โครงสร้างพื้นฐาน ระบบโลจิสติกส์ และดิจิทัล

LAST - MILE DELIVERY จัดส่งขั้นสุดท้ายเพื่อลูกค้าพอใจสูงสุด

20 มีนาคม 2025
|
910 อ่านข่าวนี้
|
0

LAST - MILE DELIVERY จัดส่งขั้นสุดท้ายเพื่อลูกค้าพอใจสูงสุด

    การขนส่งสินค้าหรือโลจิสติกส์เป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจหลายประเภท Last - Mile Delivery การจัดส่งขั้นสุดท้ายก่อนลูกค้าได้รับสินค้าที่มีประสิทธิภาพสูงจึงเข้ามาตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่เน้นความเร็วมาเป็นอันดับแรก

LAST - MILE DELIVERY คืออะไร

    Last - Mile Delivery หรือ Last Mile Logistics หรือการจัดส่งขั้นสุดท้าย หรือการส่งมอบไมล์สุดท้าย คือ ขั้นตอนสุดท้ายในการจัดส่งสินค้าจากผู้ส่งถึงผู้รับ และการให้บริการก่อนสินค้าจะถูกขนส่งจากคลังสินค้าไปยังปลายทางหรือหน้าบ้านของลูกค้า อาจจะมาจากศูนย์กระจายสินค้า โรงงานผู้ผลิต โกดังสินค้า แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องส่งถึงมือลูกค้าได้เร็วที่สุด ซึ่งความท้าทายอยู่ที่การเลือกกระบวนการขนส่งที่เหมาะสมและเกิดปัญหาน้อยที่สุด

รูปแบบของ LAST - MILE DELIVERY

    1) ซื้อของทั่วไป (Conventional Shopping) ผู้บริโภคเดินทางไปซื้อสินค้าที่ร้านด้วยตนเองและรับผิดชอบขนส่งขั้นสุดท้ายด้วยตนเอง โดยขับรถยนต์ส่วนตัว ใช้ระบบขนส่งสาธารณะ หรือเดินไปที่ร้าน

    2) จุดรับ ณ สาขาของร้านค้า (Click and Collect) ผู้บริโภคสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งสินค้าอาจมีในสต็อกหรือส่งจากคลังสินค้าไปยังสาขาที่ลูกค้าเลือกรับสินค้า เมื่อสินค้าไปถึงสาขาลูกค้าสามารถรับสินค้าได้ทันที ช่วยลดเวลาเพราะสั่งซื้อออนไลน์ล่วงหน้า นิยมใช้กับร้านค้าปลีกและสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป

    3) จุดรับสินค้าด้วยตนเอง (Pickup Points) สินค้าจะถูกส่งไปยังจุดรวมและกระจายสินค้า (Point of Consumption: POC) ที่ตั้งอยู่ใกล้พื้นที่ชุมชน เช่น ร้านค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ฯลฯ ลูกค้าไปรับสินค้าตามจุดที่กำหนด

    4) จุดตั้งตู้ล็อกเกอร์ (Locker Stations) การจัดส่งรูปแบบนี้คล้ายจุดรับสินค้าด้วยตนเอง ยืดหยุ่นด้านเวลา เพราะลูกค้าไปรับสินค้าได้ตลอดเวลา มักตั้งอยู่ในพื้นที่สำคัญ เช่น สถานีรถไฟ สนามบิน สถานที่ชุมชน ฯลฯ

    5) จัดส่งถึงบ้าน (Home Deliveries) หลังสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ ผู้ให้บริการจะส่งสินค้าไปถึงบ้านของลูกค้าโดยเร็ว แต่อาจมีปัญหาบ้าง เช่น จัดส่งไม่สำเร็จเพราะไม่มีคนอยู่บ้าน ส่งผิดที่ การคืนสินค้า ฯลฯ

    6) จัดส่งไปยังรถส่วนบุคคล (In - car Delivery) ลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้าออนไลน์สามารถเลือกรับสินค้าผ่านการส่งมอบโดยรถยนต์ส่วนบุคคลที่จอดรออยู่ในเขตเมืองตามเวลาที่กำหนด แต่รูปแบบนี้จะมีข้อจำกัดด้านพื้นที่ให้บริการและมักจำกัดเฉพาะในเขตเมืองใหญ่เท่านั้น


ขั้นตอนจัดส่งสินค้า LAST - MILE DELIVERY

    1. คำสั่งซื้อเข้าสู่ระบบ ติดตามสถานการณ์จัดส่งผ่านหมายเลขติดตามสินค้า

    2. คำสั่งซื้อส่งไปยังศูนย์คัดแยกสินค้า รอการจัดส่งถึงผู้รับปลายทาง นับเป็นการเริ่มต้นการจัดส่งช่วงสุดท้าย (Last - Mile Delivery) ธุรกิจต้องมั่นใจว่าสินค้าถูกส่งจากศูนย์คัดแยกไปยังลูกค้าเร็วที่สุด

    3. คำสั่งซื้อถูกจัดสรรให้พนักงานจัดส่งตามเส้นทางและที่อยู่ของผู้รับ การคัดแยกและจัดสรรพัสดุเป็นสิ่งสำคัญช่วยให้การจัดส่งมีประสิทธิภาพ

