“อิ่มอุ่น โฮมคาเฟ่” ร้านที่อบอุ่นเหมือนบ้านของผู้มาเยือน
“อิ่มอุ่น โฮมคาเฟ่”
มากกว่าคำว่า ‘อร่อย’ คือความใส่ใจในคุณภาพจากวัตถุดิบที่ปลอดภัย
เสียงดนตรีสบาย ๆ ภายใต้ร่มไม้น้อยใหญ่ ที่บริเวณท้ายซอยราชทัณฑ์ 5 ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดนครพนม เป็นที่ตั้งของร้าน “อิ่มอุ่น โฮมคาเฟ่” ร้านในสวนข้างบ้านที่อบอวลไปด้วยรอยยิ้มและมิตรภาพ โดยมีเครื่องดื่มทั้งร้อนและเย็นไว้คอยให้บริการ แต่ที่เป็นไฮไลต์ของทางร้านก็คือ “ขนมไทย” ซึ่งใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติที่สอดคล้องไปตามฤดูกาลและปลอดสารพิษ โดยมี 2 ศรีพี่น้อง ‘ลูกตาล-ชวีญา’ และ ‘น้ำหวาน-ศศิณี’ แห่งครอบครัว ‘กุลตังวัฒนา’ เป็นผู้ลงมือรังสรรค์ ทั้งเมนูขนมไทยโบราณหากินยาก และเครื่องดื่มชนิดต่าง ๆ ด้วยตนเอง ‘อิ่มอุ่น โฮมคาเฟ่’ ก่อร่างสร้างตัวมาได้ราว 4 ปี หลังจากที่สองพี่น้องได้นำพาทั้งหัวใจและประสบการณ์กลับมายังบ้านเกิดเมืองนอนแห่งนี้

ความทรงจำในเมืองแห่งสายน้ำ
‘ลูกตาล’ ผู้เป็นพี่ และ ‘น้ำหวาน’ ผู้เป็นน้อง เกิดและเติบโตในครอบครัวที่คุณพ่อและคุณแม่รับราชการครูอยู่ในจังหวัดนครพนม ในวัยเด็กราว 40 ปีก่อน น้ำหวานเกริ่นถึงเมืองนครพนมให้ฟังว่า เป็นเพียงเมืองเล็ก ๆ ที่เงียบสงบ เรียบง่าย ผู้คนในเมืองนอกจากจะรับราชการแล้ว ก็มักจะประกอบอาชีพเกษตรกรรมและค้าขายเป็นส่วนใหญ่
“ภาพรวมของเมืองก็จะเป็นเมืองที่เรียบง่าย ไม่เร่งรีบ เป็นเมืองแห่งสายน้ำ ทุกครั้งที่ไปริมโขงก็จะมีความสุข อันนี้เป็นความทรงจำตั้งแต่แรกในวันนั้นจนถึงวันนี้ก็ยังรู้สึกแบบนั้นอยู่” น้ำหวานเล่าย้อนความทรงจำด้วยรอยยิ้ม “เท่าที่จำได้ คนแก่ก็จะเล่าถึงสภากาแฟที่ร้านไทยสามัคคีที่อยู่ใกล้ ๆ กับหอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์ ตรงนั้นก็จะมีทั้งคนท้องถิ่น และชาวต่างชาติที่เป็นทหารมาดื่มกาแฟพูดคุยกัน นอกจากนี้ ก็ยังมีร้านกาแฟเก่าแก่อยู่เป็นคุ้ม ๆ อีกหลายแห่งในบริเวณริมโขง”
ลูกตาลพูดเสริมเรื่องบรรยากาศของเมืองในยุคที่มีทหาร GI เข้ามาอยู่ประจำการ ทำให้เมืองเล็ก ๆ อันสงบเงียบ กลับมีความคึกคักขึ้นมาบ้าง หลังจากทั้งสองใช้ชีวิตในวัยเด็กที่นครพนมจนเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนปิยะมหาราชาลัย ทั้งคู่ก็ค่อย ๆ ทยอยออกเดินทางไกล หันหลังจากบ้านเกิด เพื่อโบยบินสู่เส้นทางแห่งความฝันที่ต่างกัน

