Notifications

You are here

ห่วงโซ่คุณค่า

เจาะอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต (Food for the Future)

23 สิงหาคม 2024 40 อ่านข่าวนี้ 3 เดือนก่อน 0
แผนแม่บท : แผนแม่บท อุตสาหกรรมและ บริการแห่งอนาคต  
หมวดหมู่ : #4.6การพัฒนาระบบนิเวศอุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต 


อุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคตกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยมีการนำวัตถุดิบจากผลผลิตทางการเกษตรมาผ่านกระบวนการแปรรูปและแปลงสภาพให้เป็นอาหารที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค อุตสาหกรรมนี้สามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก

1. อาหารออร์แกนิก (Organic Food) : เป็นอาหารที่ผลิตโดยไม่ใช้สารเคมีสังเคราะห์ เช่น ปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลง การบริโภคอาหารออร์แกนิกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทั่วโลก เนื่องจากผู้บริโภคตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพและสิ่งแวดล้อม การผลิตและการบริโภคอาหารออร์แกนิกยังช่วยสนับสนุนการเกษตรที่ยั่งยืนและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ข้าว ผักและผลไม้ออร์แกนิก ผลิตภัณฑ์จากนมออร์แกนิก เช่น นมและโยเกิร์ตที่ผลิตจากวัวที่เลี้ยงด้วยวิธีธรรมชาติ ปราศจากฮอร์โมนและยาปฏิชีวนะ




2. อาหารใหม่ (Novel Food) : คือ อาหารที่ผลิตจากวัตถุดิบหรือมีส่วนประกอบที่ผ่านกระบวนการผลิตที่ไม่ใช่กระบวนการทั่วไป ซึ่งอาจเป็นอาหารที่ไม่เคยบริโภคมาก่อนในบางภูมิภาค หรือมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างหรือรูปแบบของอาหารอย่างมีนัยสำคัญ ตัวอย่างเช่น 
  • แมลงกินได้ แมลงบางชนิดได้รับการอนุมัติให้เป็นอาหารในยุโรป เช่น หนอนนก ตั๊กแตน จิ้งหรีดบ้าน และหนอนควาย ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนที่ยั่งยืนและมีศักยภาพในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
  • อาหารจากเซลล์เพาะเลี้ยง เช่น เนื้อสัตว์ที่ผลิตจากเซลล์เพาะเลี้ยงในห้องปฏิบัติการ ซึ่งไม่ต้องใช้การเลี้ยงสัตว์แบบดั้งเดิม ทำให้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ
  • อาหารจากพืชชนิดใหม่ เช่น การใช้พืชที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักหรือพืชที่มีการปรับปรุงพันธุกรรมเพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการและความยั่งยืน เช่น การใช้พืชตระกูลถั่วและเมล็ดพืชที่มีโปรตีนสูง
  • ผลิตภัณฑ์จากการหมักและการแปรรูปใหม่ เช่น การผลิตกรดแล็กติกจากมันสำปะหลังโดยใช้เชื้อรา Rhizopus Oryzae ซึ่งเป็นกระบวนการที่สามารถใช้วัตถุดิบที่มีราคาถูกและมีอยู่มากในประเทศไทย และ ยีสต์ชนิดใหม่ Kazachstania Surinensis ที่ถูกค้นพบจากอาหารหมักดองแบบไทยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งแสดงถึงความหลากหลายทางชีวภาพและศักยภาพในการพัฒนาให้เป็นส่วนประกอบในอาหารใหม่

3. ผลิตภัณฑ์อาหารสุขภาพ (Functional Food) : เป็นอาหารที่มีการพัฒนาเพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการและส่งเสริมสุขภาพของผู้บริโภค เช่น การลดการอักเสบ การควบคุมน้ำหนัก และส่งเสริมสุขภาพจิต อาหารเหล่านี้มักมีสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพที่มีคุณสมบัติส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค เช่น อาหารที่มีส่วนผสมของโปรไบโอติกหรือสารต้านอนุมูลอิสระ
  • ไฮโดรไลเซตจากรกหมู รกหมูสามารถนำมาใช้เป็นแหล่งโปรตีนในการผลิตไฮโดรไลเซตที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและต้านแบคทีเรีย ซึ่งสามารถนำไปใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารสุขภาพในอนาคต
  • กระบองเพชร ส่วนประกอบของกระบองเพชรใช้ในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น ขนมปัง เจลลี และโพรไบโอติก กระบองเพชรมีสารต้านอนุมูลอิสระ มีคุณสมบัติลดน้ำตาลในเลือด มีการผลิตที่ยั่งยืนและสามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

4. อาหารทางการแพทย์ (Medical Food) : ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ภายใต้การควบคุมของแพทย์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารที่ถูกต้องและเหมาะสมต่อโรคเฉพาะ อาหารเหล่านี้มักถูกใช้ในสถานการณ์ที่ผู้ป่วยมีความต้องการทางโภชนาการเฉพาะเจาะจง เช่น 
  • อาหารสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน เพื่อช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เช่น ผลิตภัณฑ์ที่มีดัชนีน้ำตาลต่ำ หรืออาหารที่เสริมด้วยไฟเบอร์เพื่อช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาล
  • อาหารสำหรับผู้ป่วยโรคไต อาหารที่มีการควบคุมปริมาณโปรตีน โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส และโซเดียม เพื่อช่วยลดภาระการทำงานของไตและป้องกันการสะสมของสารพิษในร่างกาย
  • อาหารสำหรับผู้ป่วยโรคทางเดินอาหาร อาหารที่ออกแบบมาเพื่อช่วยบรรเทาอาการและช่วยฟื้นฟู เช่น อาหารที่ปราศจากกลูเตนสำหรับผู้ป่วยโรคเซลิแอค หรืออาหารที่มีโพรไบโอติกสำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาลำไส้
การพัฒนาและการยอมรับอาหารในแต่ละประเภทนี้มีส่วนช่วยในการเปลี่ยนแปลงวิธีการบริโภคอาหารและดูแลสุขภาพของเราในอนาคต ทั้งนี้ การวิจัยและนวัตกรรมยังคงมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาหารให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน

แหล่งอ้างอิง : 

URL อ้างอิง:

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เราใช้คุกกี้ (Cookie) เพื่อใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพเว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ นโยบายคุกกี้
ยอมรับ