    4. คำสั่งซื้อถูกสแกนก่อนนำขึ้นยานพาหนะเพื่อจัดส่ง มีการอัปเดตสถานะคำสั่งซื้อให้ผู้ส่งและผู้รับสินค้า ช่วยลดความเสี่ยงพัสดุสูญหายระหว่างจัดส่ง

    5. คำสั่งซื้อถึงมือผู้รับปลายทางเรียบร้อย พนักงานจัดส่งยืนยันว่าส่งสินค้าสำเร็จ

LAST - MILE DELIVERY ใช้เวลานานแค่ไหน

    การใช้เวลาในการขนส่งสำหรับ Last - Mile Delivery ควรเน้นความรวดเร็วและน่าเชื่อถือ ไม่ควรสร้างความกังวลใจให้ลูกค้า จึงต้องเลือกผู้ให้บริการขนส่งที่ทำงานรวดเร็ว นอกจากนี้ตำแหน่งของศูนย์กระจายสินค้ากับปลายทางของลูกค้าเป็นเส้นทางที่แตกต่างกัน ระหว่างทางอาจพบปัญหาการจราจร สภาพอากาศที่แตกต่างกัน ทำให้ความเร็วในการส่งสินค้าต่างกัน สามารถติดตามการขนส่งไมล์สุดท้ายได้แบบเรียลไทม์

ข้อดีของ LAST - MILE DELIVERY ประสิทธิภาพสูง

  • จัดส่งรวดเร็วและสะดวกสบาย เพิ่มความพึงพอใจให้ลูกค้าจากการที่พัสดุส่งตรงถึงหน้าบ้าน แทนที่จะต้องเดินทางไปยังร้านค้าหรือจุดรับสินค้า มักเริ่มต้นจากศูนย์กระจายสินค้าช่วยลดระยะเวลาการจัดส่ง
  • กระตุ้นยอดขายและรายได้ บริการจัดส่งที่รวดเร็วและน่าเชื่อถือดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้น หากขยายการจัดส่งในพื้นที่ห่างไกลหรือชนบท ยอดขายอาจเติบโตเร็วยิ่งขึ้นและเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ได้
  • ยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงาน Last - Mile Delivery การจัดส่งสินค้าช่วงสุดท้ายช่วยให้ธุรกิจปรับปรุงการดำเนินงานให้ดียิ่งขึ้น นำเทคโนโลยีดิจิทัลและระบบอัตโนมัติเข้ามาใช้ ทำให้จัดส่งรวดเร็วและดียิ่งขึ้น

อนาคตของ LAST - MILE DELIVERY

  • ตอบสนองคำสั่งซื้ออย่างรวดเร็ว (Rapid Order Fulfillment) ผู้บริโภคต้องบริการจัดส่งแบบทันทีหรือภายในวันเดียว สร้างความท้าทายให้กับกระบวนการโลจิสติกส์และการจัดการคำสั่งซื้อ
  • ติดตามสินค้าได้แม่นยำยิ่งขึ้น (Improved Traceability) ด้วยฟีเจอร์การติดตามสินค้าแบบเรียลไทม์ รวมถึงฟีเจอร์ยืนยันการจัดส่ง ช่วยลดปัญหาพัสดุสูญหายและเพิ่มความโปร่งใส
  • บริการจัดส่งภายในองค์กร (In - House Delivery Services) ลดต้นทุน เพิ่มการควบคุมการใช้ยานพาหนะ พนักงานบริษัทช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพการจัดส่ง ครอบคลุมช่วงเย็นและวันหยุด
  • ขายเพิ่มโดยผู้ให้บริการขนส่ง (Carrier Upsells) กลยุทธ์การขายเพิ่มกำลังมีบทบาทในช่วงการจัดส่งสินค้า เช่น พนักงานจัดส่งอาจแนะนำสินค้าที่เกี่ยวข้องกับคำสั่งซื้อเดิมของลูกค้า เป็นต้น
  • เทคโนโลยีอัจฉริยะ (Smart Technology) ใช้กับการขนส่งสินค้าที่เน่าเสียได้ เช่น อาหารสดและต้นไม้ ต้องการเทคโนโลยีที่ควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น และคุณภาพอากาศ ศูนย์กระจายสินค้าสมัยใหม่ยังใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะในการจัดการเส้นทางการจัดส่งเพื่อคงคุณภาพสินค้าและเพิ่มประสิทธิภาพ
  • หุ่นยนต์และโดรน (Robots and Drones) เข้ามาเปลี่ยนกระบวนการจัดส่งในอนาคต ด้วยการนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพการจัดส่งสินค้าตลอด 24 ชั่วโมง

ล้อมกรอบ

          ลูกค้าต้องการอะไรจาก LAST - MILE DELIVERY

  • ความเร็ว
  • ต้นทุน
  • คุณภาพ
  • ตัวเลือกการจัดส่งหลากหลาย (วันถัดไปหรือวันเดียวกัน)
  • เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม


 ข้อมูลอ้างอิง :

    - optimoroute.com/last-mile-delivery/

    - www.bangkokbiznews.com/business/economic/1134892

    - www.emarketer.com/insights/last-mile-delivery-shipping-explained/

    - www.dhl.com/discover/th-th/logistics-advice/import-export-advice/last-mile-solutions

    - fareye.com/what-is-last-mile-delivery

    - dol.dip.go.th/uploadcontent/DOL/Teerasak/2565/Last%20mile%20and%20ALPI.pdf




0 ความคิดเห็น

Ask OKMD AI