โบยบินสู่เมืองแห่งความฝัน
‘ลูกตาล’ สอบติดที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน กรุงเทพฯ หลังจากเรียนได้ 2 ปีเธอก็ต้องหยุดเรียน แล้วไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง จนได้เข้าทำงานด้านบริการอยู่หลายแห่งที่กรุงเทพฯ ซึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญของน้ำตาลเกิดขึ้นในปี 2555 เมื่อเธอได้ไปเที่ยวที่เมืองปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เธอเล่าว่ารู้สึกหลงใหล และประทับใจในเสน่ห์ของเมืองปาย ณ เวลานั้นเอามาก ๆ จนทำให้เธอลงทุน ลงแรง เปิดร้านกาแฟและเกสต์เฮาร์สอยู่ที่นั่น ส่วน “น้ำหวาน” ได้โควต้านักกีฬาเข้าเรียนนิเทศศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม หลังจบการศึกษาปริญญาตรี เธอก็เข้าทำงานในตำแหน่งประชาสัมพันธ์ค่ายเพลงเพื่อชีวิตที่ชื่อว่า ‘รถไฟดนตรี’
“ด้วยความบังเอิญ ศิลปินคนแรกที่เราทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ให้ก็เป็นศิลปินลูกทุ่งเพื่อชีวิตชื่อ ‘เดวิด อินธี’ ซึ่งก็เป็นคนนครพนมเหมือนกัน” ลูกตาลเล่าเหตุการณ์ความบังเอิญนี้พร้อมเสียงหัวเราะ ก่อนที่น้ำหวานจะเล่าต่อว่า “ที่รถไฟดนตรีจะมีศิลปินเบอร์ใหญ่ ๆ ที่เราพอจะรู้จักมาก่อน เช่น สาวสาวสาว, อ้อย กระท้อน, หรืออย่าง ปฐมพร ที่นับเป็นตำนานศิลปินในยุคนั้น เราก็จะตื่นเต้นมากที่ได้ทำงานในค่ายของศิลปินเหล่านั้น”

"ในตอนนั้นต้องขับรถจากย่านนนทบุรีไปที่ช่อง 3 แล้วรถก็ติดมาก มันทำให้ชีวิตห่อเหี่ยว รู้สึกไม่สนุก ไม่มีความสุขในชีวิตที่กรุงเทพฯ แล้วลูกก็จะขึ้นชั้นประถมฯ ก็อยากให้เขาได้มาอยู่กับธรรมชาติด้วย อยู่กับสภาพแวดล้อมดี ๆ แต่ประเด็นหลักก็คงอยู่ที่พ่อป่วยเป็นโรคพาร์กินสัน เราอยากอยู่กับพ่อตอนที่เขายังเดินได้ ไม่ใช่มาดูแลกันตอนป่วยติดเตียงไปแล้วช่วงเวลาใกล้เคียงกันนั้น ความโชคร้ายก็ได้มาเยือนลูกตาล เธอมีปัญหาเรื่องสุขภาพ จนต้องย้ายกลับจากเมืองปาย แม่ฮ่องสอน เพื่อมาพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านเกิดนครพนมภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของคุณแม่ นับจากนั้น วิถีทางแห่งการกลับบ้านของทั้งสองพี่น้องก็ได้เริ่มต้นขึ้น"
อิ่มอุ่น โฮมคาเฟ่ ในอ้อมกอดของบ้านเกิด
เมื่อแรกที่จะทำร้าน อิ่มอุ่น โฮมคาเฟ่ ทั้งสองก็มองหาความแตกต่างในแง่การตลาดเพื่อดึงดูดลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ประกอบกับความคิดที่เชื่อมั่นว่า ขนมไทยมีเสน่ห์ไม่ใช่แค่เพียงหน้าตาหรือรสชาติ แต่ยังรวมถึงขั้นตอนการลงมือทำ ความใส่ใจ รวมถึงการคัดสรรวัตถุดิบด้วย น้ำหวานเล่าให้ฟังถึงเรื่องวัตถุดิบที่ทางร้านเลือกใช้ว่า ขนมไทยที่อิ่มอุ่น โฮมคาเฟ่



