grown-meat-future/
  • ขนิษฐา จันทร์เจริญ. (17 December 2021). “เนื้อหมูเพาะเลี้ยง” จากห้องแล็บสู่จาน นักวิจัยจุฬาฯ หวังสร้างความมั่นคงทางอาหารในอนาคต. เข้าถึงได้จาก https://www.chula.ac.th/highlight/57243/
  • ทำความรู้จัก Cultured Meat แหล่งโปรตีนใหม่แห่งโลกอนาคต. (2 December 2022). เข้าถึงได้จาก https://krungthai.com/Download/economyresources/EconomyResourcesDownload_1875Research_Note_02_12_65.pdf

URL อ้างอิง:

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เราใช้คุกกี้ (Cookie) เพื่อใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพเว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ นโยบายคุกกี้
ยอมรับ